บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 (ep4.)

หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากอเมริกา ชญานีหญิงวัยสี่สิบห้า ก็ดีใจอย่างมากที่ลูกชายของหล่อนกำลังจะกลับมาเมืองไทย หล่อนจึงรีบโทรไปบ้านของพี่ชาย คือ ดร.ดุริยะ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อแจ้งข่าวนี้ให้เขาทราบ

“คุณพี่คะ ไข่ปลาเรียนจบแล้วนะคะ กำลังจะบินกลับมา อิฉันส่งข่าวคุณพี่ แล้วจะถามว่าคุณพี่จะไปรอรับไข่ปลาด้วยกันไหมคะ”

ชายวัยห้าสิบแปดฟังคำบอกเล่าของน้องสาวก่อนจะหันไปทาง ดร.นิลรัตน์ ศาสตราประจำคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดัง วัยไล่เลี่ยกัน

“มาเมื่อไหร่”

เขาถามชญานีน้องสาวก่อนจะวางสาย แล้วมองหน้าภรรยาที่มองตรงมา พร้อมกับทอแสงลูกสาวของเขาทั้งสองที่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน

“ไข่ปลากลับเมืองไทย ถึงพรุ่งนี้เช้า”

เขาบอกกับภรรยา

“จริงหรือคะ ลูกเรากลับมาแล้ว”

ดร.นิลรัตน์ถามย้ำพร้อมกับยิ้มออกมา

“จริงหรือคะพ่อ ไข่ปลากลับมาแล้ว”

แทนคำตอบ ดร.ดุริยะพยักหน้ารับ ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกดีใจอย่างมากและวันรุ่งขึ้น ทุกคนก็ออกจากบ้านไปที่สนามบินเพื่อรอนายชลธิศหรือไข่ปลา ที่อยู่บนเครื่องบินซึ่งกำลังจะร่อนลงจอดในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

สายตาทุกคู่ต่างจ้องไปผู้โดยสารขาออก ซึ่งกำลังเดินออกมายังห้องรอรับผู้โดยสาร ทั้งดร.ดุริยะ ดร.นิลรัตน์ ชญานีและทอแสง ต่างตั้งตารอคอยชายหนุ่มรูปวัยยี่สิบสามปีด้วยใจจดจ่อ แต่ทว่ามีใครคนหนึ่งที่เดินตรงเข้ามา เจ้าหล่อนเป็นหญิงสาวรูปร่างบางอรชร ผิวขาวหมดจด ใบหน้าสวยหวาน เรือนผมยาวสยาย

เจ้าหล่อนเดินมาหยุดยืนตรงหน้าของทุกคนพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ สร้างความแปลกใจให้บุคคลทั้งสี่เป็นอย่างมาก พวกเขาต่างมองไปยังสตรีสาวคนนั้น

“พ่อขา แม่นิล แม่นี ขิม”

พวกเขาถูกเรียกชื่อออกมาอย่างคุ้นเคยด้วยน้ำเสียงที่หวานหูของหญิงสาวตรงหน้า ทำให้ทั้งสี่หันมามองหล่อนนิ่ง เพราะสรรพนามที่เจ้าหล่อนเรียกพวกเขานั้น คือสรรพนามที่นายชลธิศเคยเรียก

“ไข่ปลาเองค่ะ”

คำพูดต่อมาของหญิงสาวคนนั้นทำให้ทุกคนนิ่งงัน

“ไข่ปลาเองค่ะ”

หล่อนย้ำอีกครั้งเมื่อมองหน้าทอแสงนิ่ง

“ในที่สุด ความฝันของไข่ปลาก็เป็นจริง”

หล่อนพูดจบก็รวบมือบางของทอแสงมากุมไว้

“ชลธิศ!”

ทอแสงเรียกชื่อน้องชายออกมาเบา ๆ

“ใบหน้าของขิม สวยเหลือเกิน มันคือความใฝ่ฝันของไข่ปลา ว่าอยากจะมีใบหน้าที่สวยเหมือนขิม วันนี้ไข่ปลาสมหวังแล้วนะ เรามีใบหน้าที่คล้ายกันมาก”

ชลธิศพูดออกมาก่อนจะมองหน้าพ่อ แม่ และน้าซึ่งก็คือแม่เลี้ยงที่ขอชลธิศไปเลี้ยงตั้งแต่เล็กเนื่องจากตนเองไม่มีลูก

“อรุณรัตนาขอรายงานตัวค่ะ”

เจ้าหล่อนพูดแล้วก็ค้อมตัวลงกระพุ่มมือไหว้ทุกคนที่ยังยืนตะลึงงันจ้องมองใบหน้าของหล่อนที่คล้ายกับทอแสงจริง ๆ

“นี่มันอะไรกัน!”

ดร.นิลรัตน์เอ่ยออกมาเบา ๆ เมื่อมองดูลูกชายของหล่อนที่กลับกลายเป็นหญิงสาวที่สวยสะพรั่งแถมมีใบหน้าที่คล้ายกับลูกสาวคนโตอย่างมาก จนมองผิวเผินราวกับฝาแฝด ผิดกันตรงที่ชลธิศจะสูงกว่า

“ไข่ปลา นี่มันอะไรกันหา”

ชญานีรับรั้งแขนของชลธิศให้ก้าวไปใกล้หล่อนพร้อมกับชำเลืองสายตามาหาพี่ชายกับพี่สะใภ้ที่มีสีหน้าเผือดซีด

“แกทำแบบนี้ได้ยังไง”

ชญานียกมือตีที่แขนของชลธิศหลายครั้ง

“ไปคุยกันที่บ้าน”

ดร.ดุริยะพูดออกมาพร้อมกับประคองร่างของภรรยาให้เดินเคียงข้างเขานำหน้าไปยังรถที่จอดอยู่

เมื่อมาถึงบ้านชลธิศนั่งก้มหน้านิ่งท่ามกลางสายตาของคนทั้งสี่ คือพ่อ แม่ ชญานีและทอแสง นอกจากนั้นก็มีสาวใช้ คนงานภายในบ้านที่ต่างซุบซิบพูดคุยถึง

“เกิดอะไรขึ้น”

ดร.ดุริยะเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง แต่ในหัวใจของเขากำลังเต้นแรงด้วยความเสียใจ เพราะเขาคิดว่า เขามีลูกชายหนึ่งคนหวังให้ได้บวชเรียนตามพระพุทธศาสนาและเป็นผู้สืบสกุล แต่ก็ต้องผิดหวังกับการกระทำของลูก

“ไข่ปลาขอโทษค่ะพ่อ”

ชลธิศกระพุ่มมือไหว้พ่อด้วยน้ำเสียงของหญิงสาวที่หวานหูอย่างมาก ไม่หลงเหลือเสียงของชายหนุ่มอย่างเมื่อก่อนเลย

“ตลอดเวลาไข่ปลาเก็บความรู้สึกเอาไว้ ว่าไข่ปลาผิดปกติ ไข่ปลาไม่พอใจในสภาพของตนเอง ทุกครั้งที่ไข่ปลามองขิม ไข่ปลาจะเจ็บอย่างมาก เพราะขิมเป็นผู้หญิงที่สวย สะอาด ไข่ปลาอยากแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวย ๆ อยากใช้ชีวิตแบบผู้หญิง”

ดร.ดุริยะกำมือแน่น ในขณะดร.นิลรัตน์ถึงกับน้ำตาร่วง ไม่ต่างกับชญานีนัก ตลอดเวลาหล่อนเลี้ยงดูหลานเหมือนลูกก็จริง แต่ไม่เคยรู้ถึงความรู้สึกภายในและที่สำคัญความผิดปกติของชลธิศ ไม่มีใครรู้สักคน

