คำขอ
ลลิล...
"มึงอย่าหวังเลยว่ากูจะเอาลูกโสเภณีอย่างมึงมาเป็นเมีย" คุณคิมหันต์พูดตะคอกใส่หน้าฉันเสียงดังต่อหน้าผู้หญิงขอเขาและอีกสามคนที่ยืนอยู่ข้างหลังที่มองฉันอย่างเยาะเย้ยพอใจส่วนเขาก็ไม่ต่างกันสายตารังเกียจเดียดฉันท์ที่ฉันเห็นจนชินตามาตลอดสิบปีมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ฉันอยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่าฉันเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับเขาเหมือนกันแต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันทำได้แค่ก้มหน้า มันเจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจจนพูดอะไรไม่ออก มีหลายครั้งที่ฉันอดคิดไม่ได้ว่าถ้าคุณท่านไม่รับฉันมาเลี้ยงดูชีวิตฉันอาจจะมีความสุขมากกว่านี้หรือเปล่า แม้จะต้องอยู่กับแม่ที่ไม่เคยรักฉันเลยแต่ถึงยังไงท่านก็เป็นแม่ ถ้ายังอยู่กับแม่ฉันคงไม่ถูกคนอื่นดูถูกเหยียดหยามแบบนี้เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันโดนดูถูกโดยเฉพาะเรื่องแม่ ถามว่าฉันเคยไปหาแม่หรือเปล่า ฉันไปหาแม่บ่อยมากแต่ก็โดนแม่ไล่กลับมาทุกครั้งและแม่บอกว่าไม่ต้องมาที่นี่อีก แต่ฉันก็ยังแอบไปจะให้ฉันตัดขาดจากท่านฉันทำไม่ได้หรอกแม้ว่าท่านจะไม่ต้องการฉันก็ตาม
"มีเรื่องอะไรกันอีกห๊ะ!!!" เสียงทรงอำนาจดังขึ้นทางด้านหลังเป็นคุณท่านที่เดินเข้ามาพร้อมพยาบาลที่ดูแลท่าน แต่สีหน้าของท่านดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
"ย่ามาก็ดีแล้ว จะได้รู้สันดานของผู้หญิงที่ย่าจะให้ผมแต่งงานด้วย"
"นังลิลมันทำอะไรให้เราไม่พอใจอีก"
"พวกเธอสามคนเล่าดิ เล่าเหมือนที่เล่าให้ฉันฟังเมื่อกี๊" คุณคิมหันต์หันไปบอกทั้งสามคนที่ใส่ร้ายฉัน
"เอ่อ คือว่านังลิลมัน เอ่อ มันทำร้ายพวกเราสามคนค่ะคุณท่าน"
"ชะ ใช่ค่ะ มันแอบอู้งานไปข้างนอก พอกลับมาก็มาวางอำนาจใส่พวกเราบอกว่าพวกเราเป็นได้แค่ขี้ข้า"
"มันยังบอกอีกว่าอีกไม่นานมันก็จะกลายเป็นสะใภ้ของบ้านนี้ค่ะ มันจะไล่พวกเราออก"
"จริงหรือเปล่านังลิล" คุณท่านหันมาถามฉัน
"ไม่จริงค่ะ ลิลไม่ได้พูดแบบนั้นค่ะคุณท่าน"
"หลักฐานขนาดนี้มึงยังกล้าปฏิเสธเหรอห๊ะ"
"เอาล่ะเรื่องนี้เดี๋ยวย่าจะจัดการเองแกจะไปไหนก็ไปตาคิม"
"มันเผยสันดานธาตุแท้ของมันออกมาขนาดนี้ผมหวังว่าย่าจะไม่ดื้อดึงให้ผมแต่งงานกับมันนะครับ" พูดจบคุณคิมหันต์ก็เดินจูงมือผู้หญิงของเขาออกไปจากห้องครัว ส่วนฉันกับอีกสามคนคุณท่านให้ตามไปที่ห้องรับแขก
"ฉันจะให้พวกแกทั้งสามคนพูดความจริงอีกครั้ง ถ้าฉันจับได้ว่าพวกแกโกหกสร้างเรื่องใส่ร้ายนังลิลฉันจะตัดเงินเดือนพวกแก"
"คุณท่านทำไมพูดแบบนี้คะ คุณท่านพูดเหมือนไม่เชื่อพวกเราสามคน" จุ๊บแจงโวยวาย
"ใช่ค่ะคุณท่านนังลิลมันน่ะต่อหน้าคุณท่านมันก็แสร้งทำตัวเป็นคนดีแต่ลับหลังมันร้ายมาก"
"มันทำร้ายพวกเรานะคะไม่เชื่อคุณท่านก็ดูหน้าจุ๊บแจงมันสิคะ"
"พวกแกตั้งสามคนสู้นังลิลคนเดียวไม่ได้??"
