บทย่อ
โหดเหี้ยม เย็นชา คือคำนำหน้าของแม่ทัพฉินฟู่จินวัย 26 ปี ที่ผู้คนมักเรียกขาน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีหญิงสาววนเวียนเข้ามาไม่ขาด แต่กลับตัดสินใจรับอภิเษกกับองค์หญิงน้อยวัย 13 ปีองค์หญิงต่างแคว้นที่ตนรบชนะมา
1. ของกำนัลมีชีวิต
ในเขตชายแดนของแคว้นชิงเหว่ยสายฝนที่กำลังโปรยปรายลงมา พร้อมกับเสียงฟาดฟันต่อสู้กันของสงคราม ระหว่างแคว้นชิงเหว่ยและแคว้นต้าเว่ย สองแคว้นที่บาดหมางและสู้รบกันมาเนิ่นนาน
ในครั้งนี้แม่ทัพของแคว้นชิงเหว่ยนั้นเป็นถึงอนุชาของฮ่องเต้ เพราะการสู้รบยืดเยื้อแต่ไม่สามารถที่จะยุติสงครามได้เลย จึงทำให้แม่ทัพฟู่จินต้องออกมานำศึกด้วยตนเอง และด้วยกลยุทธ์การทำศึกที่ไม่มีใครเหมือน และไม่มีใครล่วงรู้ ถึงการวางแผนของแม่ทัพผู้นี้ ไม่นานก็ตีทัพของแคว้นต้าเว่ยแตกพ่าย แม่ทัพของต้าเว่ยจึงถูกคุมตัว
"ข้าแพ้แล้วจะทำอะไรกับข้าก็ทำเถอะ "
"อย่าพูดเช่นนั้นเลยท่านแม่ทัพ ถึงอย่างไรท่านก็เป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้น ข้าคงไม่ใจร้ายถึงเพียงนั้นหรอก แต่เห็นทีข้าจะต้องเจรจากับฮ่องเต้แคว้นต้าเว่ย เพื่อขอสามเมืองของแคว้นท่านมาเป็นของกำนัล "
"หึ ข้าคิดไว้อยู่แล้วเชียว คนอย่างเจ้ามีหรือที่จะยอมปล่อยข้าง่ายๆ คนโหดเหี้ยมเช่นเจ้า หากได้สามเมืองของแคว้นเราไป ก็คงไม่วายทำให้ชาวเมืองต้องหวาดกลัว หาความสงบสุขไม่มีเป็นแน่ "
แม่ทัพหานอวี้ของแคว้นต้าเว่ย เอ่ยออกมา อ๋องฟู่จินหรือแม่ทัพฟู่จิน เหยียดยิ้มใส่คนตรงหน้า ก่อนที่จะออกคำสั่ง
"เอาตัวแม่ทัพหานอวี้ไปขังไว้ แล้วเตรียมยกทัพส่วนหนึ่ง ข้าจะไปเจรจากับฮ่องเต้แคว้นต้าเว่ย "
แม่ทัพฟู่จินยกทัพเดินทางเข้าเมืองหลวงของแคว้นต้าเว่ย ด้วยกิตติศัพดิ์ของอ๋องฟู่จินหรือแม่ทัพฟู่จินที่ต่างก็กล่าวขานกันว่า เป็นแม่ทัพผู้โหดเหี้ยม เย็นชาไร้หัวใจไม่เคยปราณีศัตรูและผู้ใด
เมื่อชาวแคว้นต้าเว่ยได้เห็นก็ต่างหวาดกลัวและเกรงกลัว ฟู่จินเดินทางมาจนถึงวังหลวงของแคว้นต้าเว่ย พร้อมกับทูตที่มาเจรจา
"ถวายพระพรฮ่องเต้พะยะค่ะ กระหม่อมแม่ทัพฟู่จินแห่งแคว้นชิงเหว่ยพะยะค่ะ ฝ่าบาทคงจะรู้แล้วว่ากระหม่อมเดินทางมาทำไม "
" เจ้าเอ่ยมาเลยดีกว่าว่าเจ้าต้องการอะไร "
" กระหม่อมต้องการสามเมืองที่อยู่ติดกับเขตแดนของแคว้นชิงเหว่ยพะยะค่ะ "
" ท่าทางหยิ่งจองหองของเจ้า ถ้าข้าไม่ยอมเจ้าก็คงจะยึดตีแคว้นของข้าทั้งหมดสินะ "
"หากรู้เช่นนั้นแล้วฝ่าบาทจะตรัสว่าเช่นไรล่ะพะยะค่ะ "
" ข้าจะยกให้เจ้าเพียงแค่เมืองเดียวเท่านั้น หากเจ้าไม่ยินยอมก็คงต้องทำศึกกันต่อไป "
"สงสัยพระองค์คงจะอยากทำศึกมากนะพะยะค่ะ”
ฮ่องเต้เฉินอี้หลินที่แก่ชราเพียงแค่เอ่ยหยั่งเชิงดูเท่านั้น ว่าจะยังคงรักษาอีกสองเมืองได้หรือไม่ หากอ๋องฟู่จินยอมแคว้นของตน ก็ยังเหลือเมืองที่อุดมสมบูรณ์อยู่รอบแคว้น
แต่ถ้าหากต้องเสียไปถึงสามเมืองพร้อมกัน คงทำให้แคว้นต้าเว่ยสูญเสียเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไป แต่ฮ่องเต้แคว้นต้าเว่ยก็ยังคิดหาวิธีที่จะไม่เสียทั้งสองเมืองไป
"ข้ารู้ว่าท่านคงจะไม่ยินยอมเป็นแน่ เพราะฉะนั้นข้าจึงคิดว่า ข้าจะยกเมืองที่อยู่ติดชายแดนแคว้นชิงเหว่ย และข้าจะยกองค์หญิงของข้า ให้ไปเป็นของกำนัลแก่แคว้นของเจ้า "
ฮ่องเต้เอ่ยออกไปเพราะได้ยินข่าวลือว่า ฮ่องเต้แคว้นชิงเหว่ยนั้นชอบอิสตรี เมื่อตีชนะแคว้นใดก็มักที่จะรับของกำนัลเป็นหญิงสูงศักดิ์ในแคว้นนั้นเสมอ แม่ทัพฟู่จินยกยิ้มเหยียดใส่ฮ่องเต้แคว้นต้าเว่ย ที่ยอมยกธิดาของตนให้โดยง่าย
" กระหม่อมได้ยินว่าองค์หญิงของฮ่องเต้ มีรูปโฉมที่งดงามยิ่งพะยะค่ะ ถ้าเป็นเช่นนั้นฮ่องเต้ของกระหม่อมก็คงจะถูกใจเป็นแน่ "
" ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าก็จะกำนัลด้วยองค์หญิงทั้งสองที่ข้ามี ให้แก่แคว้นชิงเหว่ยก็แล้วกัน "
" นี่พระองค์จะยอมยกให้ทั้งสองเลยหรือพะยะค่ะ แต่ได้ยินว่าองค์หญิงองค์เล็กนั้น พึ่งมีชันษาเพียง13 ปีเองไม่ใช่หรือพะยะค่ะ "
" อีกไม่นานก็โตพอที่จะปรนนิบัติฮ่องเต้ได้แล้ว หากองค์หญิงทั้งสองพระองค์ของข้า จะสามารถแลกกับเมืองของข้าได้ ข้าก็ยินดี "
"ช่างเป็นพ่อที่รักลูกมากเหลือเกินนะ ตกลงกระหม่อมจะยอม 1 เมืองและ 2 องค์หญิง "
เมื่อการเจรจาสิ้นสุดลง อ๋องฟู่จินก็รับตัวองค์หญิง และสารยอมจำนน พร้อมกับเดินทางกลับแคว้นชิงเหว่ยทันที อ๋องฟู่จินมององค์หญิงสามที่นั่งอยู่ในรถม้า
องค์หญิงสามส่งยิ้มให้กับฟู่จิน เพราะรู้สึกหลงใหลในรูปลักษณ์ของบุรุษหนุ่ม ที่เป็นถึงน้องชายของฮ่องเต้
และยังเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจ ฟู่จินยกยิ้มที่มุมปากก่อนที่สายตาจะกวาดไปมององค์หญิงตัวเล็กอีกคนดวงตากลมใสแก้มชมพู จ้องมองอย่างโกรธเคือง
"คงจะโกรธแค้นข้ามากสินะ ที่ข้าเป็นสาเหตุให้ต้องพลัดบ้านเมืองมาเช่นนี้ "
ฟู่จินเอ่ยขึ้นเบาๆ การเดินทางกลับแคว้นชิงเหว่ยเป็นไปอย่างราบรื่น จนเดินทางเข้าเมืองหลวงของแคว้นชิงเหว่ย องค์หญิงสามตื่นตาตื่นใจกับความรุ่งเรืองของแคว้นชิงเหว่ยเป็นอย่างมาก
แต่สายตาก็ไม่วายที่จะมองแม่ทัพหนุ่มรูปงาม ฟู่จินได้แต่ยกยิ้มที่มุมปาก ไม่ว่าหญิงสาวจากแคว้นใด เมื่อได้เห็นตนนั้นก็มักที่จะหลงใหลเสมอ ด้วยขณะนี้ฟู่จินที่อยู่ในวัย 26 ปี อยู่ในช่วงวัยหนุ่มเต็มตัว
แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีพระชายา หรือรับสนมเลยสักคน เป็นเพราะสนใจในการรบมากกว่า ที่จะอยู่ในเมืองหลวง หากต้องการหญิงสาวก็เพียงแต่ให้คนสนิทหามาให้เท่านั้น
"พี่หญิงแล้วต่อไปเราจะทำเช่นไรเพคะ "
เสียงเอ่ยถามพี่สาวจากองค์หญิงเล็กเหม่ยอิง ในวัย 13 ปี
ื "จะเป็นเช่นไรได้ก็คงต้องอยู่เป็นเชลยในแคว้นนี้นะสิ ไม่ก็คงจะถูกจับให้อภิเษกกับองค์ชายองค์ใดองค์หนึ่ง หรือไม่ก็เป็นสนมของฮ่องเต้ "
" ต้องถูกจับให้เป็นสนมของฮ่องเต้หรือเพคะ ข้าด้วยหรือพี่หญิง "
“ก็คงเป็นเช่นนั้นแหละ แต่พี่อยากเป็นพระชายาของท่านแม่ทัพฟู่จินมากกว่า ถึงแม้จะเป็นพระชายาของท่านอ๋อง แต่ก็เป็นท่านอ๋องที่เป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้นด้วยเช่นกัน มิหนำซ้ำยังรูปงามเสียเพียงนี้ เจ้าดูหุ่นที่กำยำสูงโปร่งนั่นสิ หญิงใดไม่หลงใหลก็เห็นทีจะตาบอดเป็นแน่”
"พี่หญิงหลงใหลคนที่ก่อสงครามกับแคว้นของเราเช่นนั้นหรือเพคะ หากหม่อมฉันมีโอกาสหม่อมฉันจะสังหารคนผู้นี้เสีย "
" เจ้าพูดอะไรกันเป็นเด็กตัวแค่นี้คิดจะสังหารผู้อื่นเช่นนั้นหรือ มิหนำซ้ำยังคิดที่จะสังหาร คนที่เป็นถึงแม่ทัพใหญ่ของแคว้นชิงเหว่ย เจ้าคงฝันไปแล้วล่ะ"
องค์หญิงสามเหม่ยหลินพูดออกมาพร้อมกับยิ้มเยาะน้องสาวของตน แม้จะมาจากแคว้นเดียวกันและเป็นพี่น้องกัน แต่เพราะองค์หญิงห้าเหม่ยอิงนั้นเป็นบุตรของสนมรองจากแม่ของเหม่ยหลิน เหม่ยหลินจึงไม่ได้รักใคร่น้องสาวคนนี้
หนำซ้ำยังมีใจอิจฉาเพราะหน้าตาขององค์หญิงห้านั้น มีความสดใสน่ารักหากโตไปก็คงจะเป็นหญิงที่งดงามมาก
" ถึงแล้วพะยะค่ะองค์หญิงพรุ่งนี้เช้ากระหม่อมจะมารับไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้นะพะยะค่ะ"
ฟู่จินเชิญเสด็จองค์หญิงทั้งสองให้เข้าตำหนักรับรอง เหม่ยหลินหันมายิ้มให้กับท่านอ๋องฟู่จิน ฟู่จินจึงยิ้มตอบออกไปเช่นนั้นด้วยมารยาท แต่กับคนตัวเล็กอีกคน กลับไม่ได้ส่งมือเพื่อประคองเดินลงจากรถม้า เช่นเดียวกับพี่สาวของตน
และยังใช้สายตาที่ไม่เป็นมิตรส่งให้แก่แม่ทัพใหญ่ของแคว้นด้วย ฟู่จินรู้สึกชอบใจกับท่าทีต่อต้านของเด็กสาวยิ่งนัก เป็นเพราะไม่เคยมีใครที่แสดงท่าทีเช่นนี้ ไม่เหมือนกับคนตัวเล็กตรงหน้าที่ไม่เกรงกลัวตนสักนิด
" ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ดูแลข้าและน้องหญิงเป็นอย่างดี ข้าจะรอให้ท่านมารับในวันพรุ่งนี้ ท่านแม่ทัพดูแลตัวเองด้วย "
องค์หญิงเหม่ยหลินเอ่ยกับแม่ทัพฟู่จิน ก่อนที่ฟู่จินจะหันไปถามองค์หญิงเล็ก
" แล้วองค์หญิงเล็กล่ะพะยะค่ะ ตลอดทางเห็นนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรเลย สบายดีใช่หรือไม่พะยะค่ะ "
" ข้าสบายดี ข้ายังไม่เป็นอะไรตอนนี้หรอก ข้ารอที่จะอื้อ "
เหม่ยหลินใช้มืออุดปากของเหม่ยอิงทันที เพราะรู้ว่าน้องสาวของตนจะเอ่ยอะไรออกไป ฟู่จินยกยิ้มเพราะรู้ว่าคนตัวเล็กนั้นคิดจะพูดอะไร
" เช่นนั้นกระหม่อมก็สบายใจพะยะค่ะ เพราะอดเป็นห่วงองค์หญิงน้อยไม่ได้ที่ต้องห่างบ้านห่างเมืองมา "
" ขอบพระทัยท่านอ๋องที่เป็นห่วงข้า แต่ไม่จำเป็นหรอกเก็บความห่วงใยนั้นไว้ให้กับตัวท่านเองเถอะ "
เหม่ยอิงพูดจบก็เดินเข้าตำหนักรับรองไป เหม่ยหลินยิ้มให้กับแม่ทัพฟู่จิน เพราะหวังที่จะสร้างความสัมพันธ์กับคนตัวโต แต่ฟู่จินก็ไม่ได้สนใจ ก่อนที่จะเอ่ยลากลับจวนของตน
" เชิญเสด็จองค์หญิงพักผ่อนตามสบายพะยะค่ะ กระหม่อมขอทูลลา "
ฟู่จินเอ่ยลาแล้วเดินทางเข้าเฝ้าฮ่องเต้ทันที ฟู่จินพูดคุยอยู่กับพี่ชายของตนอยู่นานจึงกลับตำหนักของตนเพื่อพักผ่อน