ชีวิตรักของโดบี้

110.0K · ยังไม่จบ
Readed
52
บท
173
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"คุณชื่ออะไรนะ ?" ผมถามออกไป "แซมมี่" เจ้าหล่อนตอบ "ที่จริงฉันมีชื่อเต็มๆ นะ ชื่อซาแมนต้า เจน วิลเคอร์สันไงล่ะ แต่ใครๆ เขาชอบเรียกฉันว่าแซมมี่กันทั้งนั้นละ" "เอาละ คุณซาแมนต้า เจน วิลเคอร์สัน กรุณาย้ายก้นของคุณออกไป จากห้องนอนผมเดี๋ยวนี้เลย ตาบอดหรือไงถึงไม่เห็นว่าประตูมันปิดอยู่ ? แล้วไอ้การที่คนเขาปิดประตูไว้น่ะมันไม่ได้หมายความว่าห้าเข้างั้นเรอะ? นี่...จำไว้นะ คุณซาแมนต้า ถ้าเมื่อไหร่คุณเห็นประตูห้องนอนใครเขาปิดอยู่ละก็ อย่าได้เข้ามายุ่มย่ามเป็นอันขาด เข้าใจไหม ?" "อ๊ะ...เข้าใจซี่" เจ้าหล่อนว่า ตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้อง "เฮ้..." ผมตะโกนเรียกไว้ เจ้าหล่อนชะงักหันมามองหน้าผมนิ่งอยู่ "ถึงประตูจะเปิดก็ห้ามเข้าด้วย" "ชัดแล้วน่า" ซาแมนต้า เจน วิลเคอร์สันตอบ ก่อนที่จะเดินจากไป "อย่ามายุ่มย่ามแถวห้องผมอีกต่อไปด้วย" ผมตะโกนใส่หลัง...

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักรักหวานๆดราม่าโรแมนติก

บทที่ 1

เราพบกันตอนที่ผมอายุ 20 และแซมมี่อายุ 14, เจ้าหล่อนกลมป๊อกไปทั้งตัว นุ่งกางเกงที่ต้องมีสายรั้งไว้และเจ้าหล่อนเป็นเพื่อนกับเจอรัลดีนพี่สาวผม ซึ่งก็อ้วนเป็นกะปุกไม่แพ้กัน นุ่งกางเกงมีสายรั้งไว้เหมือนกัน ผมละจำได้แจ่มแจ้งเลยว่า แซมมี่ไว้ผมหางลา

ผมอาจจะเคยพบแซมมี่ตอนที่เจ้าหล่อนอายุน้อยกว่านั้นก็เป็นได้ เพราะเจ้าหล่อนกับพี่สาวผมเคยไปเข้าแคมป์ฤดูร้อนด้วยกันตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จน 13 ขวบโน่นแน่ะ ที่จริงพ่อผมก็ไม่ค่อยจะมีปัญญาส่งลูกสาวไปเข้าแคมป์เก๋ๆ อย่างพ่อของแซมมี่หรอก แต่ถึงยังไงก็ยังพยายามส่งไปจนได้นั่นแหละ

แต่กระนั้น ไอ้ช่วงตอนที่ผมจดจำแซมมี่ได้อย่างแม่นยำเป็นครั้งแรกนั่นน่ะ ก็เห็นจะเป็นตอนที่เจ้าหล่อนอายุ 14 อย่างว่า แล้วสถานที่ซึ่งเราพบกันก็คือ...ในห้องนอนของผมนั่นเอง

“คุณชื่ออะไรน่ะ?” ผมถามออกไป

“แซมมี่” เจ้าหล่อนตอบ “ที่จริงฉันมีชื่อเต็มๆ นะ ชื่อซาแมนต้า เจน วิลเคอร์สันไงล่ะ แต่ใครๆ เขาชอบเรียกฉันว่าแซมมี่กันทั้งนั้นแหละ”

“เอาละ คุณซาแมนต้า เจน วิลเคอร์สัน กรุณาย้ายก้นของคุณออกไป จากห้องนอนของผมเดี๋ยวนี้เลย ตาบอดหรือไงถึงไม่เห็นว่าประตูมันปิดอยู่? แล้วไอ้การที่คนเขาปิดประตูไว้น่ะมันไม่ได้หมายความว่าห้ามเข้างั้นเรอะ? นี่...จำไว้นะ คุณซาแมนต้า ถ้าเมื่อไหร่คุณเห็นประตูห้องนอนใครเขาปิดอยู่ละก็ อย่าได้เข้ามายุ่มย่ามเป็นอันขาด เข้าใจไหม?”

