4 รุจิเรขเมียที่ไม่ได้เรื่อง
เธอพูดเสียงแผ่ว แล้วหลับตาลงช้า ๆ บวรกอดร่างงามเอาไว้จนแน่น เขากระแทกอีกไม่กี่ครั้งก็ถึงที่หมาย โดยเกร็งตัวแล้วส่งเสียงคราง ตามด้วยพ่นน้ำออกมาจนหมด
“ผมก็เสร็จครับ คนอะไรกินอร่อยขนาดนี้”
เขาสรรพยอกอย่างนั้น ซึ่งเธอได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข และคิดว่าจะต้องหาทางจัดหนักกับบวรบ่อย ๆ
เสียงปิดประตูรถดังโครม ราวกับว่าไม่ใส่ใจว่าจะพัง ปลุกให้กล้าหาญลืมตาขึ้นมา หลังจากเพิ่งงีบหลับไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เขาถ่างตารอรุจิเรขผู้เป็นภรรยา อดีตนางแบบสาวสังคมจัด หลังจากแต่งงานได้เพียงสามวันพาเธอมาอยู่ที่ไร่ เพื่อสานต่องานของปู่ซึ่งเป็นมรดกตกทอด
ไร่องุ่นกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มีโรงงานทำไวน์ครบวงจร ความเป็นอยู่สะดวกสบาย เพียงแต่ไม่มีไฟแสงสีเท่านั้น แรกๆ รุจิเรขตื่นเต้น มีความสุข เพียงหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเริ่มบ่นหาศูนย์การค้า ผับ ร้านอาหารหรู เมื่อเขาไม่สามารถเนรมิตให้ได้ รุจิเรขออกไปเที่ยวในตัวจังหวัดตั้งแต่บ่าย กว่าจะกลับเข้าบ้านเลยเที่ยงคืนไปแล้ว
กลับมาในสภาพเมาแอ๋ กล้าหาญอับอายลูกจ้างจนแทบเอาหน้ามุดแผ่นดิน ครั้นเตือนภรรยา กลับเถียงอย่างชนิดที่เรียกว่าหัวชนฝา ไม่สนใจใด ๆ ทั้งสิ้น
“ไม่รู้เที่ยวอะไรได้ทุกวัน เงินใส่ซองคงหมดแล้วมั้ง”
กล้าหาญบ่นภรรยาด้วยเสียงไม่พอใจ ลุกขึ้นนั่งบนเตียง รอให้เธอเปิดประตูเข้ามา แต่ก็พบกับความเงียบ อดรนทนไม่ไหวลงมาชั้นล่าง
ภาพที่เห็นทำเอาอารมณ์ปรี๊ดขึ้นมาจนสุดจะทน รุจิเรขนอนหลับคอพับคออ่อนอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ขาข้างหนึ่งห้อยลงมา ผมยุ่งเป็นกระเซิง เสื้อผ้ายับยู่ยี่ กลิ่นเหล้าเหม็นคละคลุ้ง
“เมาขนาดนี้ยังขับรถกลับบ้านได้อีก ทำอย่างนี้เพื่ออะไร นี่หรือคนมาเป็นแม่บ้านของเรา คิดผิดจริงๆ”
เจ้าของไร่องุ่นพันธุ์ดีโอดครวญด้วยความช้ำชอกใจ หลังจากยืนมองภรรยาเพียงชั่วครู่และเขย่าบ่าแรงๆ
“รุ รุ ตื่น ได้ยินไหม”
“อือ อย่ายุ่ง จานอน”
“รุ ทำไมถึงเมาขนาดนี้ กินกับใคร บอกผมมานะ”
“บอกว่าจานอน กวนอยู่ด้ายยย ไป”
“กล้าส่งเสียงแบบนี้กับผมหรือ รุ”
อารมณ์โกรธพุ่งสูงขึ้นทันที เมื่อรู้ว่าภรรยาตะเบ็งเสียงใส่ อย่างไม่ยอมลดราวาศอก เขาไม่ไหวเช่นกัน บอกกับตัวเองว่าสุดทน
“เบื่อ ไปให้พ้น”
“มากไปแล้วนะ พูดกันให้รู้เรื่อง”
ชายหนุ่มกระชากแขนเต็มแรง ดึงร่างอ่อนปวกเปียกให้ลุกขึ้นมา แต่แล้วใบหน้าซบลงกับโซฟา นิ่งสนิทในทันที กล้าหาญส่ายศีรษะ เอือมระอา คิดไม่ถึงว่าภรรยาจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ เจ็บปวดหัวใจที่เลือกคนผิด เห็นแก่ความสวยงาม
สุดท้ายความทุกข์ได้มากเยือน นึกทบทวนชีวิตหลังแต่งงาน เธอไม่เคยทำอะไรให้ชื่นใจ นอกจากผลาญเงิน เที่ยว สร้างความอับอายมาให้ ถ้าไม่กลัวคนครหาให้เจ็บใจ คงหย่าไปแล้ว ทั้งที่เพิ่งแต่งงานได้ไม่ถึงสองเดือน
เวลานี้คงทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้เธอสร่าง คงเป็นสาย ๆ ของวันรุ่งขึ้น ได้แต่มองผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาด้วยความร้าวรานใจ
อาการปวดขมับตุบ ๆ ทำให้รุจิเรขต้องกลิ้งตัวเองไปมา แต่แล้วก็ต้องกรีดร้อง เมื่อร่างร่วงตกลงมานอนกองอยู่กับพื้น
“ว้าย ! ช่วยด้วย”
ความเจ็บปวดที่ได้รับเพราะศอกลงไปก่อน กระแทกกับพื้นหินอ่อน ปวดเสียจนน้ำตาร่วง ทำอะไรไม่ถูก รุจิเรขนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น
ต่วนคนใช้วัยสามสิบเศษ รับหน้าที่ทำทุกอย่างในบ้าน วิ่งเข้ามาประคองนายหญิงให้ลุกขึ้น
“คุณรุคะ คุณรุ ทำไมถึงตกลงมาล่ะคะ”
“อ้าว ! ฉันพลิกตัว มันก็ตกน่ะสิ ไม่ใช่เตียงนอนสักหน่อย ทำไมไม่มีใครปลุกฉันขึ้นไปนอนในห้องนะ คุณกล้าไปไหนเนี่ย”
รุจิเรขเริ่มเสียงดังใส่ต่วน ตามประสาหญิงเจ้าอารมณ์ สาวใช้หน้าเผือดสี หันไปมองทางไร่องุ่นที่เห็นคนงานกำลังช่วยกันตัดพวงองุ่น
“เข้าไร่ไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”
“หายใจเข้า หายใจออกเป็นแต่ไร่องุ่น แล้วแต่งงานกับฉันทำไม”
“รักคุณรุไงล่ะคะ”
“ไม่จริง ไม่เชื่อหรอก ถ้ารักฉันจริงก็ต้องเอาใจ ไม่ปล่อยให้เหงาอย่างนี้หรอก งกสิ ไม่ว่า”
“เชิญนั่งให้สบายก่อน คุณรุจะดื่มอะไรดีคะ”