บท
ตั้งค่า

ช้างตายทั้งตัว

"ให้กูเข้าไปก่อน ..."บอยพูดขึ้น 

"ไม่...กูเข้าก่อน ..."จิพูดพร้อมกับดันตัวของบอยให้หลบไป

"ไม่...กูจะเข้าก่อน ..."บอยเองก็ไม่ยอม เขาพยายามที่จะดันตัวของจิออกจากประตู แล้วเขาก็จะเข้าไปแทนที่

"โอ้ย..ย หลบไปทั้งสองคนนั่นแหละ รำคาญ...!! ..."ขันทองพูดพร้อมกับผลักทั้งสองคนให้ออกไปจากประตู

"พวกมึงจะแย่งกันเข้าห้องกูอีกนานไหม กุญแจอยู่นี้ ..."เจษยกกุญแจที่อยู่ในมือของเขาให้เพื่อนๆดู หลังจากที่กลับมาจากไปซื้อของที่จะไปเข้าค่ายกันแล้ว เพื่อนๆก็ขอมาห้องของเขา เพราะทุกคนอยากรู้จักศรัณย์ พอมาถึงห้องของเขา ก็แย่งกันเข้าห้องของเขาอย่างที่เห็นนี่แหละ

"เออๆ มึงรีบเปิดเข้าไปเถอะ กูอยากเจอที่รักกูแล้วเนี่ย ..."จิพูดขึ้นด้วยนํ้าเสียงที่ตื่นเต้น ก่อนที่เขาจะกระซิบเจษในท้ายประโยค 

"มั่นหน้ามากนะมึง เรียกเขาว่าที่รักอ่ะ ..."บอยบึนปากใส่จิอย่างหมั่นไส้ ก่อนที่เขาจะดันให้จิหลบ แล้วเขาก็เข้าห้องของเจษก่อนใคร หลังจากที่เจษเปิดประตูห้องให้แล้ว

แกร๊ก

"ไม่เห็นมีใครอยู่เลย ..."ขันทองพูดขึ้น หลังจากที่เขามองหาไปทั่วห้องแล้ว

"ก็กูบอกแล้วไง ว่าเขาอาจจะยังไม่กลับมา หรือเขาอาจจะไม่กลับมาอีกแล้วก็ได้ ..."เจษพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเอาเป้และของที่เพิ่งจะซื้อมา เอาไปวางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือของเขา ในขณะที่อุ่นนั่งอยู่บนขอบหน้าต่างด้านใน

"เจษ...ซู๊ดๆ ไหนมึงบอกว่าห้องมึงเหม็นไง ไม่เห็นเหม็นเลย ..."จิเดินดมกลิ่นไปทั่วห้องพักของเจษ ก่อนที่เขาจะหันไปถามเจษ

"ไม่รู้ว่ะ เดี๋ยวกูเปิดหน้าต่างก่อน กลิ่นมันอาจจะลอยมาจากที่อื่นก็ได้ ..."เจษพูดพร้อมกับเดินไปเปิดหน้าต่างห้อง โดยที่เขาเปิดหน้าต่างทะลุวิญญาณของอุ่นไปด้วย

"กลิ่นมันอาจจะลอยมาตามลมก็ได้นะ ..."ขันทองพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งที่เตียงของศรัณย์

"นั่นเตียงของศรัณย์เหรอเจษ..."จิถามพร้อมกับจะเดินเข้าไปในส่วนที่เป็นของศรัณย์

"พวกมึงออกมา อย่าไปยุ่งกับของของเขา พวกมึงมานั่งที่เตียงกูมา เดี๋ยวเขาจะหาว่ากูไปยุ่งกับของของเขา ..."เจษบอกเพื่อนเสียงดุ

"เออว่ะ ขอโทษๆ ..."ขันทองรีบลุกออกจากเตียงของศรัณย์อย่างรวดเร็ว 

"ก็ได้วะ รอให้เขาเป็นแฟนกูก่อน แล้วกูค่อยนอนเตียงเดียวกับเขาก็ได้ ..."จิพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินกลับมานั่งที่เตียงของเจษ

