บทนำ
บทนำ
เดินเข้ามาในบ้านโดยมีแม่บ้านคอยต้อนรับทุกวัน ร่างหนาก้าวไปยังห้องน้ำชั้นล่างแล้วอาเจียนจนอ่อนแรง นั่งกอดโถส้วมอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ ค่อยลุกไปบ้วนปากและล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น มองตัวเองในกระจกเห็นเค้าความทรุดโทรมของใบหน้า
ผ่านมานานแค่ไหนแล้วที่เขาปล่อยตัวและกลายเป็นคนไม่แยแสต่อความรู้สึกของคนอื่น...
ตั้งแต่บุพการีหย่าขาดจากกันก็เกือบสองสัปดาห์ ทุกอย่างเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โลกของเขาพังทลายลงแล้ว
“อึก”
แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งเสวยสุขอยู่ในห้อง ทำหน้าซื่อตาใสไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง แล้วยังยัดเยียดสถานะน้องสาวมาให้เขาอีก น่าขยะแขยงสิ้นดี...
“ไปหาน้องสาวหน่อยดีกว่า”
แต่กระนั้นชายหนุ่มก็เลือกเปลี่ยนทิศทางการเดิน จากห้องของตัวเองไปหยุดที่หน้าของหญิงสาว เห็นแสงไฟลอดออกมาคงยังไม่นอน หรือกำลังปรนเปรอบิดาของเขาทั้งคืน แค่คิดก็หัวร้อนไปหมด จึงทุบประตูแต่ไม่ได้ส่งเสียงเรียกเหมือนทุกคราว
ปึ้งๆๆๆ
หลังจากได้อาเจียนและล้างหน้าล้างตา เหมือนว่าเขาจะสร่างเมาและดีขึ้นมาก เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้จนอยากผลักเธอลงนรก จะมีอะไรช่วยให้หล่อนรับรู้ถึงการตกนรกทั้งเป็นได้หรือเปล่า แล้วสิ่งใดจะทำให้พ่อของเขาเจ็บบ้าง...
รู้สึกเหมือนที่แม่ของเขารู้สึกตอนโดนหักหลัง...
เดี๋ยวนะ...หักหลังอย่างนั้นหรือ
มุมปากหยักยกยิ้มเมื่อคิดแผนการบางอย่างได้ เขาจะทุกข์อยู่คนเดียวทำไมล่ะ เมื่อสามารถทำให้คนต้นเรื่องทุกข์ได้เช่นเดียวกัน มือหนายกขึ้นกอดอก รอจนได้ยินเสียงเปิดประตูไม่เหมือนทุกครั้งที่ปิดสนิท สงสัยหล่อนคงไม่รู้ว่าคนที่มาเคาะคือเขา
“ค่ะ” ทักทายมาแต่ไกล ทว่าเมื่อเปิดไม้บานหนาแล้วพบว่าคนที่ยืนรออยู่ด้านหลังประตูคือใคร หล่อนก็เผลอตะโกนเรียกเขาเสียงดัง แล้วรีบดันประตูหมายจะปิดแต่ก็ช้าเกินไปแล้ว
“คุณพสุ!”
“ทำไม คิดว่าเป็นพ่อฉันเหรอ”
ร่างสูงก้าวเข้ามาในห้องนอนของกุลจิราด้วยท่าทีคุกคาม ปิดประตูแล้วลงกลอนรวดเร็ว สร้างความตระหนกแก่เธอเป็นอย่างมากจนเผลอก้าวถอยหลังทุกครั้งที่เขาเดินเข้าหา แววตาและสีหน้าของชายหนุ่มน่ากลัวเกินไป
เขาไม่ได้ด่าทอหรือใช้คำรุนแรง แต่การกระทำของอีกฝ่ายบ่งบอกถึงลางร้ายบางอย่าง หรือหล่อนครัวจะวิ่งหนีไปหลบในห้องน้ำ แอบเหลือบมองห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล แต่เขาก็อยู่ใกล้กว่า
ถ้าตนเริ่มวิ่งต้องถูกคนตรงหน้าคว้าได้ทันแน่...
“คุณออกไป เข้ามาทำไม ออกไปจากห้องของฉัน บอกให้ออกไปไง” พยายามไล่ให้เขาออกห่าง แต่ไม่มีทีท่าว่าพสุจะสลดหรือยอมทำตามสักนิด กลับก้าวเข้ามาใกล้จนบั้นท้ายงามติดเก้าอี้ หมดทางหนีทีไล่แล้ว
“ร้องดังอีกสิ ให้คนทั้งบ้านตื่นมาเห็นเลยว่าเธอได้ทั้งพ่อทั้งลูก” คำพูดของเขาทำเอาเธอหน้าถอดสี ดวงหน้าคมโน้มมาตรงหน้าจนได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง พยายามเบี่ยงหน้าหลบแล้วผลักอกหนาให้ออกห่างจากตน
“พูดบ้าอะไรของคุณ ฉันไปได้ตอนไหน เมาก็ไปนอนอย่าเที่ยวหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว”
“ชุดนอนของเธอ เอาไว้ให้พ่อฉันถอดเหรอ...ช่วยไหมล่ะ”
มองชุดนอนของหล่อนที่เป็นเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นเพื่อความสบาย อีกทั้งไม่มีชั้นในสักชิ้นเพราะอย่างไรตนก็อยู่คนเดียว และสวมเพียงเสื้อกับกางเกงค่อนข้างสบายตัว
แต่ตอนนี้กุลจิรารู้แล้วว่ามันอันตรายเกินไป!
“เป็นบ้าไปแล้วเหรอ!” ตะโกนบอกแล้วพยายามผลักเขาให้ห่าง แต่ชายหนุ่มกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง จับข้อมือเล็กทั้งสองข้างแล้วดึงเธอให้เข้ามาใกล้ตนมากกว่าเดิม ดวงตากลมเบิกกว้างตกใจกับการกระทำนั้น
“ใช่ ฉันบ้าไปแล้ว บ้าเพราะผู้หญิงหลายใจมักมากที่เข้ามาทำร้ายครอบครัวคนอื่น! ผู้ชายบนโลกไม่มีแล้วหรือไงถึงมานอนกับคนมีเจ้าของแถมยังแก่คราวพ่อ”
คำกล่าวโทษนั้นเธอก็จนใจจะปฏิเสธ บอกหลายครั้งแต่เขาก็ยังไม่เชื่อสักที
“แบบนั้นไม่สนุกหรอก มาลองกับฉันดีกว่า” ส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว พยายามสะบัดมือให้หลุดแล้วถอยห่าง ทว่าไม่อาจหลีกหนีจากคนตรงหน้าได้ เขาตรึงหล่อนไว้ที่เดิมพลางแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด แววตาพราวระยับสร้างความหวาดผวาแก่คนมองเป็นอย่างมาก
“คุณ คุณจะทำอะไรน่ะ”
ถึงพอจะเดาได้ว่าความต้องการของอีกฝ่ายคืออะไร แต่กลับเลือกจะถามราวคนไร้ความคิด เสียงหวานสั่นไหวแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เธอไม่น่าสะเพร่าเปิดประตูเพราะคิดว่าเป็นแม่บ้านนำผลไม้มาให้เหมือนทุกวันเลย
คราวนี้จะทำอย่างไรล่ะ ตนแย่แน่แล้ว...
“ทำไมล่ะ แค่จะเล่นสนุกนิดหน่อยเอง”
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะคุณพสุ!”
เบี่ยงหน้าหลบเมื่อเขากำลังจะจูบเธอ หัวใจเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก เธอพยายามหาทางหนีทีไล่ของตัวเอง คิดจะเหยียบเท้าเขาแล้วกลายเป็นว่าชายหนุ่มอุ้มร่างบางพาดบ่าในทันที พร้อมทุ่มลงบนเตียงนุ่มไม่ออมแรงเล่นเอาหล่อนถึงกับจุก
“พ่อที่รักแม่มาตลอดถึงกับนอกใจมาเอาผู้หญิงแบบเธอ ฉันก็อยากรู้ว่าคนอย่างเธอมีดีตรงไหน...ขอลองหน่อยแล้วกัน”
ไม่นานเขาก็ขึ้นคร่อมทับร่างแบบบาง ตรึงแขนทั้งสองข้างของหล่อนไว้เหนือศีรษะ ปล้ำถอดเสื้อตัวโคร่งออกไปถึงเธอจะขัดขืนแต่สุดท้ายอาภรณ์ชิ้นนั้นก็หลุดออก เปิดเปลือยท่อนบนแก่สายตาคมที่มองอย่างหื่นกระหาย
“กรี๊ด ออกไปนะไอ้บ้า คุณบ้าไป...อื้อ” ไม่รอช้าก้มลงใช้ลิ้นตวัดปลายถันสีเข้มอย่างรวดเร็วจนมันเริ่มแข็งเป็นไต เขาใช้ปากกัดจนเธอร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ แต่ไม่นานเสียงนั้นก็หายไปเมื่อพสุโน้มใบหน้ามาปิดปากด้วยจุมพิตกักขฬะ ไม่มีความอ่อนโยนหรือนิ่มนวลสักนิด
เขาดูดกลืนปากจิ้มลิ้มและใช้ฟันขบริมฝีปากล่างของหล่อน ก่อนจะกัดจนมันแตกมีกลิ่นเลือดกระจายทั่วโพรงปาก แม้หล่อนจะพยายามดิ้นให้หลุดพ้นมากเท่าไหร่ หรืออยากร้องอ้อนวอนมากเพียงไหน กลับเป็นการเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้เข้ามาสำรวจอย่างหยามใจ
แขนเรียวยังคงถูกตรึงไว้เหนือศีรษะมน ขาทั้งสองข้างก็ถูกเขาใช้เข่ากดทับเอาไว้ เธอไม่อาจหลุดพ้นได้เลย มีเพียงน้ำตาที่บ่งบอกถึงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
“โอ๊ย!”
ใช้จังหวะที่เขากำลังกวาดลิ้นทั่วโพรงปากตน กัดลิ้นของเขาจนชายหนุ่มร้องเสียงหลง เผลอปล่อยหล่อนเป็นอิสระ กุลจิราจึงรีบลุกแล้วหมายจะวิ่งไปขังตัวเองในห้องน้ำ แต่ก็ช้าเกินไปเพราะพสุสามารถคว้าเอวบางไว้ได้ ทุ่มเธอลงบนเตียงเช่นเดิม
“ฉันจะทำให้เธอเจ็บ เหมือนกับที่เธอทำลายครอบครัวของฉัน!” ประกาศิตนั้นทำให้คนตัวเล็กรู้แล้วว่าหล่อนไม่อาจหนีพ้นได้ ไม่นานเขาก็สำเร็จโทษแก่นักโทษที่นอนน้ำตาอาบแก้ม แม้จะมีความสงสัยอยู่บ้างกับความคับแคบของช่องสีหวานแต่ก็ปัดความรู้สึกนั้นออกไป
เล่นสนุกกับเรือนร่างของเธอจนพอใจ ฝากรอยเอาไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ หากมีคนมาใช้เรือนร่างนี้ต่อได้รู้ว่าก่อนหน้านี้หล่อนโดนอะไรมาบ้าง
เขาทำทุกอย่างเพื่อความสะใจ ไม่คิดถึงคนที่นอนซมบนเตียงร้องไห้ปริ่มขาดใจเลยสักนิด เมื่อธุระเสร็จก็ออกจากห้องกลับไปพักผ่อน ขณะที่คนโดนกระทำนอนคุดคู้กอดตัวเองอยู่อย่างนั้น พร่ำพรรณนาถึงความไม่ยุติธรรมกับสิ่งที่ตนต้องเผชิญ
ตราบาปที่พสุฝากเอาไว้...เธอจะสามารถลืมมันได้หรือเปล่า