บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 พี่ชายข้างบ้าน 1.2

ชเนตตีเดินกลับเข้ามาในห้องของตนในเวลาต่อมา เธอวางหนังสือการ์ตูนลงบนชั้นวางหนังสือ กรุสมบัติการ์ตูนส่วนตัวที่รักยิ่ง ก่อนจะมาทรุดกายนั่งริมเตียง เอี้ยวตัวไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง แล้วหยิบของสิ่งหนึ่งออก

เธอมองดอกกุหลาบแห้งในมือ ที่เก็บรักษาไว้อย่างดีแม้ว่าเวลาจะผ่านมาสิบปีแล้วก็ตาม ดอกกุหลาบดอกนี้คนที่ให้มาคือไอศูรย์ ในวันที่ได้รับดอกกุหลาบจากเขา เธอก็บอกกับตัวเองว่าจะรักษามันไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ชเนตตีจึงนำดอกกุหลาบดอกนี้ไปสอดเก็บไว้ในหนังสือ จนมันแห้งตามธรรมชาติ จากนั้นก็นำไปเคลือบด้วยระบบสุญญากาศเพื่อเก็บรักษาไว้ตามที่ตั้งใจ

ดวงตาของชเนตตีจับจ้องอยู่ที่ดอกกุหลาบแห้ง สมองของเธอก็จุดประกายความคิดหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเป็นความคิดต่อเนื่องที่เกิดขึ้นตอนที่แอบดูคู่รักคู่หวาน

ชเนตตีแอบปลื้มพี่ชายข้างบ้าน ไม่ใช่แค่ปลื้มธรรมดาจะพูดได้ว่า รักเลยก็ว่าได้ เป็นการแอบรักที่ยาวนาน หากคิดถึงไอศูรย์ ก็คงมีสิ่งเดียวที่จะทำให้คลายความคิดถึงได้ สิ่งนั้นก็คือ ดอกกุหลาบแห้งดอกนี้

และเมื่อรักก็ต้องได้ครอบครอง แล้วจะทำอย่างไรถึงจะได้เขามาแนบกาย ในเมื่อไอศูรย์รักชนกนันท์ไม่ใช่เธอ ข้อนี้ชเนตตีถึงกับคิดหนัก

หากจะพูดกันตรงๆ เธอไม่มีอะไรสู้ชนกนันท์ได้เลยสักอย่าง ความสวยก็เทียบไม่เห็นฝุ่น ชนกนันท์เป็นคนสวยมาก สวยทั้งหน้าตาและสรีระ ต่างกับเธอที่รูปร่างอวบนิดๆ หน้าตาแค่จัดอยู่ในประเภทน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มปากนิดจมูกหน่อย พอไปวัดไปวากับเขาได้ มีอย่างเดียวที่เธอชนะน้องสาวนั่นคือผิวที่ขาวผ่องเนียนเป็นยองใย ในขณะที่น้องสาวผิวเผือดกว่า ทว่าน้องสาวของเธอคนนี้มีแต่คนรักใคร่ เพราะวางตัวดี พูดจาอ่อนหวานและไพเราะ อีกทั้งยังทำอาหารได้เก่งและอร่อย ที่สำคัญชนกนันท์ยังทำงานทำการทำตัวมีคุณค่า นิสัยเหล่านี้ตรงกันข้ามกับชเนตตีอย่างสิ้นเชิง…ชเนตตีเกียจคร้านสันหลังยาว

เป็นเช่นนี้แล้วเธอจะแย่งไอศูรย์มาจากน้องสาวได้อย่างไร เธอยังคิดหาทางไม่ได้ มันมืดมนตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ไอศูรย์คงไม่มีวันทิ้งคนที่ดีพร้อมมาครองคู่กับคนอย่างเธอแน่นอน

แล้วจู่ๆ ชเนตตีก็นึกถึงมารดาขึ้นมา สุภัทราถูกหทัยชนกแย่งสามีไป ทำให้เธอได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะเท่ากับว่าชเนตตีถูกแย่งชิงบิดาไปโดยปริยาย เธอกับแม่เจ็บช้ำกล้ำกลืนมาตลอดหลายปี ไม่คิดที่จะเรียกร้องสิโรจน์คืน ไม่มีความอาฆาตแค้นแต่อย่างใด เพราะคิดว่ามันเป็นกรรมเก่าที่ต้องชดใช้