“ทำไมทุกคนต้องเสียใจด้วยล่ะคะ ในเมื่อไข่ปลายังมีชีวิตอยู่ อยู่ให้ทุกคนได้เห็น อยู่กับทุกคนบนโลกใบนี้ ไข่ปลาไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายสักหน่อย ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ได้เป็นคนเลว เพียงแค่ไข่ปลาอยากเป็นผู้หญิงเท่านั้นเอง”

ชลธิศร้องไห้ออกมา ทำให้ทอแสงรีบโผเข้าไปกอดน้องเอาไว้แน่น

“ไม่เป็นไรจ้ะ ถูกแล้วพวกเราดีใจที่ไข่ปลากลับมาและยังมีชีวิตอยู่”

ชญานีเช็ดน้ำตาแล้วมองตรงมา

“หยุดพล่ามได้แล้วน่ารำคาญ”

ชญานีพูดออกมา

“ฉันจะกลับบ้านแล้วนะ แก..เธอจะกลับพร้อมฉันไหม”

ชลธิศมองหน้าชญานี

“ยังค่ะ ไข่ปลาจะอยู่ที่นี่ก่อน แล้วก็ขอร้องแม่นี ไข่ปลาเปลี่ยนชื่อแล้วนะคะ อรุณรัตนาคือชื่อใหม่ของไข่ปลา ไข่ปลาไม่อยากให้ใครจำชื่อนายชลธิศนั่นอีก”

ชญานีหันไปมองหน้าพี่ชายกับพี่สะใภ้

“นีอยากคุยกับพี่ค่ะ เราออกไปหาอะไรทานนอกบ้านกันนะคะ”

หล่อนพูดเมื่อมองหน้าพี่ชายแล้วหยุดที่พี่สะใภ้ ทำให้ดร.ดุริยะหันไปมองหน้าทอแสงที่พยักหน้าให้พ่อเหมือนกับจะบอกว่าเธอจะจัดการทุกอย่างทางนี้เอง จากนั่นดร.ดุริยะก็รวบมือภรรยาก้าวออกไปที่รถขับตามรถของชญานีไป

“ให้เวลาพวกท่านบ้างนะไข่ปลา”

ทอแสงหันมาหาน้อง

“แน่นอน ไข่ปลาอยากให้ทุกคนยอมรับไข่ปลาในสภาพนี้ กว่าไข่ปลาจะตัดสินใจทำแบบนี้ก็คิดมานาน คิดจนแทบบ้า แต่ว่าหากไข่ปลายังอยู่ในสภาพเดิม ไข่ปลาขอตายดีกว่า”

ทอแสงยกมือตบที่หลังมือของอรุณรัตนาเบา ๆ

“เอาน่า ทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป”

ทอแสงปลอบใจน้อง ในขณะที่ในหัวของเธอก็มึนไม่น้อย เมื่อจู่ ๆ น้องชายกลับกลายเป็นน้องสาวที่มีใบหน้าคล้ายเธอราวกับฝาแฝด ที่แท้เธอคือต้นแบบของน้อง คือความใฝ่ฝันของน้อง เธอคือความอิจฉาของน้องหรือนี่ มิหน้าที่ผ่านมาชลธิศมักจะแอบมองเธอ แอบดูเสื้อผ้าของเธอ เพราะอย่างนี้นี่เอง

สภาพจิตใจเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากคนในครอบครัวของเธอต่อต้านหรือด่าว่าชลธิศ อะไรจะเกิดขึ้น เธอรู้ดีว่าทั้งพ่อและแม่รวมถึงอาคือชญานี เสียใจมากแค่ไหนกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ แต่ว่ามันก็ยังดีที่ชลธิศยังมีชีวิตอยู่ให้พวกเขาได้เห็น ตอนนี้ก็รอเพียงแค่ให้คนในครอบครัวทำใจยอมรับเขาก็เท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel