บทที่ 16
ยามนี้ภรรยาอายุสิบเก้าปีกำลังนั่งอยู่ในห้องครัว หลังจากฝืนใจกินอาหารไปได้เพียงสามคำก็จำต้องวางตะเกียบ เมื่อครู่ยามที่สามีออกคำสั่งให้หยุดการนวด เถียนเถียนยังมิทันได้คิดอะไรมาก ทว่าพอเคลื่อนตัวออกห่างกลับเห็นเบื้องล่างของสามีขยับขยายมากกว่าปกติ แสดงออกชัดว่าเกิดความต้องการทางกายเพราะการนวดของนางเป็นเหตุ
ก่อนหน้านี้ท่านพี่ได้พยายามที่จะปลดผ้าคลุมหน้าของนาง สายตาของเขาดูอันตรายมิต่างจากเหล่าคุณชายที่ต้องอยู่ให้ห่างในสมัยยังเยาว์ ยามนั้นเถียนเถียนอายุได้สิบสองปี ความงามเริ่มจะเป็นที่เลื่องลือต่อเหล่าคุณชายบ้านใกล้เรือนเคียงแล้ว พออายุได้สิบสามปี ท่านพ่อก็มิอนุญาตให้ออกนอกบ้านอีก ทั้งยังสั่งจางฉวนว่าให้ดูแลคุณหนูมิให้คลาดสายตา
‘พ่ออยากจะกรีดหน้าเจ้าเสีย เจ้าจะได้มิต้องอยู่อย่างลำบาก’
‘ลูกมิได้อยากงาม ลูกอยากมีชีวิตปกติ’
ทว่าคนเป็นบิดาหรือจะทำใจทำร้ายเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้ เขาสั่งสอนบุตรสาวให้รู้จักระวังตัว และฝากจดหมายสำคัญไว้ให้ทุกครั้งก่อนที่จะออกศึก เถียนเถียนภาวนาให้ตนมิต้องใช้จดหมายนั้น ทว่าเรื่องกลับไม่เป็นดังหวัง เพราะท่านพ่อของนางมิรอดจากการศึกสงครามครั้งสำคัญ
จางฉวนบ่าวใบ้ทำตามคำสั่งของรองแม่ทัพหวังเฉินกงอย่างเคร่งครัด พาคุณหนูเถียนเถียนเดินทางสู่ค่ายทหาร และขอพบท่านที่ปรึกษาหยางซือถงเพื่อยื่นจดหมายสำคัญ
ทีแรกก็นึกว่าท่านผู้อาวุโสจะรับคุณหนูเป็นลูกบุญธรรม ทว่ากลับเปลี่ยนใจขอให้บุตรชายช่วยแต่งงานกับสาวงาม เพื่อป้องกันมิให้นางถูกเอาเปรียบในอนาคต
หยางเหวินเย่ปกป้องนางด้วยการหนีหายไม่ทำหน้าที่สามีนานห้าปี ทว่ายามนี้เขากลับมาแล้ว และมีทีท่าว่าต้องการจะทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ เถียนเถียนจึงทำได้เพียงแค่ถ่วงเวลา และสวมผ้าคลุมหน้าของนางให้มิดชิดที่สุด
“คุณหนูกินข้าวอีกสักหน่อยเถิดนะเจ้าคะ”
เสี่ยวเหมย บ่าวประจำบ้านเห็นว่าคุณหนูเถียนเถียนตักอาหารเพียงสามคำก็นึกเป็นห่วง รีบตรวจดูว่ามีอาหารอันใดไม่น่ารับประทาน หรือเย็นชืดเกินไปหรือไม่
“วันนี้วาดรูปตลอดบ่าย ปวดเมื่อยทั่วตัว จึงทำให้กินอะไรไม่ลงนัก” เถียนเถียนละความจริงเรื่องต้องแบกบุรุษที่ได้ชื่อว่าสามีเสียตั้งหลายครั้ง ทั้งยังต้องนวดบรรเทาความปวดให้กับเขาอีกด้วย
“แช่น้ำร้อนสักหน่อยดีไหมเจ้าคะ เผื่อว่าจะหายปวดเมื่อย” แน่นอนว่าเถียนเถียนมิปฏิเสธ
ทว่าหลังจากเสี่ยวเหมยเติมน้ำร้อนเรียบร้อยดีแล้ว คุณหนูของนางก็สั่งให้กลับไปพักผ่อน เถียนเถียนจัดการเปลื้องเสื้อผ้า ก่อนจะก้าวขาลงถังไม้สำหรับอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์ ป่านนี้ท่านพี่เหวินเย่คงหลับไปแล้ว และคงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากภรรยาอย่างนางอีก
หลายปีมานี้นางเฝ้ารักเฝ้าคิดถึง ทว่าพอเจอตัวอีกครั้งกลับกลัวที่จะเข้าใกล้ ห้าปีก่อนนางยังเยาว์ ไม่พร้อมที่จะร่วมรักหรือเข้าหอกับบุรุษ และพอสามีมิได้บังคับฝืนใจ ทั้งยังออกคำสั่งมิให้ถอดผ้าคลุมหน้า นางจึงตั้งใจว่าจะประพฤติตนเป็นภรรยาที่ดี ให้สมกับความเมตตาที่ท่านพี่มอบให้
หากสามีต้องการครอบครองภรรยาให้ถูกต้อง นางก็ไม่ควรปฏิเสธมิใช่หรือ หากนางขัดขืนมิเต็มใจ ก็เท่ากับว่าเป็นคนอกตัญญูมิใช่หรือ
ความสับสนทำให้สะใภ้สกุลหยางปล่อยตัวเองให้พักร่างอยู่ในถังไม้จนกระทั่งน้ำเริ่มคลายความเย็น
“เสี่ยวเหมย เติมน้ำให้ข้าอีกสักนิดเถิด”
เถียนเถียนร้องเรียกเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของบ่าวที่อยู่ไม่ไกลนัก นางยังคงหลับตาพริ้ม ปล่อยให้ความคิดลอยละล่อง พอน้ำอุ่น ๆ ไหลผ่านเรือนร่าง ก็ทุบที่บ่าของตนเบา ๆ ครั้งหนึ่ง
ดูเหมือนเสี่ยวเหมยจะรู้ใจคุณหนูมากกว่าทุกวัน นางเคลื่อนตัวเข้ามาอยู่ข้างหลัง และเริ่มบีบนวดให้กับลูกสะใภ้คนโปรดของสองสามีภรรยาสกุลหยาง แรงบีบของนางดีกว่าทุกวัน ออกจะหนักมือไปสักหน่อย ทว่าก็ถูกใจเถียนเถียนยิ่งนัก
น้ำหนักมือของเสี่ยวเหมยช่วยคลายความปวดเมื่อยให้กับคุณหนูได้เป็นอย่างดี นอกจากบริเวณช่วงบ่าที่แข็งตึง นางยังบีบบริเวณต้นคอและท้ายทอยเบา ๆ ก่อนจะเลื่อนมือลงไปยังแผ่นหลังสลับกับไหล่กลมมน ไล่พรมนิ้วคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อได้อย่างน่าอัศจรรย์
คุณหนูคนงามสบายตัวจนต้องลืมตาตื่น ก่อนจะเป่ากลีบดอกไม้ที่ลอยอยู่เหนือน้ำเล่นแก้เบื่อ และนั่นทำให้คนที่กำลังบีบนวดอยู่ถึงกับเผลอลงแรงหนักมือมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว เพราะเนินอกขาวที่ปรากฏต่อสายตา
หากนางขยับตัวอีกเพียงเล็กน้อย ปลายยอดดอกบัวคู่นั้นก็คงจะเปิดเผยให้คนที่บีบนวดอยู่ได้ชื่นชมแล้ว
“เสี่ยวเหมยอย่าบีบแรงนัก ข้าเจ็บ” เถียนเถียนขยับตัวเพื่อมองไหล่เนียน ปรากฏว่ามีรอยแดงประทับอยู่ ทว่ายังมิทันจะได้แจ้งต่อบ่าว เสียงตอบรับกลับทำให้นางถึงกับต้องกลั้นลมหายใจ
“เถียนเถียน เรากลับห้องไปร่วมรักกันดีหรือไม่...”
เสียงนั้นแหบพร่า บอกชัดว่ามิได้อยู่ในอารมณ์ที่ปกติ ทั้งดวงตายังเจือประกายของความปรารถนาอย่างไม่คิดปิดบัง
“ท่านพี่!” เถียนเถียนเคลื่อนตัวลงต่ำหมายซ่อนร่างให้พ้นจากดวงตาอันเป็นประกาย พร้อมทั้งใช้มือกวาดเอากลีบดอกไม้มากองไว้ตรงหน้าเพื่อปิดบังของสงวน
ทว่าหัวใจดวงน้อยของภรรยายังสาวกลับต้องหล่นวูบ เพราะมือหนาของสามีมิอนุญาตให้นางทำเช่นนั้น
หยางเหวินเย่มิรอช้า คว้าร่างของภรรยาอัปลักษณ์เสียเต็มแรง ทว่ายังมิทันได้ดึงตัวนางออกจากถังไม้ ข้อเท้าข้างซ้ายก็ออกอาการเสียวแปลบ จนถึงกลับเซไปเสียหลายก้าว
“ฉิบหายเอ๊ย!” หยางเหวินเย่ล้มลงอย่างไม่เป็นท่า
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยตกอยู่ในสภาพที่น่าละอายมากถึงเพียงนี้!
