บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

หลังจากพยายามเกลี้ยกล่อมฮุ่ยเจียงจนยอมเอ่ยปากตกลงจะแลกด้ายแดงกับเธอแล้ว เลี่ยงซูก็มุ่งหน้าไปที่ทำการของผู้คุมสูงสุดแห่งโลหลังความตายด้วยความมุ่งมั่นทันที

“พวกเจ้ามีอะไรงั้นรึ ตอนนี้ท่านผู้คุมสูงสุดยังไม่ว่างรอพระอาทิตย์ขึ้นแล้วพวกเจ้าค่อยมาใหม่ก็แล้วกัน”

“อ้าวทำไมล่ะท่านผู้คุม ตอนนี้ก็กลางคืนแล้วนี่ทำไมถึงยังยุ่งอยู่ล่ะ”

เลี่ยงซูไม่สนใจแรงกระตุกแขนของฮุ่ยเจียง ถามผู้คุมหน้าประตูที่ทำการอย่างสนใจแถมยังพยายามชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นอีกด้วย

“ก็จะเรื่องอะไรเล่า วิญญาณจะถูกส่งมาที่นี่อีกหลายสิบดวงน่ะสิ ทั้งที่ก็จะเต็มอยู่แล้ว ท่านผู้คุมสูงสุดเลยต้องหาทางเจรจาขอส่งพวกเจ้าไปอีกชั้นหนึ่งอย่างไรเล่า ไป ๆ กลับไปซะ”

“อ๋อ แบบนี้นี่เอง ขอบคุณมากท่านผู้คุม ไว้เดี๋ยวตอนเช้าพวกข้ามาใหม่”

เลี่ยงซูยกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจกับสิ่งที่ผู้คุมหน้าประตูบอก

ถ้าอย่างนี้ก็หมายความว่า หากเธอแลกด้ายแดงกับฮุ่ยเจียง เธอได้กลับไปเกิดใหม่ ส่วนฮุ่ยเจียงก็จะได้หมดอายุขัย ถ้าแบบนี้ก็น่าจะช่วยให้การเจรจากับท่านผู้คุมสูงสุดง่ายขึ้นมาบ้างล่ะนะ

ดวงวิญญาณของฮุ่ยเจียงและเลี่ยงซูนั่งรอเข้าพบผู้คุมสูงสุดอยู่ในสวนดอกไม้ด้วยกันอย่างเงียบงัน จนกระทั่งเห็นขอบฟ้าเริ่มทอแสงสีทองรำไร

“เราไปกันเถอะฮุ่ยเจียง”

เลี่ยงซูผุดลุกยืนขึ้น ใบหน้างามเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นไม่เสื่อมคลายแม้แต่นิด ผิดกับอีกคนที่นั่งอยู่ข้างกันสีหน้ากลับมีแต่ความลังเล

ฮุ่ยเจียงเกิดหวั่นใจขึ้นมา รีบคว้าแขนของเลี่ยงซูเอาไว้

“เดี๋ยวสิเลี่ยงซู เจ้าคิดดีแล้วหรือ ชีวิตของข้ามันอาจจะทำให้เจ้าลำบากทุกข์ยากมากกว่าที่คิดก็ได้นะ”

“ฉันคิดดีแล้วฮุ่ยเจียง เธอไม่ต้องห่วงนะเธอน่ะเป็นคนดีเพราะฉะนั้นรีบไปเกิดเป็นสิ่งดี ๆ บนโลกมนุษย์เถอะ ส่วนคนพวกนั้นให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง”

ดวงวิญญาณของหญิงสาวยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายสบายใจ เมื่อฮุ่ยเจียงมองไม่เห็นความลังเลในแววตาของคนตรงหน้าก็พยักหน้าอย่างจำยอมผุดลุกขึ้นเดินตามแผ่นหลังบางอีกคนไป

บริเวณที่ทำการของผู้คุมสูงสุดเวลานี้คลาคล่ำไปด้วยดวงวิญญาณหน้าใหม่หลายดวงซึ่งกำลังพากันยืนรอให้ผู้คุมพาไปประจำยังเขตรับผิดชอบของตนเรียกความสนใจให้ดวงวิญญาณของหญิงสาวทั้งสองได้เป็นอย่างดี

“ฉันมาขอพบท่านผู้คุมสูงสุดค่ะ”

เลี่ยงซูเดินไปบอกกับผู้คุมที่ยืนคุมประตูที่ทำการใหญ่แห่งโลกหลังคามตาย ก่อนจะพากันถอยออกมายืนรออยู่ที่มุมหนึ่ง

ขณะเดียวกันดวงตากลมโตก็แอบมองสำรวจเหล่าดวงวิญญาณหน้าใหม่เหล่านั้นไปด้วย

เห็นทีว่าผู้คุมสูงสุดจะเจรจาไม่สำเร็จสินะถึงได้มีวิญญาณใหม่เข้ามาเพียบขนาดนี้ ถ้าไม่มีเธอกับฮุ่ยเจียงเขาก็คงจะได้ลดภาระลงบ้าง เห็นทีเธอคงมีหวังขึ้นมาบ้างแล้ว

ยืนรอตรงนั้นได้สักพักทั้งสองก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในอาคารที่ทำการ เลี่ยงซูมองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นเต้นราวกับว่าไม่เคยเห็นบรรยากาศที่สวยงามขนาดนี้มาก่อน

ด้านในที่ทำการของผู้คุมสูงสุดนั้น ราวกับว่าอยู่ในห้วงอวกาศ ที่มีพระจันทร์ดวงโตลอยเด่นเป็นสง่าเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ อีกทั้งยังเห็นดาวดวงอื่นอยู่ไกลลิบ สมจริงยิ่งกว่าพิพิธภัณฑ์อวกาศที่เธอเคยไปเป็นที่สุด

“เจ้าทำอย่างกับว่าไม่เคยเห็นอย่างนั้นแหละ”

ฮุ่ยเจียงกระซิบเรียกสติเลี่ยงซูที่ตอนนี้แทบจะวิ่งเข้าหาพระจันทร์อยู่เนือง ๆ พร้อมกับรีบกระตุกแขนเพื่อนเอาไว้

ดวงตาหวานของหยางฮุ่ยเจียงแอบเหลือบมองผู้คุมสูงสุดที่จ้องมาที่พวกเธอเขม็งด้วยความเกรงใจ

“เอ่อโทษทีจ้ะ พอดีว่าวันนั้นฉันไม่ทันได้มองอะไรเลยน่ะ”

“อะแฮ่ม! ว่าไงพวกเจ้ามีอะไรงั้นรึถึงได้มาขอพบข้า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel