บทที่ 3
หลังจากที่ผู้อัญเชิญราชโองการกลับไปแล้ว สองสามีภรรยาที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มรีบพาบุตรสาวและบุตรชายทั้งสองเข้าไปภายในเรือนใหญ่ของจวนแม่ทัพตะวันออกเพื่อบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น เพราะหากส่งบุตรสาวเข้าวัง นั่นไม่เท่ากับว่าเขาส่งบุตรสาวของตนไปให้บรรดาสนมนางในทั้งหลายฆ่าให้ตายทั้งเป็นหรอกหรือ
“เรื่องราชโองการวันนี้… เป็นความผิดของพ่อเอง”
คิ้วเรียวสวยได้รูปของ กงฮุยฮวา ขมวดมุ่นเมื่อบิดาเอ่ยเช่นนั้น
“หลังกลับจากการศึกคราวก่อน ฮ่องเต้เรียกพ่อเข้าเฝ้าเพื่อพระราชทานรางวัลเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้พ่อขอแลกของพระราชทานทั้งหมดกับการออกจากตำแหน่งแม่ทัพตะวันออก ฮ่องเต้ทรงกริ้วและถามหาเหตุผล พ่อตอบไปตามตรงว่าปีนี้พ่อแก่มากแล้ว หากฮ่องเต้ทรงเมตตา พ่อขอเปลี่ยนรางวัลพระราชทานเป็นตำแหน่งอาจารย์ของเหล่าทหารในกองทัพฝ่ายตะวันออก แต่จากราชโองการในวันนี้เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ทรงไม่ยอม และไม่มีทางยอมแน่”
ใบหน้าคร้ามแดดของท่านแม่ทัพกงเหยาเต็มไปด้วยความกังวล จนกงฮูหยินอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปวางลงบนฝ่ามือหยาบกร้านจากการเคี่ยวกร่ำอาวุธในสงครามของสามีเพื่อปลอบใจเขา
“นี่หาใช่ความผิดของท่านพี่ไม่ เราต่างเกิดเป็นชาวต้าหลง บนผืนแผ่นดินแห่งนี้หากฮ่องเต้ประสงค์สิ่งใด ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามพระประสงค์ทั้งสิ้น” กงฮูหยินเอ่ยเสียงสั่นเครือ และหันไปมองบุตรสาวคนโตของตนด้วยดวงตาแดงกร่ำคล้ายจะร้องไห้อยู่รอมร่อ “ฮุยฮวา”
เจ้าของร่างบอบบางของสตรีงดงามราวบุปผาแรกแย้มวัยสิบหกปีทรุดตัวลงตรงหน้าบิดามารดาด้วยความเคารพ มือทั้งสองข้างประสานเข้าหากันแน่นเพื่อข่มความประหม่าที่เกิดขึ้นด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งจากภายใน
“ท่านพ่อ ท่านแม่… อย่าได้กังวล”
“ฮวาเอ๋อ” กงฮูหยินเอ่ยซ้ำ และปล่อยน้ำตาออกมาจากดวงตาคู่สวยอย่างสุดกลั้น
“ในฐานะบุตรสาวของท่านแม่ทัพตะวันออก ลูกย่อมปฏิบัติตามพระประสงค์ของฮ่องเต้ด้วยความภักดีอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ท่านพ่อท่านแม่อย่าได้กังวล ลูกจะเข้มแข็งแม้ต้องเผชิญอุปสรรคนานัปการในภายภาคหน้า ให้สมกับเป็นบุตรสาวของท่าน”
รอยยิ้มภูมิใจในตัวบุตรสาวปรากฎขึ้นบนใบหน้าเคร่งขรึมของท่านแม่ทัพ กงฮูหยินร่ำไห้และสวมกอดบุตรสาวด้วยความรัก รวมไปถึง กงชิงซาน น้องชายวัยสิบขวบของนางก็เข้ามาร่วมวงสวมกอดได้อย่างไม่เขินอาย
ฮุยฮวาหลับตาลงเพื่อซึมซับความสุขภายใต้ชายคาสกุลกง และสัญญากับตัวเองว่านางจะเก็บความทรงจำเล่านี้เอาไว้ตราบจนชีวิตจะหาไม่…