ตอนที่ 5 เจ็บปวดทรมาน
“อยากดื่มน้ำสักหน่อยไหมเจ้าคะ”
บนใบหน้าของสาวใช้ทั้งสองคนล้วน ปรากฏความกังวลออกมา ดวงตาของชิวยั่วนั้น ยังเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา สาวใช้สองคนนี้มีใจ ที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของร่างเดิมยิ่งนัก แต่นางกลับ ไม่เคยรับรู้เลย
“ชิวยั่ว...แค่กแค่ก...” เหลียงซีนอยากจะ พูดให้จบประโยค แต่ทว่าหน้าอกของนางเจ็บปวดยิ่งนัก
ฉินฮั่วรีบไปรินน้ำร้อนมาแล้วใช้มือยื่นชิดริมฝีปากของนาง พร้อมเอ่ยขึ้น “พระชายาเอกดื่มน้ำสักนิดเถอะเจ้าค่ะ”
เหลียงซีนไม่อยากดื่ม ดื่มน้ำเข้าไปยิ่งทำให้เจ็บ นางจึงส่ายหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่า ไม่ดื่มน้ำ ก่อนจะใช้แรงที่มีเอ่ยขึ้น “พวก เจ้า...สนทนากันเมื่อครู่ ข้าได้ยินหมดแล้ว”
สาวใช้ที่โง่เขลาสองคนนี้ คงคิดว่าญาติพี่ น้องจะสามารถยื่นมือมาช่วยแก้ไขเรื่องราว ระหว่างสามีภรรยาที่ทะเลาะกันได้ อาจสามารถคลี่คลายลงได้ชั่วคราว แต่ก็เพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น รอถึงเมื่อพวกเขาจาก ไปแล้ว เฉินเฮ่าก็ปฏิบัติต่อนางเหมือนที่เคย ปฏิบัติอยู่ดี
นอกจากคนของเรือนเหลียงจะนำตัวนาง ออกจากที่นี่ไปแล้ว ยังจะต้องเขียนหนังสือหย่าให้กับเฉินเฮ่าอีกด้วย
หย่านั้นต้องทำอยู่แล้ว แต่ว่าไม่ใช่ในตอนนี้ นางยังไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ในตอนนี้ นางยังอยากที่จะให้เฉินเฮ่ารู้ถึงความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของนางซะก่อน นางจะคืนมันให้แก่เขาเป็นเท่าตัว
ชิวยั่วและฉินฮั่วนั้นล้วนตะลึงงัน บนใบหน้าปรากฏสีหน้าที่ดูละลายใจออกมา
แล้วก้มหน้าลงสำนึกผิด ปิดปากเงียบไม่ส่ง เสียงออกมา
เหลียงซีนถอนหายใจออกมา ที่พวกนาง ทำก็เพื่อที่จะให้ดีต่อตน แต่วิธีการนี้ไม่สามารถ ทำได้ นางสูดลมหายใจเข้าไปอีกครั้งแล้วเอ่ยขึ้น “พวกเจ้าหวังดีข้ารู้ แต่ว่าเรื่องราวการ ทะเลาะกันระหว่างสามีภรรยา คนนอกมิอาจช่วยได้”
“แต่ว่าพระชายาเอกได้รับบาดเจ็บถึง เพียงนี้...” ในดวงตาของชิวยั่วนั้นปรากฏ น้ำตาที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เห็นได้ชัดว่านาง ทั้งอึดอัดและโกรธเคือง
เหลียงซีนถอยหายใจอีกครั้ง แต่ทว่า สายตานั้นกลับเด็ดเดี่ยว “พวกเจ้าไม่ต้องกังวล เรื่องข้า ข้าเองก็มีแผนของข้า พวกเจ้าเพียง คอยอยู่ข้างๆ ข้า คอยช่วยเหลือเป็นธุระบาง อย่างให้ข้าก็พอแล้ว”
ฉนฮัวและชิวยั่วนั้นตะลึงงันอีกครั้งมองตาซึ่งกันและกัน รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกไป พระชายาเอกของพวกนางดูเหมือนเป็นคนละคนกับเมื่อก่อน พวกนางทั้งสองมีความลังเล เล็กน้อย แต่ยังพยักหน้ารับ “พระชายาเอกให้ พวกเราทำอะไร พวกเราก็จะทำตามเพคะ”
ในใจของพวกนางทั้งสองมีลางสังหรณ์ว่า พระชายาเอกเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่เหมือนพระชายาเอกคนเดิมที่พวกนางเคยรู้จัก
หลังจากปลอบใจสาวใช้ทั้งสองคนได้แล้ว เหลียงซีนก็ผ่อนลมหายใจลง แต่ทว่าอาการบาดเจ็บบนร่างกายยังไม่ดีขึ้นเช่นนี้ ผลสุดท้ายจะเป็นเช่นไรก็ไม่กล้าที่จะคิด
“ฉินฮั่ว เจ้าช่วยไปนำสมุนไพรพวกนี้มา ให้ข้าหน่อย” ยาสมุนไพรที่ทาบนร่างกาย ของนางอยู่ก็ไม่รู้ว่าผู้อื่นนั้นตั้งใจจะทำอะไร หรือเป็นเพราะว่าในยุคนี้การรักษาบาดเจ็บมี ระดับที่ค่อนข้างต่ำ
สมุนไพรเหล่านี้เพียงช่วยบรรเทาอาการ เจ็บปวดชั่วคราวเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยฆ่าเชื้อให้แผลนั้นหายอักเสบ รวมถึงสมานบาดแผล
แม้ว่านางจะเป็นหมอนิติเวช แต่เภสัชวิทยาและพิษวิทยานั้นก็ล้วนได้รับหนังสือรับรอง เรื่องนี้ง่ายดายสำหรับเธอ
หลังจากที่บอกตัวยาที่ต้องการไม่กี่ชนิด แก่ฉินฮั่วแล้ว ฉินฮั่วก็รีบออกไปจัดการทันที
เหลียงซีนหรี่ตามองในสมุนไพรเหล่านี้ มี กลิ่นของล่อเย่ ยาตัวนี้ไร้รสไร้กลิ่น แต่ว่าเมื่อใช้พร้อมกับเลนหอแล้ว จะมีสรรพคุณที่ยอดเยี่ยม สามารถทำให้ทั่วร่างกายนั้นคันคะเยอ อย่างไม่มีสิ่งใดจะเทียบได้
การคันแบบนี้สามารถมีอาการคันเกิดขึ้น อยู่หลายชั่วยามทีเดียว ทำให้คนเป็นบ้าได้
แต่ว่าล่อเย่ยังมีอีกหนึ่งสรรพคุณ สิ่งนั้นคือ เพียงบุรุษนั้นสัมผัสกับมันแล้วไปสัมผัสกับเลนหอ จึงจะแสดงผลของมันออกมา แต่หาก สตรีนั้นสัมผัส ไม่ว่าอย่างไรก็ล้วนไม่แสดง ผลใดๆ ออกมา หากสัมผัสกับเลนหอ
แต่เหลียงซีนได้กลิ่นของเลนหอบนร่างกายของเหลียงอิน จึงนึกถึงพืชชนิดนี้ขึ้นมา
นางหรีตาไปมาในดวงตาปรากฏอารมณ์ เหมือนรอคอยความสนุก ถ้าหากเฉินเฮ่ามายังเรือนนี้ของนาง แล้วกลับไปยังเรือนของเหลียง อินที่นั่นจะต้องได้รับผิดของมันอย่างแน่นอน
ถ้าหากเขาไม่มาเหลียงซีนก็ดีใจด้วย พอดีกับที่ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดบนร่างกายเลย
ฉินฮั่วใช้เวลาไม่นานก็ซื้อสมุนไพรกลับมา นางดูระแวดระวังอย่างมาก บนถนนพบเจอคนในวังก็พูดว่าไปซื้อของใช้ส่วนตัวเล็กน้อย เท่านั้น ไม่ได้พูดอะไรที่ดึงดูดความสนใจของผู้อื่น
หลังจากที่นางกลับมา ก็ทำตามที่เหลียงซีนสั่ง นำสมุนไพรไปผสมกันให้เรียบร้อย แล้วจึงค่อยไปต้มยา ส่วนชิวยั่วนั้นบดยาอยู่ที่ด้านข้าง
ขณะที่กำลังบดยาอยู่นั้น ชิวยั่วเกิดความ สงสัยเล็กน้อยจึงเอ่ยขึ้น “พระชายาเอกผสม ยาเองจะใช้ได้หรือไม่”
“ลองดูก่อนเถอะ ถ้าหากไม่ได้พวกเรา ค่อยให้นายท่านเชิญหมอหลวงมาดูอีกครั้ง” ยังคงเป็นฉินฮั่วที่ดูสุขุมเยือกเย็นไม่ร้อนรน เอ่ยขึ้น
เจ้าของร่างเดิมนั้นปกติอ่านหนังสือเกี่ยว กับการรักษาโรคอยู่แล้ว ดังนั้นตอนที่นางบอกอยากได้สมุนไพร สาวใช้ทั้งสองคนนี้จึงไม่ได้
สงสัยอะไรเลยแม้แต่น้อย
ยาที่ใช้ภายนอกนั้นใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ เรียบร้อย ชิวยั่วจึงช่วยทายาให้แก่นางอย่าง ระมัดระวัง เมื่อมองเห็นบาดแผลของนาง น้ำตาก็เอ่อคลอขึ้นมาพร้อมที่จะไหลออกมาทันที
เหลียงซีนนั้นก็เจ็บปวดอย่างมาก เจ็บจน ต้องกัดฟันและริมฝีปาก ขณะที่ทนความเจ็บปวดอยู่นั้นนางก็กำลังคิดอยากที่จะสับเฉินเฮ่าคนบ้านั้นออกเป็นหมื่นชิ้น
แต่ยาที่นางผสมขึ้นมาเอง นั้นสรรพคุณของมันถือได้ว่าค่อนข้างดี เมื่อทาแล้วบาดแผลของนางก็ไม่เจ็บทันที ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกับยาในยุคปัจจุบัน สรรพคุณของมันยังถือได้ว่าเห็นผลได้ช้า
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม ยาของฉินฮั่วก็ต้ม เสร็จเรียบร้อย นางจึงยกถ้วยยาชามนั้นขึ้นดื่ม จนหมดเพียงครั้งเดียว ทำให้สาวใช้ทั้งสองนาง ที่อยู่ด้านข้างมองนางอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้น
เหลียงซีนก็ตกตะลึงเช่นกัน แต่ปฏิกิริยา หลังจากนั้นกลับดูขาดความมั่นใจบางส่วน แต่ ใบหน้าก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเอ่ยขึ้น “ยานี้มี รสชาติขมเล็กน้อย”
เจ้าของร่างเดิมนั้นกลัวการดื่มยาเป็นที่สุด เมื่อดื่มยาแต่ละครั้งต้องเติมน้ำตาลลงไปให้ยา มีรสหวานเล็กน้อย เมื่อครู่นางลืมสิ่งนี้ไป คาดว่าคงทำให้สาวใช้ทั้งสองคนนั้นเกิดความสงสัย เสียแล้ว
ชิวยั่วรีบนำขนมที่ทำจากน้ำผึ้ง มีลักษณะคล้ายขนมเค้ก ยื่นส่งมาด้านหน้า ของนางทันที แล้วเอ่ยขึ้น “พระชายาเอกรีบ กินขนมนี้เข้าไปลดความขมเถอะเจ้าค่ะ”
เหลียงซีนจึงถือโอกาสบิดขนมด้วยมือเป็น ชิ้นแล้วนำเข้าปาก เคี้ยวอย่างนุ่มนวล รสชาติ ไม่เลว นุ่มหวานอร่อย ละลายในปากหวาน แต่กลับไม่เลี่ยน
วันนี้เฉินเฮ่าไม่กลับมาที่นี่อีกเรือนเจียวหยาง จึงดูเงียบสงบอย่างยิ่ง ข้างกายนางมีฉินฮั่ว และชิวยั่วคอยรับใช้อย่างใกล้ชิด บุคคลอื่นก็ล้วนทำปฏิบัติงานตามตำแหน่งหน้าที่ของตน เพียงแต่ฤทธิ์ของยานั้นอยู่ได้เพียงไม่กี่ชั่วยาม เมื่อพ้นเวลาไปแล้วบาดแผลของนางจึงกลับมาเจ็บปวดอีกครั้ง
นางจึงเพิ่มตัวยาเพื่อระงับความปวดลงไป อีก เพียงแต่ยานี้ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ใช้มากเกินไปสามารถทำให้มีผลกระทบต่อ ความอดทนของร่างกาย
เมื่อมองเห็นนางเจ็บปวดจนใบหน้าซีดขาว เม็ดเหงื่อจากแก้มที่ไหลลงมาไม่หยุด สาวใช้ ทั้งสองคนจึงร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่กำลังเจ็บปวด สติของนางนั้นก็ เลือนรางลงบางส่วน รอให้ถึงเวลาที่ยาออกฤทธิ์ อีกไม่นานความเจ็บนี้ก็จะค่อยๆ บรรเทาลงไปแล้ว
เมื่อตอนเย็นนางก็กินอาหารได้เพียงเล็ก น้อย เพราะเจ็บบาดแผลจนไม่มีความอยาก อาหาร ในใจของนางตอนนี้ยังมีอีกแผนการ
เมื่อได้เห็นฝีมือของเฉินเฮ่าแล้ว ก็รู้ได้คงจะ เคยฝึกวิทยายุทธ์เป็นแน่ ถ้านางอยากจะเป็น ปรปักษ์กับคนผู้นี้ก็ต้องกำจัดพละกำลังของเขา เพราะฉะนั้นนางก็ควรจะต้องมีวิทยายุทธ์ ติดตัวบ้างเล็กน้อย
เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้ว นางจึงเอ่ยถามคำ ถามฉินฮั่วอย่างไม่สนใจ “มีหนังสืออะไรที่เป็น ความลับในการฝึกวิทยายุทธ์บ้างหรือไม่?"
...