"เอ่อออ"
"พวกแกคิดว่าฉันไม่รู้งั้นสิ อย่าลืมว่าฉันเลี้ยงพวกแกมาทำไมฉันจะไม่รู้ว่าพวกแกรวมถึงนังลิลนิสัยใจคอเป็นยังไง"
ทั้งสามคนก้มหน้าเงียบลงไม่มีใครกล้าพูดกล้าเถียงอะไรอีก
"ฉันหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นพวกแกรังแกนังลิล"
"คุณท่านเอาแต่เข้าข้างมันตลอด"
"ฉันเข้าข้างคนไม่ผิดฉันผิดงั้นสิ"
"เอ่อ ไม่ใช่นะคะ"
"พวกแกออกไปกันได้ละ ส่วนนังลิลแกยังไม่ต้องไปฉันมีเรื่องต้องคุยกับแกเรื่องงานแต่งงาน" พอได้ยินแบบนั้นสายตาของทั้งสามคนก็ลอบมองฉันด้วยความโกรธแค้นก่อนจะพากันเดินออกไป
"เมื่อเช้าแกไปทำบุญให้คุณพี่มาใช่ไหมนังลิล"
"ค่ะคุณท่านลิลไปทำบุญให้คุณท่านมาค่ะ"
"คงมีแต่แกที่ยังนึกถึงบุญคุณของคุณพี่อยู่"
"คุณท่านมีพระคุณกับลิล ลิลไม่มีวันลืมหรอกค่ะ"
"แล้วถ้าฉันตายไปแกจะไปทำบุญให้ฉันหรือเปล่า"
"คุณท่าน"
"ที่ฉันถามเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันเอาแต่ใช้แกบังคับให้แกทำในสิ่งที่ฉันต้องการรวมถึงเรื่องแต่งงานกับตาคิม แกอาจจะเกลียดฉันก็ได้"
"ลิลไม่เคยคิดแบบนั้นเลยค่ะ คุณท่านเองก็มีบุญคุณกับลิลเหมือนกันถ้าไม่มีคุณท่านทั้งสองลิลก็คงไม่มีโอกาสได้เล่าเรียน"
"แกมันมันเด็กตัญญูรู้คุณคน ฉันหวังว่าสักวันหนึ่งแกจะเจอคนที่ดีที่เขาสามารถดูแลแกได้ ฉันสั่งทนายไว้แล้วว่าหลังจากที่แกหย่ากับตาคิมซึ่งฉันก็ไม่รู้เมื่อไหร่แกต้องออกไปจากบ้านหลังนี้ทันที ฉันจะให้ทนายจัดงานโอนเงินให้แกไปตั้งต้นชีวิตใหม่"
"ไม่ต้องก็ได้ค่ะ ลิลไม่ได้ต้องการเงิน ลิลจะไปโดยที่ไม่เรียกร้องเงินแม้แต่บาทเดียว"
"อย่าทำตัวเป็นคนดีให้มากเลยนังลิล แกควรจะเห็นแก่ตัวบ้างถ้าถึงตอนนั้นฉันอาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้แต่ยังไงซะแกต้องรับเงินก้อนนั้นเพื่อที่แกจะได้เอาไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่ไหนสักที่ แค่ก แค่ก" คุณท่านพูดจบประโยคก็ไอออกมาอย่างหนักฉันกับพยาบาลประจำตัวท่านรีบเข้าไปดูอาการทันทีด้วยความเป็นห่วง
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา....
ตอนนี้ฉันกับคุณคิมหันต์นั่งอยู่คนละฝั่งของเตียงคุณท่าน
"แค่ก แค่ก ย่าคงอยู่กับแกได้ไม่นานแล้วนะตาคิม"
"ย่าอย่าพูดแบบนี้ ย่าต้องอยู่กับผมไปอีกนานๆ"
"แกก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ก่อนที่ย่าจะไม่อยู่ ย่าอยากให้แกทำตามที่ย่าขอร้องตอนนี้ เรื่องแต่งงานกับนังลิล" พอได้ยินแบบนั้นเขาก็หันมามองหน้าฉันทันทีจนฉันต้องรีบหลบสายตา
"ฤกษ์จริงๆ มันอีกหนึ่งเดือนแต่ย่ากลัวจะอยู่ไม่ถึง ยังไงวันนี้ย่าจะให้ทนายพาเจ้าหน้าที่อำเภอมาที่บ้านเพื่อให้แกกับนังลิลจดทะเบียนสมรสกันก่อนส่วนเรื่องงานแต่งแกอยากจัดหรือไม่อยากจัดก็เอาที่แกสะดวก ย่าไม่บังคับ แกทำตามที่ย่าขอร้องเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม"
"ย่าพูดขนาดนี้แล้วผมจะทำอะไรได้"
ตอนนี้ฉันกับคุณคิมหันต์จดทะเบียนสมรสกันแล้วต่อหน้าคุณท่าน และเจ้าหน้าที่หลานท่านฉันรู้ว่าเขาไม่อยากจดทะเบียนกับฉันแต่เขาปฎิเสธความความต้องการของคุณท่านไม่ได้ สถานะตอนนี้ของฉันก็คือภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายของเขาแล้วแม้เขาจะไม่เต็มใจก็ตาม
หลังจากที่ฉันกับคุณคิมหันต์จดทะเบียนกันอาการคุณท่านก็แย่ลงเรื่อยๆ ฉันคอยดูแลท่านอย่างใกล้ชิดร่วมกับพยาบาล หน้าที่หลักของฉันก็คือการป้อนข้าวป้อนยาเช็ดตัวทำความสะอาดร่างกายให้ท่านเพราะท่านลุกไม่ไหวฉันทำทุกอย่างอย่างไม่รังเกียจเพื่อตอบแทนพระคุณของท่านเป็นครั้งสุดท้าย
"แกเป็นคนดีจริงๆ นังลิล ฉันคิดไม่ผิดที่เลือกแก ฉันหวังว่าแกจะ..." ท่านพูดด้วยน้ำเสียงหอบ
"คุณท่านไม่ต้องห่วงนะคะ ลิลสัญญาว่าจะทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณท่าน" ฉันคิดว่าท่านคงจะพูดถึงเรื่องสัญญา ท่านอาจจะกลัวว่าฉันจะไม่ยอมหย่า
"แต่ถ้าแกทำให้ตาคิมมีความสุขได้ฉันก็ยินดีที่จะให้แกเป็นหลานสะใภ้ของฉัน เพราะถ้าฉันไม่อยู่แล้วตาคิมก็คงไม่เหลือใคร คงไม่มีใครรักและหวังดีกับเขาเท่าแก"
"คุณท่าน"
"ฉันรู้ว่าแกรู้สึกยังไงกับตาคิมแกรักตาคิมใช่ไหม"
"............" ฉันพูดไม่ออกเพราะมันคือความจริงที่ฉันแอบหลงรักเขาแม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเขาเกลียดฉันมากแค่ไหน
"พอรู้ตัวว่าจะไม่อยู่มันก็ทำให้ฉันคิดได้หลายอย่าง สมบัติเงินทองที่หามาตลอดชีวิตสุดท้ายก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง ตอนนี้ฉันห่วงอยู่อย่างเดียวก็คือตาคิม แกดูแลตาคิมแทนฉันได้ไหมนังลิล อยู่ดูแลตาคิมทำให้เขามีความสุขในวันที่เขาไม่เหลือใครให้พึ่งพิง ฉันขอแค่นี้แกทำให้ฉันได้ใช่ไหม เพราะมันจะเป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายของฉัน ส่วนเรื่องสัญญาถือซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น ฉันไม่รังเกียจแกหรอกนะเรื่องแม่ของแกเพราะฉันรู้ว่าคนเรามันเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าเลือกได้แกก็คงไม่อยากให้แม่แกทำอาชีพนั้น"
"คุณท่านคะคือว่าลิลไม่.." ฉันอยากจะปฏิเสธคำขอของท่านเพราะฉันคิดว่าฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันคงไม่สามารถทำให้เขามีความสุขได้หรอก
"ถือว่าฉันขอร้อง แกทำได้ไหมนังลิล"