บทที่ 5 เจ้าชอบนางหรือ
หนานอิงผ่านศึกหนักมาทั้งคืนจนกระทั่งร่างกายบอบบางของนางรับไม่ไหวและสลบไปท่ามกลางน้ำกามที่นองเต็มเตียง
สองอ๋องที่เสพสมกับนางอย่างบ้าคลั่งแล้วยังนั่งดื่มสุราจนถึงรุ่งสาง เขาทั้งคู่ต่างผ่านศึกสงครามมานับสิบปี กว่าจะทำสัญญาสงบศึกกับแคว้นข้างเคียงได้ก็สูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตไปมาก
เมื่อถึงคราที่ต้องกลับเมืองหลวงจึงคิดใช้ชีวิตที่ขาดหายดื่มกินร่ำสุรานารีกันอย่างเต็มที่ กระทั่งการแต่งงานมีภรรยาอย่างที่ไทเฮาทรงตั้งความหวังต่อพวกเขาคนทั้งคู่ยังไม่ไยดี
เมื่อบนเตียงมีสตรีผู้หนึ่งที่เสพน้ำกามของพวกเขามาทั้งคืนนอนอยู่จึงไม่มีผู้ใดคิดที่จะใช้เตียงนั่นอีก ในเมื่อได้รับการปลดปล่อยแล้วไยต้องไยดีกับนางกันเล่า
เรือนกายงดงามของนางถูกพวกเขาย่ำยีจนกระทั่งเกิดรอยแผลช้ำเต็มไปหมด ลำคอถูกทิ้งร่องรอยเอาไว้โดยไม่รู้ว่าเป็นร่องรอยของผู้ใดกันแน่
คนทั้งสองต่างเมาหัวราน้ำฟุบหลับไปบนเก้าอี้ตื่นขึ้นมาอีกคราก็พบว่าเป็นเวลาสายมากแล้ว อากาศด้านนอกหนาวเหน็บแต่คนทั้งคู่มีร่างกายที่แข็งแกร่งดั่งหินผา ฝ่าความหนาวสู้รบกลางหิมะมานับสิบปีร่างกายจึงทานทนเป็นอย่างยิ่งความหนาวเล็กน้อยไม่ทำให้พวกเขาสะเทือน
ผิดกลับหนานอิงสตรีอ่อนแอผู้นั้น นางเป็นคุณหนูของเศรษฐีโรงผลิตเครื่องหอมในเมืองซูอาน บิดาของนางนอกจากจะมีกิจการค้าขายเครื่องหอมที่ส่งออกขายไปทั่วแคว้นแล้วยังเป็นเจ้าของโรงจำนำเลื่องชื่อ
หนานอิงเดิมทีไม่เคยออกไปให้ผู้ใดยลโฉมเป็นสตรีในห้องหอผู้หนึ่ง นางเป็นบุตรสาวของอนุแต่เพราะนางงดงามอ่อนหวาน เชี่ยวชาญในศาสตร์และศิลป์ทุกด้านอีกทั้งยังปราดเปรื่องในเรื่องเครื่องหอมอันได้รับคุณสมบัติส่วนนี้ตกทอดมาจากบิดา
ความงามของนางเลื่องลือไปทั่วเมือง นางกลายเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งและคิดค้นเครื่องหอมใหม่ ๆ ออกมาขายสร้างกำไรให้แก่สกุลหนานเป็นอันมาก
เพราะเป็นเช่นนี้ถึงเป็นลูกอนุแต่นางกลับได้รับความโปรดปราน บุรุษต่างอยากได้นางเป็นภรรยาเอก
นางหมั้นหมายกับคนของสกุลหวังผู้หนึ่ง เขาเป็นบัณฑิตรูปงามปีนี้สอบจอหงวนได้สำเร็จและอีกไม่นานเขาจะรับหนานอิงเป็นฮูหยินเอกของจวน สร้างความปลาบปลื้มให้กับบิดาของนางเป็นอย่างมากส่งผลให้ฐานะในจวนของมารดาของหนานอิงที่มีบุตรสาวเป็นที่พึ่งแทบจะสูงกว่าฮูหยินใหญ่เสียอีก
แน่นอนว่าไม่มีลูกอนุคนใดจะได้รับการยกย่องให้เกินหน้าเกินตาบุตรของฮูหยินใหญ่ แต่ไม่ใช่สำหรับสาวงามที่เพียบพร้อมอย่างหนานอิงผู้นี้
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันพลันเกิดขึ้นในวันที่นางนำเครื่องหอมที่คิดค้นใหม่ไปยังร้านค้า กลับถูกกลุ่มคนชั่วจับตัวแม้คนคุ้มกันของนางจะมีมากแต่มีหรือจะสู้โจรร้ายได้
พวกเขาเรียกร้องเงินทองจากบิดาเป็นค่าไถ่จำนวนหนึ่ง แต่ไม่คิดจะส่งนางคืนให้บิดายังคิดจะขายนางเข้าหอนางโลม หนึ่งในโจรชั่วกลับต้องใจนางไม่สามารถระงับอารมณ์ได้จึงวางยานางและคิดย่ำยี
กระทั่งทหารของซู่อ๋องและอวิ๋นอ๋องยกทัพกลับจากชายแดนมาพอดี ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มโจรบนภูเขาคอยปล้นสะดมชาวบ้าน เหล่าทหารได้รับการไหว้วานให้ช่วยจัดการ ซู่อ๋องสั่งลูกน้องฝีมือดีขึ้นเขากำจัดโจรถ่อยจนสำเร็จในนั้นมีนางโลมที่ถูกพวกเขานำตัวมาปรนเปรออยู่หลายคน
นางโลมพวกนั้นปรนเปรอทหารหลายคนจนสำราญ หนานอิงที่กำลังกระสันอยากเพราะยากำหนัด มีใบหน้างดงามโดดเด่นจึงถูกจับตัวส่งท่านอ๋องทั้งสองเพื่อเชยชม
หนานอิงนอนสลบไม่รู้ตัว ถูกโจรจับมาอยู่ในสถานที่เย็นอยู่สองวันสองคืนโดยไม่ได้รับความอบอุ่นที่เพียงพอจึงทำให้ร่างกายอ่อนแอ
หลังถูกช่วยออกมาได้ยังต้องรับศึกกามอันหนักหน่วงและสองอ๋องผู้ไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับสตรีนอกจากปลดปล่อยความใคร่ยังปล่อยให้นางนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงโดยไม่มีสิ่งใดห่อหุ้นร่างกายท่ามกลางอากาศที่เหน็บหนาวแทบทั้งคืน
นั่นจึงทำให้หนานอิงจับไข้จนตัวร้อน ปากคอของนางแห้งผากนางรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างราวกับกำลังถูกใครสักคนเอามีดมาเฉือนเนื้อทีละชิ้นแม้กระทั่งเสียงครางที่หลุดออกมานางยังไม่มีแรง เมื่อขยับตัวก็คล้ายถูกเข็มเป็นพันเป็นหมื่นทิ่มตำร่างกาย เจ็บปวดจนน้ำตาไหลออกมาเปรอะเปื้อนใบหน้า
หนานอิงถูกทิ้งอย่างเดียวดายอยู่บนเตียง กระทั่งสองอ๋องนั้นตื่นขึ้นพวกเขาก็ไม่แม้แต่จะมองมายังนางผู้ให้ความสุขอันบ้าคลั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกับพวกเขาในราตรีที่ผ่านมา
หานเซียวลุกขึ้นจากเก้าอี้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเป็นอย่างยิ่งแม้ไม่ได้นอนบนเตียงนุ่มนิ่มแต่นักรบเช่นเขาแค่เพียงได้งีบหลับอย่างเต็มตาไม่ต้องคอยหวาดระแวงด้วยเกรงศัตรูจะลอบสังหารก็เท่ากับได้นอนอย่างสุขสบายที่สุดแล้ว
เมื่อมีเสียงขยับภายในกระโจมแม้จะเป็นเสียงที่แผ่วเบาลู่หนิงหวังพลันรู้สึกตัว มือของเขากำกระบี่ที่วางอยู่ข้างกายอย่างระวังแต่เมื่อเห็นว่าผู้ที่ยืนเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ข้างกายคือน้องชายต่างสายเลือดก็ยิ้มออกมา
สิ่งที่ทำให้เขายิ้มได้คือในทุกวันได้รู้ว่าน้องชายผู้ร่วมเป็นร่วมตายกับเขามาตั้งแต่ยังเยาว์มีชีวิตอยู่
หานเซียวเดินไปหยิบผ้าสะอาดผืนหนึ่งที่ทหารเตรียมไว้ให้แต่เช้าตรู่แล้วโยนให้ผู้เป็นพี่ เขารู้สึกเหนียวตัวเป็นอย่างยิ่งจึงคิดจะอาบน้ำเสียหน่อยจึงเดินออกไปทั้งที่เปลือยร่างสั่งทหารให้นำน้ำอุ่นถังใหญ่มาให้เขาชำระร่างกายพร้อมพี่ชาย
หานเซียวยังมีน้ำใจเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างขาวโพลนยังนอนหลับอยู่บนเตียงเพื่อไม่ให้ทหารพวกนั้นเห็นเขาจึงเดินเข้ามาปลดม่านบังตาสีขาวลงเป็นการปิดบังนางเอาไว้
เขาไม่รู้ว่าลู่หนิงหวังยังต้องการนางเป็นอนุหรือสตรีข้างห้องหรือไม่จึงป้องกันสายตาผู้คนไว้ก่อน ส่วนเขานั้นไม่คิดจะผูกพันกับนางต่อ
ในเมื่อเชยชมสมใจแล้วมองหาสตรีใหม่จะไม่ดีกว่าหรือ
ลู่หนิงหวังเห็นท่าทีอันอ่อนโยนต่อสตรีของน้องชายของเขาถึงกับหัวเราะออกมา
"เจ้าชอบนางหรือ คิดจะให้นางเป็นอนุหรือ"
หานเซียวหัวเราะ
"ข้าคิดว่าท่านพี่ชอบนางเสียอีก"
ลู่หนิงหวังเบ้ปาก เขาไม่มองนางด้วยซ้ำ งดงามแล้วอย่างไรในเมื่อเขาเชยชมไปแล้วมีสิ่งใดน่าดึงดูดอีกเล่า
"ข้าไม่คิดจะนำนางกลับจวนเช่นกัน ในจวนเสด็จแม่เตรียมสตรีให้เรามากเกินไปแล้ว"
ทหารร่างกำยำหลายนายช่วยกันยกอ่างอาบน้ำอุ่นเข้ามาด้านใน ได้ยินพวกเขาสนทนากันแต่ไม่ปริปากเพียงแต่ลอบมองไปยังคนที่ทำให้พวกเขาเสียน้ำโดยไม่รู้ตัวบนเตียงนั่น
แม้จะเห็นรางเลือนแต่ความขาวของนางใช่จะปิดบังกันได้ง่าย
"เจ้าชอบหรือ"
ลู่หนิงหวังเอ่ยถามทหารผู้นั้น
เขาตกใจรีบคุกเข่าลงทันใด สตรีของท่านอ๋องแม้จะเป็นนางโลมหากท่านอ๋องไม่ยกให้ผู้ใดก็หาได้มีใครกล้าที่จะแตะต้องนางอีก
"หามิได้ขอรับ"
ทหารผู้นั้นก้มหน้าต่ำลง ท่าทางของเขาเป็นจริงเช่นนั้นคือไม่อาจเอื้อม