ทว่าเวลานี้ชเนตตีไม่คิดเช่นนั้นอีกแล้ว เธออยากจะเอาคืนครอบครัวของหทัยชนกให้ได้รับรู้ความเจ็บปวดจากการถูกแย่งชิงคนรักบ้าง ให้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดนั้น ชเนตตีคิดว่า หากเธอแย่งไอศูรย์มาจากชนกนันท์ก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะหทัยชนกแย่งสิโรจน์ไปจากสุภัทรายังไม่มีใครกล่าวหาว่าผิดเลยสักคน ยังมีอีกหลายคนรักใคร่ยกย่องโดยเฉพาะครอบครัวของไอศูรย์

“ฉันจะทำให้พี่เจย์มาเป็นของฉันให้ได้”

ชเนตตีพูดขณะที่นำดอกไม้แห้งมาแนบตรงหัวใจ ยิ้มและวาดฝันว่า ทุกอย่างที่เธอตั้งใจจะสำเร็จ เธอจะได้ไอศูรย์มาครอบครอง คนที่จะเป็นเจ้าสาวของเขาคือ ชเนตตี กิตติธรรมเท่านั้น

...........

สองสาวเพื่อนซี้พากันมานั่งทานอาหารในห้องอาหารฝรั่งเศสภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง หลังจากที่เดินซื้อเสื้อผ้าจากห้างดังอยู่หลายชั่วโมง เหตุที่ทั้งสองแบกท้องมาทานอาหารที่นี่เพราะชเนตตีจะต้องมาเอาชุดราตรีของสุภัทราจากห้องเสื้อเจ้าประจำที่เช่าพื้นที่ขายในโรงแรมแห่งนี้

“แกแน่ใจเหรอว่าจะทำอย่างนี้จริงๆ”

บัณฑิตาถามชเนตตีเมื่อได้ฟังเรื่องที่เพื่อนรักคิดจะทำ สีหน้าเธอไม่ดีนักและไม่เห็นด้วยกับความคิดแย่ๆ ที่ไม่มีทางเป็นไปได้ของเพื่อน

“แน่ใจสิ ถ้าฉันไม่แน่ใจ ฉันไม่เล่าให้แกฟังหรอก”

“แกไม่คิดบ้างเหรอว่าคนที่แกกำลังแย่งเป็นแฟนของน้องสาว”

“คิดทำไม แกก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของฉันกับครอบครัวโน้นเป็นยังไง ขนาดคุณพ่อยังไม่คิดว่าฉันเป็นลูกเลย นับประสาอะไรกับน้องสาวที่จะคิดว่าฉันเป็นพี่”

ดวงตาของชเนตตีมีน้ำตาเอ่อคลอเมื่อพูดประโยคนี้ ความเสียใจและน้อยใจเรื่องบิดายังคงมีอยู่ท่วมท้นไม่เคยเลือนจากใจ เพียงแต่เธอเก็บมันไว้ให้ลึกที่สุด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ก่อนที่เธอจะตายจากโลกนี้ไป ชเนตตีหวังจะได้รับไออุ่นจากอ้อมกอดของบิดา

บัณฑิตาเอื้อมมือไปบีบมือเพื่อนอย่างให้กำลังใจ เธอรู้เรื่องชเนตตีดีกว่าใคร รับรู้ถึงความเศร้าโศกเสียใจที่อัดแน่นในใจของเพื่อนรัก เธอก็ได้แต่ปลุกปลอบให้คลายเศร้า ไม่มีปัญญาจะทำอะไรได้มากกว่านี้

“แต่ฉันคิดว่า เรื่องที่แกจะทำมันไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันว่าแกเลิกล้มความตั้งใจดีกว่านะ”

ถึงแม้ว่าจะเห็นใจและสงสารชเนตตีมากเพียงใด แต่เรื่องนี้บัณฑิตาก็ไม่เห็นด้วย จึงคัดค้านอย่างไม่ถนอมน้ำใจเพื่อน แม้ว่าอีกใจก็อดที่จะสงสารชเนตตีไม่ได้ เธอรู้ว่าเพื่อนรักมีปมเรื่องบิดา รู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ต่อครอบครัวภรรยาน้อยของบิดามาตลอดจึงอยากจะเอาชนะฝ่ายโน้นสักครั้ง แต่ทว่าเรื่องที่ชเนตตีจะทำ มันเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้น ไอศูรย์ไม่มีวันเลิกรักชนกนันท์ แล้วหันมารักชเนตตีได้แน่นอน บัณฑิตาหวังดีกับเพื่อน ไม่อยากให้เพื่อนต้องเสียใจและผิดหวังซ้ำสอง

“โห แกนี่ไม่ให้กำลังใจฉัน ฉันก็ไม่ว่า แต่อย่ามาให้ฉันเลิกล้มความตั้งใจได้ไหม มันทำให้ฉันรู้สึกว่า แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม” ชเนตตีโวยเพื่อน ก่อนจะตักอาหารใส่ปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ

“แกรู้ตัวว่าแพ้ตั้งแต่แรกน่ะดีแล้ว แกจะได้หยุด ถ้าขืนดันทุรังทำอะไรลงไปแล้วผลคือแพ้ราบคาบ แกจะเสียใจหนักขึ้นหลายเท่านะ แกบอกฉันเองว่า วันนี้พี่เจย์จะพาผู้ใหญ่ไปสู่ขอนก นั่นก็หมายความว่า พี่เจย์ได้เลือกคู่ครองแล้ว เขาจะมาสนใจแกเหรอ ฉันไม่อยากเห็นแกเสียใจ ไม่อยากเห็นแกร้องไห้ และขี้เกียจเช็ดน้ำตาให้แก ฉันก็เตือน ฉันพูด พูดมากก็เมื่อยปาก พูดไปก็เท่านั้นเพราะรู้ว่าแกไม่ฟัง”

บัณฑิตาเตือนเพื่อนรักต่อ แม้ว่าคำพูดของเธอจะไม่ซึมเข้าไปอยู่ในความคิดของชเนตตีก็ตาม แต่เธอก็จะพูด จะเตือนต่อไปตามประสาเพื่อนที่หวังดีกับเพื่อน และเธอก็รักเพื่อนคนนี้ของเธอมาก

“พูดจบยัง จบแล้วก็กินซะ” ชเนตตีรู้ดีว่าบัณฑิตาหวังดี แต่เรื่องนี้เธอคิดจะทำตามความตั้งใจ และไม่เปลี่ยนใจจนกว่าจะสำเร็จ “อะ กินสิ ฉันป้อนแก”

บัณฑิตามองหน้าเพื่อนสนิทที่ฉีกยิ้มกว้าง แล้วยังจะตักอาหารมาจ่อตรงปากของตน “แกทำอย่างกับฉันเป็นเด็กตะกละไปได้”

พูดจบก็อ้าปากรับอาหารในช้อนอย่างเสียมิได้ คนป้อนยิ้มร่าตักอาหารทานต่อไป และเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเพื่อไม่ให้เพื่อนสนิทเสียอารมณ์

“เนย ฉันต้องไปฮ่องกงกับป๋าสามวันนะ แกไปกับฉันไหม” บัณฑิตากล่าวชวน

“แกไปทำไม ไปเรื่องงานหรือไปเที่ยว” คนถูกชวนย้อนถาม

“ไปเรื่องงาน แต่ก็มีเวลาเที่ยวกับแกนะ”

“งั้นไม่ไป ฉันนั่งๆ นอนๆ อยู่ที่บ้านดีกว่า”

“ไปทำงานกับคุณป้าสิ แกจะได้ไม่เหงา หาเรื่องยุ่งๆ ใส่หัวบ้างจะได้ไม่เอาสมองไปคิดเรื่องไร้สาระ”

บัณฑิตาพยายามชักจูงให้ชเนตตีทำงาน หรือหาอะไรทำที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่หายใจทิ้งไปวันๆ อย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้

“โอ๊ย ไม่เอาหรอก” ชเนตตีปฏิเสธโดยไม่คิด “ฉันยังไม่อยากทำงาน ทำงานแล้วปวดหัว มีแต่อะไรก็ไม่รู้ น่าเบื่อจะตาย ขอเที่ยวอีกสักปีสองปีค่อยทำก็ได้”

“แกยังไม่ทำเลย แกจะรู้ได้ยังไงว่าปวดหัว”