"งั้นวันนี้พวกเราก็มาเสียเที่ยวอ่ะสิ เลยไม่ได้รู้จักกับว่าที่แฟนของไอ้จิมัน ฮ่าๆ ..."ณิชาพูดขึ้นขำๆ

"เอออ่ะดิ๊…อดเลย …"จิพูดพร้อมกับทำหน้าเสียดายไปด้วย

"กูจักมิให้มึงเสียเที่ยวดอกหนา แม่คนงาม ..."อุ่นเดินเข้าไปใกล้ๆกับจิ ก่อนที่เธอจะยื่นหน้าเข้าไปชิดกับใบหน้าของจิ

"เหม็นอะไรอ่ะ อ๊วก...ก อ๊วก...อุ๊บ ..."จิเอามือปิดปากของตัวเองเอาไว้ เพื่อไม่ให้อ้วกออกมา

"ไปห้องนํ้าเลยจิ เหม็นอะไรของมึง กูไม่เห็นจะได้กลิ่นอะไรเลย เล่นใหญ่เกินเบอร์นี่ขอให้บอก ..."บอยพูดพร้อมกับชี้ให้จิไปอ้วกที่ห้องนํ้า

"เจ้าก็อยากรู้ฤา...พ่อหนุ่มรูปงาม ว่าแม่หญิงผู้นั้นเหม็นสิ่งใด ..."อุ่นเดินเข้าไปใกล้ๆกับบอย แล้วเธอก็ยื่นหน้าเข้าไปจนชิดกับใบหน้าของบอย ไม่ต่างกับที่เธอยื่นหน้าเข้าไปชิดกับใบหน้าของจิเลย

"อุ๊บ...บ อ๊วก เหม็น อ๊วก...ก อู๊บ...บ ..."บอยเอามือปิดปากแล้ววิ่งเข้าห้องนํ้าตามจิไป

"ฮ่าๆ สนุกจริงเว้ย ..."อุ่นยืนหัวเราะด้วยความสะใจ

"อะไรของพวกมันวะ พวกมันเหม็นอะไรวะ ..."ขันทองมองตามหลังของจิกับบอยไปอย่างไม่เข้าใจ เพราะว่าเขายังไม่ได้กลิ่นอะไรเลย

"เจ้าก็อยากรู้ฤา ..."อุ่นถามขึ้น ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปใกล้ๆกับขันทอง 

กรี๊ด...ด กรี๊ด...ด 

"ร้อน...!! มึงมีของดีคุ้มครองเช่นนั้นรึ ..."อุ่นถอยออกมาตั้งหลักที่ขอบหน้าต่าง พร้อมกับเอามือลูบตามเนื้อตามตัวของตัวเองไปด้วย

"เดี๋ยวกูไปดูสองคนนั้นก่อนนะ พวกมันเป็นอะไรกันวะ ..."ณิชาบอกเจษ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปดูสองคนที่แข่งกันอ้วกอยู่ในห้องนํ้า

"ไหวไหมพวกมึง เหม็นอะไรกันขนาดนั้นวะ ..."ขันทองถามขึ้น หลังจากที่เขาเห็นสภาพที่อ้วกจนอิดโรยของเพื่อนทั้งสองคนแล้ว

"ขันทอง...มึงอย่าใช้คำว่าเหม็นอะไรขนาดนั้น ไม่ใช่แค่หนูตายนะกูว่า กูว่าช้างตายแล้วเหม็นเน่าเลยดีกว่า อย่าพูดถึงมันเลย กูจะอ้วกอีกรอบแล้วเนี่ย ..."จิพูดขึ้นด้วยนํ้าเสียงที่เหมือนคนหมดแรง

"จริง...ง ช้างเน่าเลยแหล่ะ ไม่ใช่แค่หนูตายหรอก ..."บอยพูดเสริมขึ้น พร้อมกับดมยาดมไปด้วย 

"ตัวข้าเหม็นฤา ซู๊ดๆ หอมชื่นใจ พวกมึงใส่ความกู...เชอะ ..."อุ่นไม่พูดเปล่า เธอยกแขนขึ้นมาดมไปด้วย ก่อนที่เธอจะสะบัดหน้าหนีด้วยความไม่พอใจ ที่ว่าเธอเหม็นเน่าเหมือนกับช้างตาย

"สงสัยกลิ่นมันจะมาจากที่อื่นอ่ะ เพราะว่ากูกับณิชาไม่ได้กลิ่นเลย ..."ขันทองพูดขึ้น

"กลับเถอะว่ะ วันนี้กูไม่มีแรงที่จะรอแฟนกูแล้วล่ะ กูอยากกลับไปนอนเอาแรงซะหน่อย พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ..."จิพูดพร้อมกับลุกขึ้นด้วยท่าทางที่เหนื่อยอ่อน

"มึงไม่นอนห้องกูแล้วเหรอจิ ..."เจษถามจิพร้อมกับอมยิ้มไปด้วย

"กูไม่ไหวจริงๆว่ะเจษ มึงปรับปรุงกลิ่นในห้องของมึงก่อนนะ วันนี้กูขอกลับไปนอนเอาแรงก่อน กลับกันเถอะพวกมึง ..."จิหันไปชวนเพื่อนอีกสามคนที่เหลือ ก่อนที่เขาจะเดินนำทุกคนออกไปจากห้อง

"ดูมัน...ไปไม่รอใครเลย ไอ้ตอนที่อยากจะมา ก็อยากจะมามากกว่าใครเพื่อน ..."ขันทองบ่นตามหลังจิไป ก่อนที่เขาจะพยักหน้าให้เจษเป็นการบอกลา

"อือ...พรุ่งนี้เจอกันพวกมึง ..."เจษเดินออกไปส่งเพื่อนๆที่หน้าประตู ก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้าห้องของตัวเอง 

......

"ศรัณย์...กูไม่เข้าใจมึงเลยว่ะ บ้านมึงก็มี คอนโดมึงก็มี มึงจะมาอยู่ที่หอพักอีกทำไมวะ ..."สตาร์ถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ ในขณะที่พวกเขากำลังเดินมาส่งศรัณย์ที่หอพัก 

"มึงก็รู้ ว่ามันชอบทำอะไรแปลกๆ หรือว่ามึงออยากจะลองวิชาวะ...ศรัณย์ ..."ไทม์มองหน้าของศรัณย์อย่างจับผิด

"ไร้สาระ กูก็แค่อยากลองอยู่ที่หอพักบ้างแค่นั้นเอง กูอาจจะอยูู่แค่อาทิตย์หรือสองอาทิตย์แค่นั้นแหละ แล้วกูก็กลับไปอยู่ที่คอนโดเหมือนเดิม ..."ศรัณย์หันไปยักคิ้วให้เพื่อนทั้งสองคน ที่กำลังมองเขาอย่างจับผิดอยู่

"แล้วที่หลังของมึงหายเจ็บหรือยังวะ มึงทำเหมือนกับว่าไม่เจ็บเลยอย่างนั้นแหละ กูเลยอยากจะลองสักอย่างมึงบ้างเลยเนี่ย ถ้ามันไม่เจ็บ ..."สตาร์ถามศรัณย์ด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง ศรัณย์เพิ่งจะสักมา เพราะพ่อของศรัณย์อนุญาตให้ศรัณย์สักได้ ถ้าจบม.ปลายแล้ว และคนที่สักให้ศรัณย์ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พ่อของศรัณย์เอง พ่อของศรัณย์ไม่ใช่ช่างสัก แต่สักได้ เพราะว่าต้นตระกูลของศรัณย์ มีวิชานี้สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น 

"ก็ไม่เท่าไหร่ เท่ามดกัด ..."ศรัณย์หันไปบอกเพื่อนพร้อมกับยิ้มที่มุมปากไปด้วยเล็กน้อย

"ตกลงคืนนี้ มึงจะไม่กลับบ้านใช่ไหม ..."ไทม์ถามขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่พวกเขามายืนที่หน้าหอพักของศรัณย์แล้ว

"มาถึงที่นี่แล้ว มึงยังจะถามมันอีกเนาะ ..."สตาร์พูดขึ้น 

"อือ คืนนี้กูจะนอนที่นี่ ..."ศรัณย์ตอบเพื่อน ก่อนที่เขาเหลือบตาขึ้นไปบนชั้นสอง ที่เป็นห้องพักของเขา

"งั้นเจอกันพรุ่งนี้มึง ..."ไทม์พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะพยักหน้าชวนสตาร์กลับพร้อมกัน

แกร๊ก

"อ้าว...กูนึกว่ามึงจะไม่กลับมาซะอีก ..."เจษถามขึ้นด้วยนํ้าเสียงที่ตกใจเล็กน้อย เพราะว่าพอเขาเปิดประตูห้องนํ้าออกมา  เขาก็เจอศรัณย์นั่งอยู่บนโต๊ะที่ริมหน้าต่าง ก่อนที่เขาจะเดินเช็ดผมผ่านหน้าของศรัณย์ไป

"มีคนนั่งที่เตียงกูไหม ..."ศรัณย์ไม่ได้สนใจคำพูดของเจษ แต่เขาถามในสิ่งที่เขาสงสัยอยู่

"อือ...เพื่อนกูเอง ขอโทษนะ ที่กูห้ามพวกมันไม่ทันอ่ะ ..."เจษมองหน้าศรัณย์แล้วขอโทษด้วยนํ้าเสียงที่รู้สึกผิด

"อือ...ไม่เป็นไรหรอก ..."ศรัณย์พูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่เขาจะเดินไปที่เตียง แล้วเริ่มเล่นเกมส์โดยที่ไม่สนใจเจษอีก

"เดี๋ยวนะๆ แล้วมึงรู้ได้ยังไง ว่ามีคนนั่งบนเตียงของมึงอ่ะ ..."เจษถามขึ้น เมื่อเขานึกขึ้นได้ ว่าทำไมศรัณย์ถึงรู้ ว่ามีคนนั่งที่เตียงของตัวเอง เพราะเขามั่นใจว่า ขันทองนั่งแค่แป๊บเดียวก็ลุกเลย จิก็ไม่ได้นั่งด้วยซํ้า

"ผ้าปูกูมีรอยคนนั่ง ..."ศรัณย์เหลือบหางตาไปมองหน้าเจษเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเลิกสนใจเจษอีก

"ห๊ะ...!! มึงดูออกแม้กระทั่งผ้าปูที่นอนมีรอยเหรอวะ ..."เจษมองไปที่ศรัณย์อย่างเหลือเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนที่เขาจะหันไปมองผ้าปูที่นอนของตัวเอง เขาคิดว่า ต่อให้ใครมานอนที่ของเขา ไม่ใช่แค่นั่งหรอก เขาก็ไม่มีทางรู้ เพราะว่าเขาไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น

"มึงจะเงียบได้หรือยัง กูจะเล่นเกมส์ ..."ศรัณย์หันไปถามเจษเสียงดุ

"เดี๋ยวสิ กูนึกขึ้นได้พอดีเลย เมื่อเช้ากูได้กลิ่นเหม็นนะ หลังจากที่มึงออกไปจากห้องแล้ว แล้วเพื่อนกูสองคนก็ได้กลิ่นด้วย แต่อีกสองคนไม่ได้กลิ่น แปลกดีเหมือนกันนะ มันคงจะมากับลมเป็นระยะอ่ะ อ้าว...มึงไม่ได้ฟังที่กูพูดเลยเหรอ ..."เจษถามขึ้นอย่างเสียอารมณ์ เพราะว่าศรัณย์เล่นแต่เกมส์อย่างเมามัน ไม่ได้สนใจฟังที่เขาพูดเลย

"มึงง่วงก็นอนไปเถอะ ไม่ต้องสนใจกับกลิ่นอะไรนั่นหรอก เดี๋ยวมันก็หายไปเองแหละ ..."ศรัณย์พูดขึ้น โดยที่สายตาของเขามองแต่จอเกมส์ที่เขาเล่นอยู่

"แล้วมึงจะไปเข้าค่ายป่ะ ..."เจษถามขึ้นอีกครั้ง เพราะเขาอยากรู้จักรูมเมทของตัวเองมากกว่าที่เป็นอยู่

"มึงจะเลิกถามกูได้หรือยัง กูจะเล่นเกมส์ ..."ศรัณย์หันไปถามเจษเสียงเข้มดุ

"อะไรวะ ถามแค่นี้ก็ไม่ได้ ไม่ถามแล้วก็ได้วะ ..."เจษยักไหล่ขึ้นทั้งสองข้างอย่างไม่ยี่หระ ก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งที่โต๊ะแล้วเปิดแล็บท็อปของเขา เพื่อที่จะหาข้อมูลของหม่อมหลวงทัตเทพอีก

"ถ้ามึงง่วง...มึงก็ไปนอนที่เตียงนะ กูขี้เกียจปลุกเวลาที่มึงนอนหลับฝันหวานบนโต๊ะอีก ..."ศรัณย์พูดขึ้นโดยที่เขาไม่ได้หันไปมองเจษเลย

"ฝันหวานอะไรของมึง เกี่ยวอะไรกันวะ ..."เจษมองไปที่ศรัณย์อย่างรอคำตอบ 

"แล้วแต่มึงเถอะ กูไปอาบนํ้าดีกว่า ..."ศรัณย์พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องนํ้าไป

"อะไรของมันวะ แปลกคนจริงๆ ไปนอนที่เตียงก็ได้วะ พรุ่งนี้ค่อยหาข้อมูลก็แล้วกัน หาว...ว อยู่ดีๆก็ง่วงขึ้นมาซะงั้น ..."เจษบ่นพึมพำตามหลังของศรัณย์ไปอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่เขาจะปิดแล็บท็อป แล้วเดินไปนอนที่เตียง เพราะว่าเขารู้สึกง่วงขึ้นมาแล้วเหมือนกัน

แกร๊ก

"มันหลับง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ ..."ศรัณย์พึมพำเบาๆ เพราะว่าพอเขาออกมาจากห้องนํ้า เขาก็เจอเจษนอนหลับสนิทไปแล้ว แถมยังกรนออกมาเบาๆให้ได้ยินอีกด้วย

"ไอ้ฟัก...มึงมองเห็นพวกข้าฤา ..."ชบาถามขึ้น ตอนนี้เธอยืนอยู่นอกหน้าต่างคู่กับอุ่น พวกเธอไม่กล้าเข้าไปในห้อง เพราะว่าในห้องมันร้อนเกินกว่าที่พวกเธอจะเข้าไปได้

0-0 ..."ศรัณย์นั่งเล่นเกมส์อยู่บนเตียงเงียบๆ โดยที่เขาไม่ได้ตอบโต้หรือแสดงให้วิญญาณสองตนเห็น ว่าเขามองเห็นทั้งสองตนที่ยืนอยู่นอกหน้าต่าง

"นังอุ่น...ข้าควรที่จักทำเช่นไรฤา ไอ้ฟักมันมิยอมกลับไปที่เรือนของมัน แล้วเมื่อใด ข้าถึงจักรู้ได้ ว่าเรือนของมันอยู่ที่ใด ..."ชบาถามอุ่นด้วยนํ้าเสียงที่หนักใจ เพราะว่าวันนี้ เธอตามฟักไปทุกที่ ฟักก็แค่อยู่ที่มหาวิทยาลัย แล้วก็ออกไปกินข้าวกับเพื่อน แต่ฟักไม่ยอมกลับไปบ้านเลย

"ข้าไม่รู้เว้ย แต่มึงอย่าให้ช้าไปหนา เดี๋ยวข้าก็จักพลอยโดนท่านขุนเอ็ดไปกับมึงด้วย ..."อุ่นพูดขึ้น โดยที่สายตาของเธอมองไปที่ฟักอย่างจับผิด เพราะเธอมั่นใจว่า ฟักมองเห็นเธอกับชบาแน่ๆ แต่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น

"ข้าว่าวันนี้ เรากลับไปหาท่านขุนกันเถิด พวกมันคงจักมิได้ออกไปที่ใดอีกดอก เพราะนี่มันก็หนึ่งยาม*เข้าไปแล้ว ..."ชบาพูดขึ้นด้วยนํ้าเสียงที่เหนื่อยอ่อน 

"อือ...ไปสิ ..."อุ่นพยักหน้ารับคำ ก่อนที่ร่างของทั้งสองตนจะค่อยๆหายไป

"หึหึ ..."ศรัณย์เหลือบตามองไปที่หน้าต่างเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะขำออกมาเบาๆ แล้วหันไปสนใจเกมส์ที่เล่นอยู่ต่อ

*หนึ่งยาม=สามทุ่ม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel