ชายาอัปลักษณ์ของเว่ยอ๋อง
บทย่อ
ความดีความชอบจากการรักษาฮ่องเต้ซึ่งถูกวางยาพิษจนหายเป็นปกติ ฮ่องเต้ให้นางขออะไรก็ได้ พระองค์จะยอมให้นางโดยไม่มีข้อแม้ นางจึงขอแค่ได้วิวาห์กับบุรุษที่นิสัยดีและเลี้ยงดูนางได้ เพราะนางอยากจะมีสามีเหมือนอย่างสตรีคนอื่นบ้าง กษัตริย์ตรัสแล้วย่อมไม่คืนคำ ฮ่องเต้จึงมีราชโองการให้เว่ยอ๋อง(หลีเว่ยเปี่ยว)เสกสมรสกับจางลี่ เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของหมอหญิงอัปลักษณ์นางนี้...………………………………..นางเอกเรื่องนี้เป็นตัวละครหนึ่งในเรื่อง ‘พระสนมส้มหล่น’ จะปรากฏในช่วงท้ายของเรื่อง ดังนั้นใครกังวลว่าหากไม่ได้อ่านเรื่องก่อนจะไม่เข้าใจ ไรต์ได้เท้าความมาให้ในเรื่องนี้แล้วนะครับ แต่หากใครอยากอ่านเรื่องราวความเป็นมาก็สามารถอุดหนุนเรื่อง ‘พระสนมส้มหล่น’ อีกก็ได้น้า ขอบคุณล่วงหน้าครับ
บทนำ
บทนำ
(เท้าความมาจากนิยายเรื่องพระสนมส้มหล่น)
“จางลี่’ หมอหญิงอัปลักษณ์สามารถช่วยรักษาฮ่องเต้ให้หายจากการโดนวางยาพิษได้สำเร็จ บัดนี้ถึงเวลาที่นางจะต้องได้รับค่าตอบแทนจากฮ่องเต้แล้ว
“ถึงเวลาที่เจ้าต้องบอกข้าแล้วว่าต้องการสิ่งใด”
“หม่อมฉันไม่แน่ใจว่าสิ่งที่กำลังจะกราบทูลนั้น ฝ่าบาทจะสามารถให้ได้หรือไม่เพคะ”
ได้ยินเช่นนั้นองค์ฮ่องเต้และฮองเฮาต่างก็มองหน้ากัน
“มันยากขนาดนั้นเชียวหรือจางลี่” หยางซินอวี่ถาม
“มันก็ไม่ยากขนาดนั้นหรอกเพคะ แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับคนอย่างหม่อมฉันเช่นกัน”
“บอกข้ามาเถิด หากเป็นอะไรที่ไม่เกินความสามารถของข้า ข้าสามารถหามาให้เจ้าได้ทุกอย่าง”
“ฝ่าบาทและฮองเฮาก็ทรงทราบดีว่าหม่อมฉัน...มีใบหน้าที่อัปลักษณ์ หามีชายใดมาสนใจ แม้แต่จะชายตาแลยังไม่มีเลยเพคะ หม่อมฉันแค่ต้องการวิวาห์กับบุรุษใดก็ได้ ไม่สนใจว่าเขาผู้นั้นจะสูงส่งหรือต่ำต้อย จะมีร่างกายสมประกอบหรือไม่ ขอเพียงแค่เป็นคนดีเท่านั้นก็เพียงพอแล้วเพคะ นั่นคือสิ่งเดียวที่หม่อมฉันต้องการที่สุดในชีวิต”
“ข้าก็นึกว่าอะไร เรื่องแค่นี้มันไม่เกินความสามารถของข้าเลย เจ้ามีบุญคุณต่อข้ามาก สามีของเจ้าจะต้องเป็นคนที่ข้ามั่นใจแล้วว่าจะสามารถดูแลเจ้าได้เป็นอย่างดี เจ้าเป็นหมอหญิงที่เก่งกาจสามารถรักษาข้าได้ แม้แต่หมอหลวงที่ว่าเก่งแล้วก็ไม่สามารถทำได้ เป็นเช่นนี้ข้าจะต้องให้เจ้าวิวาห์กับคนที่จะสามารถส่งเสริมเจ้าได้ ชายผู้นั้นก็คือ....เว่ยอ๋อง”
“เว่ยอ๋องหรือเพคะ!” หยางซินอวี่ทวนคำกล่าวนั้น นางไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าฮ่องเต้มีพระญาติที่ไหน
“ใช่ หลีเว่ยเปี่ยว น้องชายคนเดียวของข้าที่ยังหลงเหลืออยู่”
“หม่อมฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าฝ่าบบาททรงมีพระอนุชาด้วย”
“เว่ยเปี่ยวเป็นคนชอบความสันโดษ ไม่ชอบความวุ่นวายในเมืองหลวง ข้าจึงส่งไปปกครองแคว้นเล็ก ๆ ทางฝั่งตะวันออกของแคว้นซวิ่น นานทีข้ากับเว่ยเปี่ยวถึงจะได้เจอกัน เอาไว้หากว่างเว้นจากภารกิจบ้านเมืองแล้วข้าจะพาเจ้าไปที่นั่น”
“หม่อมฉันมิบังอาจวิวาห์กับพระอนุชาของฝ่าบาทหรอกเพคะ” เมื่อรู้ว่าบุรุษที่ฮ่องเต้คัดเลือกมาให้นั้นคือพระอนุชาของพระองค์เอง จางลี่ก็รีบกล่าวแย้งเพราะนางไม่ได้หวังว่าจะต้องถึงขั้นนั้น
“เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก การมีเจ้าไปช่วยดูแลเว่ยเปี่ยวข้าจะได้รู้สึกวางใจ เจ้าเป็นหมอหญิงที่มีความสามารถ ข้ารู้ว่ามาว่าที่แคว้นเป่ยขาดแคลนหมอที่มีฝีมือ หากไปอยู่ที่นั่นจะได้ช่วยรักษาชาวบ้านด้วยเช่นใดเล่า”
“แล้ว...พระอนุชาของฝ่าบาทจะไม่ทรงกริ้วหรือเพคะ ที่ต้องมาวิวาห์กับหญิงอัปลักษณ์เช่นหม่อมฉัน”
“ความงามของสตรีหาได้วัดจากการมีใบหน้าที่งดงามเสมอไป จิตใจภายในก็สำคัญเช่นเดียวกัน ข้าเชื่อว่าความเป็นคนจิตใจดีมีเมตตาของเจ้าจะสามารถเอาชนะใจเว่ยเปี่ยวได้ นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดมิใช่หรือ”
“หม่อมฉัน...น้อมรับพระเมตตาเพคะ ขอฝ่าบาทและฮองเฮาทรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่นหมื่นปี”