“รู้สิ ฉันนั่งทางในมองเห็นภาพเลยแหละ” คนขี้เกียจตัวเป็นขนเถียงข้างๆ คูๆ

“ย่ะ แม่หมอ แม่หมอที่ขยันขันแข็งที่สุดในโลก” บัณฑิตาพูดประชด

“แล้วแม่หมอคนนี้ก็นั่งทางในมองเห็นว่า แผนของแม่หมอสำเร็จอย่างสวยงาม แกคอยดูนะ พี่เจย์จะต้องเป็นของฉันเร็วๆ นี้” ชเนตตีพูดอย่างมาดมั่นว่าตนจะต้องทำสำเร็จ แต่อีกใจก็ยังแอบหวั่น

“แกจะทำยังไง” บัณฑิตาคร้านจะพูดเตือน ก็เลยเปลี่ยนเป็นถามถึงแผน

“ไม่รู้สิ ยังไม่ได้คิด” แม่หมอตอบทันที

“อ้าว แล้วอย่างนี้จะสำเร็จได้ยังไง ยิ่งพี่เจย์ไปสู่ขอนกด้วยแล้ว นั่นก็หมายความว่างานแต่งงานก็จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แกยังไม่ได้นั่งทางในคิดแผน แล้วแกจะได้พี่เจย์ได้ยังไง”

“ก็เดี๋ยวค่อยคิด” ชเนตตีตอบปัด “แกก็เห็นว่าฉันไม่ว่างคิดเพราะต้องเลือกซื้อเสื้อผ้า ซื้อรองเท้า ซื้อนั่นซื้อนี่ สมองของฉันก็ต้องประมวลเรื่องพวกนี้ว่า อันไหนถูกใจ อันไหนไม่ถูกใจ และตอนนี้ฉันก็ไม่ว่างเช่นกันเพราะกำลังกินอยู่ เอาไว้ฉันไม่ได้ทำอะไรแล้วค่อยคิดก็ได้”

ชเนตตีแก้ตัว อันที่จริงแล้วเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเริ่มต้นตรงไหนดี แผนก็คิดไม่ออก สมองก็ดันมาตันอีก เธอจึงวางเรื่องนี้เอาไว้ก่อน คิดว่าประเดี๋ยวแผนก็วิ่งเข้าในสมองเอง

“ถ้าคิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิดนะ ฉันสงสารสมองน้อยๆ ของแก กลัวว่าจะทำงานมากเกินไป พานไม่สบายขึ้นมา ฉันขี้เกียจไปเฝ้าไข้แก” บัณฑิตาพูดประชด

“แกพูดประชดฉันนี่” คนพูดทำเสียงงอน “แต่มันก็จริงของแกนะ ฉันคิดมากไม่ได้ เดี๋ยวสมองจะทำงานหนักเกินไป พอฉันเครียดมากก็จะไม่สบาย พอฉันไม่สบาย ฉันก็จะอดช็อปปิ้ง ไม่ได้กินของอร่อยๆ ไม่ได้แล้วไม่ได้ ฉันคิดอะไรมากไม่ได้ กินดีกว่า”

คนที่ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า กิน ช็อป เที่ยว รีบปัดทุกอย่างที่จะทำให้สมองของตนทำงานหนักเกินไป ก่อนจะลงมือรับประทานอาหารต่อไป

บัณฑิตาส่ายศีรษะอย่างปลงอนิจจัง ระอาจิตกับนิสัยของเพื่อนรักที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่ทนได้ เพื่อนคนอื่นก็คบกันในระดับหนึ่ง นัดสังสรรกันบ้างตามประสา แต่จะมีเธอคนเดียวที่ไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะเป็นกิน ช็อปปิ้งและเที่ยวกับชเนตตีตลอดหลายปี แต่ถึงแม้ว่าชเนตตีจะมีนิสัยเกียจคร้าน สุรุ่ยสุร่าย หนักไม่เอาเบาไม่สู้ เธอก็จะไม่ทิ้ง จะอยู่เตียงข้างเพื่อนคนนี้เสมอ และยินดีจะปากเปียกปากแฉะพูดเตือนชเนตตีไปตลอดชีวิตด้วย เพราะนิสัยลึกๆ ของชเนตตีเป็นคนดี ตรงไปตรงมา ไม่เคยคิดร้ายต่อใคร เพิ่งจะมาคิดนอกลู่ก็เรื่องไอศูรย์นี่แหละ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel