บทที่ 3 หมาก? นางจะทำลายกระดานหมากเอง!
“ปั้ง!”
ประตูถูกถีบไปออกอีกครั้ง ความคิดของเฟิงฉิ้นหว่านถูกขัดจังหวะ
เกาหนานพาบ่าวรับใช้บุกเข้ามาอย่างอุกอาจ เดิมทีพวกเขาคาดว่าเข้ามาเพื่อจะเปิดโปงฉากสวาทระหว่างเกาหวูกับเฟิงฉิ้นหว่าน แต่กลับไม่คาดคิดว่า เมื่อเข้ามาจะเห็นภาพลูกชายของตัวเองมีเลือดเต็มหัวนอนกองอยู่บนพื้น
“เสิ่นเยว่ เฟิงฉิ้นหว่าน พวกเจ้าฆ่าลูกชายของฉันรึ” เกาหนานตะคอกใส่
เสิ่นเยว่ดึงเฟิงฉิ้นหว่านมาไว้ด้านหลังตน “เกาหนาน ลูกชายของท่านล่อลวงเฟิงฉิ้นหว่านมาที่นี่ด้วยเจตนาไม่ดี หากถูกฆ่าตายก็สมควรแล้ว!”
“เหลวไหล! เห็นชัดๆ ว่าเฟิงฉิ้นหว่านแอบชอบลูกชายของข้า ไม่สนใจแม้แต่ช่วงไว้อาลัยของบิดาตนเอง แล้วหลอกล่อเขามา”
เฟิงฉิ้นหว่านมองไปที่เกาหนาน ความเกลียดชังหลอมรวมขึ้นในใจ
เกาหนานคือพี่น้องร่วมสาบานของพ่อเลี้ยง
ตอนที่เกาหนานมาหาพ่อเลี้ยงของนางเพื่อขอความช่วยเหลือนั้น เขาไม่มีอะไรติดตัวมาเลย แต่พ่อเลี้ยงก็ให้ความช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ ช่วยเกาหนานเปิดร้าน หาเส้นทางให้เขาได้ค้าขาย และยังแบ่งปันแหล่งรับของมาขายให้เขาอย่างยินดี หลังจากก่อตั้งสมาคมหนานเจียงขึ้นมาแล้ว ก็ยังแต่งตั้งให้เขารองสมาคม ทำให้ตระกูลเกาของเขามีหน้ามีตาในสังคมและมีชื่อเสียงขึ้นมา
แต่ไม่คาดคิดเลยว่าช่วยเหลือไปมากมายขนาดนั้น สุดท้ายกลับเป็นการเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกเอาไว้ตัวหนึ่ง
และท่ามกลางการทะเลาะต่อสู้กันอยู่นั้น เสิ่นเยว่แม่เลี้ยงของนางถูกเศษกระเบื้องทิ่มตา ตระกูลเกากลับปล่อยข่าวออกไปว่านางเสียบริสุทธิ์ในช่วงไว้ทุกข์ของพ่อ ข่าวนี้ทำให้แม้แต่หมอยังไม่กล้ามารักษานางที่บ้าน ด้วยเหตุนี้เองแผลของเสิ่นเยว่จึงเริ่มเป็นหนอง และเมื่อหนักข้อเข้าจึงลามไปทั่วทั้วใบหน้าจนทำให้หน้าของนางเสียโฉม
เสิ่นเยว่ใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่ตระกูลเฟิงมีเพื่อแลกตัวนางให้ออกมาจากตระกูลเกา นางจะได้ไม่ต้องตกเป็นอนุของเกาหวู แต่เพราะเรื่องนี้เองที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนางต้องขาดสะบั้นลง
ความแค้นของทั้งชาตินี้และชาติก่อนสะสมหลอมรวมอยู่ในจิตใจของนาง เฟิงฉิ้นหว่านรู้สึกว่าอวัยวะภายในร่างกายของนางหลอมละลายกลายเป็นเปลวเพลิง
“เกาหนาน ข้าเป็นคนทำร้ายลูกชายของท่านเอง และยังกรอกยาด้วย”
เกาหนานหรี่ตาลง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาหันไปสบตากับเฟิงฉิ้นหว่านโดยตรง
เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเฟิงหลิง และเคยเห็นเด็กสาวคนนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งใดเลยที่เขาเห็นแววตาของนางสุกสว่างและมีท่าทางใจเย็นขนาดนี้
“เมื่อทำร้ายคนอื่นก็ต้องชดใช้นะ” ใบหน้าของเกาหนานเต็มไปด้วยความโกรธ
“ถูกต้อง ทำร้ายคน แน่นอนว่าต้องชดใช้!” เฟิงฉิ้นหว่านกล่าวออกมาช้าๆ อารมณ์ในใจของนางกำลังเดือดปุด
หากเกาหนานเป็นห่วงเกาหวูจริง จะยืนเจรจากับนางด้วยท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนแบบนี้ได้หรือ เกาหนานเป็นคนที่มีลูกชายและลูกสาวหลายคน เกาหวูผู้นี้เป็นลูกของอนุที่เขาจะมีหรือไม่มีก็ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมเกาหนานถึงใช้เขาให้ออกมาทำร้ายคนเช่นนี้
บิดาเป็นห่วงนางมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือที่อยู่ต่างใส่ชื่อนางให้เป็นเจ้าของ แถมยังเขาพินัยกรรมไว้อีกด้วยว่ามีเพียงนางเท่านั้นที่จะจัดการกิจการทุกอย่างของตระกูลเฟิงได้
ด้วยเหตุนี้เอง วันนี้เกาหนานถึงได้เดินหมากเช่นนี้ นั่นคือทำร้ายนางเพื่อให้ได้ครอบครองตระกูลเฟิง
ชาติก่อน นางเป็นหมาก
แต่ชาตินี้ นางจะทำลายกระดานหมากทิ้ง!
เสิ่นเยว่หันมาพูดเสียงเครียดว่า “เฟิงฉิ้นหว่าน เจ้าคิดจะทำอะไร ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าร่างกายไม่แข็งแรง ร่างกายบอบบางอย่างเจ้าจะเอาอะไรไปทำร้ายคน เกาหนาน ข้าเป็นคนทำร้ายลูกชายของเจ้าเอง อยากทำอะไรก็มาทำกับข้า!”
เฟิงฉิ้นหว่านบีบมือของเสิ่นเยว่เอาไว้แน่น “ท่านแม่ เรื่องที่เป็นฝีมือของข้า ข้าจะรับผิดชอบเอง”
คราวนี้ นางไม่มีทางปล่อยให้แม่ต้องมาลำบากเพราะนางอีก
“เจ้าจะรับผิดชอบอะไรได้!” เสิ่นเยว่หันไปมองเฟิงฉิ้นหว่านอย่างเอาจริงเอาจัง ถ้านางตื่นขึ้นมาเร็วกว่านี้หน่อยคงไม่ถูกหลอกมาถึงที่นี่
เฟิงฉิ้นหว่านจ้องตาของเสิ่นเยว่แล้วกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “ท่านแม่ ท่านเชื่อข้าสักครั้งนะเจ้าคะ”
เสิ่นเยว่ชะงัก นางดูแลเฟิงฉิ้นหว่านมา 15 ปี ตั้งแต่ที่นางเริ่มจำความได้ก็ไม่เคยเรียกนางว่าท่านแม่เลย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่เคยใช้สายตาเคารพและสนิทสนมเช่นนี้มองนางมาก่อน......
เด็กคนนี้......
เฟิงฉิ้นหว่านหันไปมองเกาหนาน สายตาของนางจึงกลับมาเย็นชาอีกครั้ง
“เกาหนาน ถ้าท่านอยากได้กิจการของตระกูลเฟิง ท่านก็ต้องใช้หนังสือมอบสมบัติที่ข้าเป็นคนเขียน แต่ติดอยู่ตรงที่ว่าหนังสือฉบับนี้ ต่อให้ข้าตาย ข้าก็ไม่มีวันยกให้ท่าน!”
เกาหนานขมวดคิ้วแน่น “ได้ เด็กน้อยคนนี้ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้เจ้ารู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรแทนพ่อเจ้าเอง!”
ตอนนี้ไม่กลัว พอไปถึงคุกศาลแล้วจะยังไม่กลัวอยู่อีกไหม
“ทหาร เฟิงฉิ้นหว่านเสียตัวในช่วงไว้ทุกข์ หลอกล่อลูกชายของข้าไม่พอ ยังทำร้ายเขาอีก ไปจับตัวนางมาให้ข้าและกุมตัวไปที่ว่าการอำเภอเดี๋ยวนี้!”
เสิ่นเยว่เดินออกมาขวางหน้าเฟิงฉิ้นหว่านเอาไว้ “เกาหนาน ท่านจะทำอะไร”
เรื่องความถูกผิด ใช้ปากตัดสินแค่นี้ก็ได้แล้วหรือ
อีกทั้งช่วงนี้นิสัยของเฟิงหลิงเย็นชาห่างเหิน หากเข้าไปที่ว่าการอำเภอ ชีวิตหลังจากนี้ของเฟิงฉิ้นหว่านคงจบเห่แน่
บ่าวรับใช้ของตระกูลเกาวิ่งกรูกันเข้ามาแล้วลากตัวเสิ่นเยว่ออก จากนั้นจับข้อมือของเฟิงฉิ้นหว่านเอาไว้