“อ๊ะ...เข้าใจซี่” เจ้าหล่อนว่า ตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้อง

“เฮ้...” ผมตะโกนเรียกไว้

เจ้าหล่อนชะงักหันมามองหน้าผมนิ่งอยู่

“ถึงประตูจะเปิดก็ห้ามเข้าด้วย”

“ชัดแล้วน่า” ซาแมนต้า เจน วิลเคอร์สันตอบ ก่อนที่จะเดินจากไป

“อย่ามายุ่มย่ามแถวห้องผมอีกต่อไปด้วย” ผมตะโกนไล่หลัง ขณะที่เจ้าหล่อนเดินลงบันไดไปชั้นล่าง ในครั้งกระนั้นผมเกลียดเพื่อนของพี่สาวทุกคนพอๆ กับที่เกลียดพี่สาวตัวเองทีเดียวเชียวละ

ซาแมนต้า เจน วิลเคอร์สัน นำความไปเล่าให้พี่สาวผมฟัง แถมฟ้องด้วยว่าผมใช้คำว่า “ก้น” แล้วแม่พี่สาวตัวดีก็ไปเล่าต่อให้แม่ฟัง คราวนี้แม่ก็ถึงห้องผมสิครับ ลงมือเลคเชอร์เป็นการยืดยาว ถึงความควรและไม่ควรในการใช้กิริยามายาทคำพูดคำจากับพี่สาวและเพื่อนๆ ของแม่เจ้าประคุณ ผมรู้ว่าคราวนี้แม่โมโหมาก เพราะถึงกับท้าวสะเอวฉอดๆ ใส่หน้าผมเชียวละ แม่อบรมผมเรื่องมารยาทเป็นการยืดยาวสั่งสอนให้ผมรู้จักให้ความเคารพนับถือทั้งพี่สาวทั้งเพื่อนของเขาเสียบ้าง

“จริงๆ นะ บางครั้งไอ้ความประพฤติของแกน่ะมันแทบจะทำให้แม่เป็นลมตายเสียให้ได้เลย โดบี้ คริสเตียน แกน่ะมันหนุ่มแล้วนะ อายุอานามก็ตั้ง 20 เข้าไปแล้วเห็นแก่พระเจ้าบ้างสิ แม่จะบอกให้นะ ถ้าแกอยากจะแสดงความหยาบคายกับเพื่อนๆ ของพี่สาวแกละก็ เลือกให้มันเป็นคนๆ ไปสิ แต่แกควรยกเว้นซาแมนต้าไว้สักคน นั่นน่ะเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจอรัลดีนเชียวนะ”

สมัยนั้นน่ะแม่ผมสวยมากนะครับ ก่อนที่พ่อผมจะป่วยเป็นอัมพรึก ซึ่งการรักษาพยาบาลพ่อทำให้เงินจำนวนน้อยนิดที่เรามีอยู่ต้องหมดลง และแม่ก็จำเป็นต้องออกไปหางานทำ ตอนที่ผมอายุ 20 แม่ผมยังสวยสะพรั่งยังกะอายุ 30อยู่เลย แม่เป็นคนร่างระหง กระฉับกระเฉงมีชีวิตจิตใจจริงๆ แล้วก็...เห็นแก่เงินเป็นที่สุดด้วย แต่ก่อนนี้ครอบครัวทางแม่ผมรวยนะครับ แม่ไม่เคยเงินขาดมือเลยก็ว่าได้

“แล้วซาแมนต้าก็รวยด้วย” แม่ผมกระหน่ำต่อ “จะบอกให้ก็ได้ว่า ซาแมนต้า วิลเคอร์สันคนนี้น่ะเป็นเด็กสาวที่รวยที่สุดในนิวยอร์คเชียวนะแก”

“แล้วไงล่ะแม่?”

“แล้วไง? แล้วเขาก็เป็นเพื่อนในแบบที่พี่สาวแกควรจะคบน่ะสิ มีความสำคัญยิ่งกว่าเพื่อนอีก 99 คนของเจอรัลดีนรวมกันเสียอีก และผ่านทางซาแมนต้านี่แหละที่เจอรัลดีนจะได้พบผู้ชายรวยๆ น่าสนใจสักคนหนึ่ง”

“ต้องผู้ชายรวยๆ ด้วยหรือแม่?” ผมเยาะให้

“ใช่สิ” แม่ผมตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว “ทำไมการรู้จักกับผู้ชายรวยๆ น่ะมันผิดตรงไหน? แกพูดยังกับว่าการมีเงินเยอะๆ น่ะเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในโลกงั้นละ นึกถึงที่กรูโก้ มาร์กซ์เขาพูดไว้มั่งสิ”

“ก็แล้วนายกรูโก้ มาร์กซ์นั่นน่ะ เขาพูดไว้ว่าไงล่ะ?”

“อ้าว...เขาก็พูดไว้ว่า ผมเคยรวยมาแล้ว ผมเคยจนมาแล้ว แต่การรวยน่ะมันดีกว่าเป็นไหนๆ น่ะสิ” พูดจบแม่ผมก็ตุปัดตุป่องออกไปจากห้อง

“อย่าให้ยายหมูตอนสองคนนั่นมายุ่งกับผมก็แล้วกัน” ผมตะโกนไล่หลังแม่ไป ที่ต้องตะโกนก็เพื่อให้คนทั้งบ้านได้ยินกันอย่างทั่วถึงไงล่ะครับ

ตอนอายุระหว่าง 14-17 นั่น พี่สาวผมกลายเป็นคนสวยชะมัดยาดเลย แถมเหลี่ยมพราวไปทั้งตัว น่าคบไม่หยอก

แล้วก็ยังญาติดีกับผมเสียด้วย

มันมีอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลในตัวเจอรันดีล แต่ก็คงเพราะเหตุนี้ละมังที่ทำให้ผมรักพี่สาวคนนี้อยู่กับความสามารถอีกประการหนึ่งของคุณเธอ คือสามารถทำให้พ่อกับแม่บ่าเอาได้ง่ายๆ

“นี่...แกรู้ไหม” แม่พูกกับพี่สาวผม “ว่าไอ้การคบเพื่อนรวยๆ น่ะมันง่ายพอๆ กับการคบเพื่อนจนๆ นั่นแหละ”

“บลูชิท แม่ ขอเสียทีเถอะ เก็บไอ้การอบรมของแม่ไว้สั่งสอนเจ้าโดบี้ดีกว่า”

“จริงๆ นะเจอรัลดีน” แม่น่ะเกลียดไอ้คำหยาบๆ ที่แกพ่นออกมาจากปากเหลือเกินแล้วนะ แกน่ะท่าทางเป็นลูกผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว แต่ทำไม๊ ถึงได้ด่าเป็นไฟแลบยังงี้ก็ไม่รู้แล้วแม่ก็ยังคิดว่า...”

“ยิ่งกว่านั้น...” พี่สาวผมขัดขั้นทันที “แม่รู้ไหมว่า กรูโก้ มาร์กซ์น่ะเขาพูดไว้ว่ายังไง? เขาบอกว่า ถ้าเมื่อไหร่คนเราแต่งงานกับเงินละก็ เป็นต้องได้ใช้หนี้กันชั่วชีวิตเลยเชียวละ”

“เขาไม่ได้พูดยังงั้นสักหน่อย” แม่เถียง

“หนูว่าเขาควรพูดนะแม่” พี่สาวผมยอมแพ้เสียเมื่อไหร่

เจอรัลดีนอายุได้ 17 ตอนที่เธอแต่งงานกับ แฮริสัน ที. บาร์ทเลทท์ที่3 ชื่อเล่นของสามีคุณเธอคือ เอช ที. ผมละแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะมีใครชื่อยังงั้นได้ ซ้ำไอ้ชื่อเล่นของเขามันก็ไม่ได้เข้าท่าเอาเสียเลย แต่ผมก็ชอบเขาอยู่ดีละ

เจอรัลดีน พี่สาวผม พบกับ แฮริสัน ที. บาร์ทเลทท์ ที่3 ในงานปาร์ตี้ที่บ้านของซาแมนต้า วิลเคอร์สันนั่นเอง

“เห็นหรือยังล่ะ?” แม่ว่า “ที่เคยพูดไว้น่ะผิดปากเสียเมื่อไหร่ ไอ้การคบคนรวยๆ น่ะมันก็ง่ายพอๆ กับการคบคนจนๆ นั่งแหละ”

“พุทโธ่...พอทีเถอะน่า แม่” ผมขอร้อง “ดึงไอ้ถุงเงินของแม่ลงจากหลังผมเสียทีได้แล้ว”

“ก็ได้ งั้นแกสัญญามาก่อนสิว่าจะลองคิดถึงเรื่องนี้บ้าง” แม่ผมยังไม่ยอมเลิกง่ายๆ

ผมจำเป็นต้องสัญญาครับ ก็แค่อยากให้หยุดพูดเสียทีเท่านั้น

พอผมอายุได้ 24 ผมก็ออกจากบ้านที่ควีนส์ย้ายไปอยู่ แมนฮัตตัน ทางฟากอีสต์ ไซด์ ของนิวยอร์คน่ะ มีห้องให้เช่าเหลือเฟือ ผมก็เลยเช่าเข้าห้องหนึ่ง เอาชนิดที่มันราคาถูกที่สุดเมื่อราคามันขนาดนั้นจะให้ห้องมันดีได้แค่ไหนกันล่ะครับ? มันเป็นห้องแคบๆ อยู่บนชั้นยอดสุดของอาคาร 5 ชั้น ตรงหัวมุมถนนสาย 40 ตัดกับถนนสายที่ 3 หนาวยะเยือกเลยละครับเมื่อถึงฤดูหนาว แล้วก็ร้อนจนเหงื่อโชกเหมือนกันในฤดูร้อน แถมยังมีขี้เมามานอนสลบไสลอยู่ตรงห้องโถงทางเดินแคบๆ หรือไม่ก็อาเจียนทิ้งไว้บ่อยๆ และจะด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบเพื่อนร่วมอพาร์ตเม้นท์ของผม ชอบจะกดกริ่งกันวันละ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว