บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 ร่วมเรียงเคียงหมอน

พอเห็นฟู่เยี่ยนสือคุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว เธอจึงเดินลงจากรถ

“นี่คืออาหารจิงโจว”

น้ำเสียงเขาค่อนข้างเย็นชา เสียงทุ้มเหมือนเชลโล

“อ๋อ” สวี่ชิงฮวนประหลาดใจนิดหน่อย แสดงว่าฟู่เยี่ยนสือจำได้ว่าตัวเองเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของเขาตอนม.ต้นใช่หรือเปล่า

หรือว่า......เขาจำได้ตั้งแต่แรก

พอยืนข้างฟู่เยี่ยนสือ สวี่ชิงฮวนรู้สึกว่าตัวเองไม่เข้ากับเขาเลย!

เขาสวมสูทสุดเนี้ยบ ดูก็รู้ว่าเป็นผู้ลากมากดี หันมาดูตัวเอง สมแล้วที่เป็นแค่ผู้ช่วย

เดินเข้าไปนั่งในร้านอาหารกับเขา สวี่ชิงฮวนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองทันที

ตอนนี้ตัวเองควรทำตัวยังไง คงพูดเรื่องสมัยม.ต้นกับเขาไม่ได้หรอกมั้ง!

เทียบกับเธอที่ทำตัวไม่ถูก ฟู่เยี่ยนสือเหมือนเผชิญหน้ากับเพื่อนที่เจอกันทุกวัน นิ้วเรียวยาวขยับคอเสื้อไปมา จากนั้นเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร

“เธอเป็นคนดูแลโปรเจคของฮว๋าเย่เหรอ”

จู่ๆ โดนถามเรื่องงาน สวี่ชิงฮวนพยักหน้าทันที “ใช่”

“เธอดูสถานการณ์การเงินทางธุรกิจอย่างละเอียดแล้วหรือยัง” ฟู่เยี่ยนสือเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย รอคอยคำตอบของเธอ

“ดูแล้ว ข้อมูลการเงินทางธุรกิจของพวกเขาเป็นความจริง ฉันเช็กดูทีละอย่างแล้ว ไม่ได้ปลอมแปลงขึ้นมา”

เขายกยิ้มมุมปากแล้วหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นมาจิบ “สวี่ชิงฮวน ข้อมูลไม่ได้ปลอมแปลงขึ้นมา ไม่ได้หมายความว่าการเงินปกตินะ”

เธอชะงักไป ฟู่เยี่ยนสือเอาเอกสารออกมาหนึ่งฉบับแล้วยื่นมาตรงหน้าตัวเอง

“มีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ในบัญชีของฮว๋าเย่แค่ห้าสิบล้าน แต่ในเอกสารกองทุนรวมตราสารทุนกลับเขียนว่าแปดสิบล้าน เธอว่าสุดท้ายใครจะเป็นคนชดเงินที่เหลือ”

“......”

“ทำโปรเจคใจร้อนไม่ได้หรอก” น้ำเสียงของฟู่เยี่ยนสือไม่เหมือนกับตอนที่ตำหนิผู้จัดการเฉินวันนั้น เหมือนเขาพูดเพราะหวังดีด้วยซ้ำ

สวี่ชิงฮวนขบริมฝีปากล่าง ทั้งหงุดหงิดตัวเองที่สะเพร่า แล้วก็ชื่นชมความสามารถของฟู่เยี่ยนสือด้วย

โปรเจคเพิ่งเสนอไป เขาก็เห็นถึงปัญหาได้เร็วขนาดนี้

พอเขาพูดแบบนี้ เธอยิ่งไม่มีกะจิตกะใจกินข้าว อยากกลับบริษัทไปตรวจสอบข้อมูลของฮว๋าเย่อย่างละเอียดอีกครั้ง

เหมือนดูออกว่าเธอคิดอะไรอยู่ ฟู่เยี่ยนสือคีบอาหารที่เพิ่งเอามาเสิร์ฟใส่ในจานของเธอ

“กินข้าวเสร็จเรายังมีเวลาอีกทั้งคืน”

ทั้ง...ทั้งคืนเหรอ?

สวี่ชิงฮวนช้อนตาขึ้นมองด้วยความตกใจ

“คืนนี้ฉันต้องอยู่กับนายเหรอ”

ฟู่เยี่ยนสือเลิกคิ้วเข้มขึ้นเล็กน้อย “พรุ่งนี้เช้าจะได้ไปจดทะเบียนสมรสได้สะดวกๆ ไง”

“ไม่ใช่อย่างนั้น” เธอกำมือใต้โต๊ะแล้วรวบรวมความกล้าถามว่า “ฉันจะถามว่าหลังจากเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว เรายังต้องอยู่ด้วยกันไหม”

ตัวเองต้องร่วมเรียงเคียงหมอนกับเขาจริงๆ เหรอ

“ก็ต้องเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”

น้ำเสียงที่ฟู่เยี่ยนสือย้อนถาม เหมือนเธอกำลังถามคำถามที่โง่มาก

พอสวี่ชิงฮวนมาคิดดูมันก็จริง

เขาต้องใช้เส้นสายติดต่อหมอที่น่าเชื่อถือมารักษาแม่เธอ อีกทั้งยังต้องจ่ายค่าผ่าตัดกับค่ารักษาพยาบาลแพงหูฉี่ จะแค่จดทะเบียนสมรสเฉยๆ ได้ยังไง

ฟู่เจียเจียเคยพูดว่าในหัวผู้ชายมีแต่เรื่องแบบนั้น! ตัวเองแค่ไร้เดียงสาเกินไปเท่านั้นเอง

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

“ไม่มี”

“เธอกินเยอะๆ หน่อย”

น้ำเสียงที่อ่อนโยนของฟู่เยี่ยนสือกับการที่เขาคีบอาหารให้เธอ ทำให้พวกเขาเหมือนคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานกันจริงๆ

มื้อนี้สวี่ชิงฮวนไม่มีความอยากอาหารเลย รู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก

ตอนนี้รถอยู่ระหว่างทางไปที่พักของฟู่เยี่ยนสือ ยิ่งใกล้ถึงปลายทาง เธอก็ยิ่งกระวนกระวายใจ

ฟู่เยี่ยนสือที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้มองเธอ เขาสั่งงานกับผู้ช่วยไม่กี่ประโยค แล้วพูดปิดท้ายว่า

“อ้อ เดี๋ยวนายซื้อถุงยางมาสักสองสามกล่องนะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel