บทที่ 5 อาหารยามเช้าของจวิ้นอ๋อง
บทที่ 5 อาหารยามเช้าของจวิ้นอ๋อง
รุ่งเช้าของอีกวัน
เสียงนกกระจิบร้องดังกังวารแต่ก็ไม่สามารถรบกวนการนอนของหลิ่งฟู่ได้ ตอนนี้นางนอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของจวิ้นอ๋องอย่างมีความสุข หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งคืน นางได้นอนก็ใกล้จะสว่างแล้วทำเอานางปวดร้าวไปทั้งตัว นางเริ่มขยับตัวเพราะนอนท่านี้มานาน
“อือ ข้ายังไม่ให้เจ้าลุกไปที่ใดนอนต่ออีกสักหน่อยเถอะนะ” จวิ้นอ๋องรู้ถึงการดิ้นของนางเลยกอดนางไว้แนบอกและไม่ให้นางหนีเขาไปไหน
“หม่อมฉันไม่ได้จะลุกเพคะ หม่อมฉันแค่พลิกตัวเปลี่ยนท่าเท่านั้น หม่อมฉันเหนื่อย” นางพูดจบก็นอนบนแขนของจวิ้นอ๋องและหันหลังให้เขา แต่ทว่านางกลับรู้สึกถึงอะไรแปลกๆ ที่ทิ่มแทงขานางอยู่
“ท่านพี่ที่นอนของท่านมีไม้ด้วยหรือเพคะ”
“ก็ไม่มีนะทำไมเจ้าว่าเช่นนั้นล่ะ นี่ที่นอนของจวิ้นอ๋องนะ”
“ก็หม่อมฉันรู้สึกถึงอะไรที่มันกำลังทิ่มแทงอยู่นี่เพคะ”
“เจ้าก็ลองจับมันดูสิ” ด้วยความอยากรู้หลิ่งฟู่จึงคว้ามือไปจับแท่งที่นางสงสัยจนความอยากรู้ของนางได้หายไปเมื่อนางสัมผัสถึงเนื้ออุ่นๆ ที่กำลังขยายขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่มือของนางไปสัมผัส ทำให้นางรีบดึงมือออกมาทันทีตอนนี้นางอายหน้าแดงจนถึงใบหู จวิ้นอ๋องที่นอนอยู่ด้านหลังนางกลับยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูพร้อมขยับกายมากระซิบข้างๆ หูของนางด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ความอยากรู้ของเจ้ากระจ่างแล้วหรือ ทำไมถึงรีบดึงมืออกมาเร็วยิ่งนัก” น้ำเสียงยั่วยวนของจวิ้นอ๋องทำให้หลิ่งฟู่วูบไหวไปทั้งร่างกาย
“ท่านพีาแกล้งหม่อมฉัน"
“ข้าไม่ได้แกล้งเจ้าแค่ไม่บอกเท่านั้นเองว่ามันคือสิ่งใด เจ้าไม่ต้องพูดกับข้าเหมือนเราเหินห่่งกันนักสิ ไม่ต้องพูดกับข้าเช่นสาวใช้พูดคุบกับข้าเหมือนสามีภรรยาก็พอ”
“นั่นแหละเพคะที่เรียกว่าแกล้ง ก็ได้หากท่านพี่ต้องการ “หลิ่งฟู่ทำหน้าบูดบึ่งเพื่อกลบเกลื่อนความอายไว้ ทำให้จวิ้นอ๋องอดไม่ได้ที่จะเชยชมนางอีกครั้ง
“เช้านี้ข้าคงไม่หิวข้าวแล้ว”
“ทำไมกันเพคะ”
“เพราะว่าตอนนี้ข้าจะกลืนกินเจ้าไปทั้งแล้ว”
“แต่เมื่อคืนนี้ท่านพี่ทำให้ข้าแทบไม่ได้นอนแล้วนะเพคะ”
“ไม่ต้องห่วงข้าจะให้เจ้าได้นอนทั้งวัน” พูดจบจวินอ๋องก็มุดหน้าลงซอกคอระหงของหลิ่งฟู่อย่างหลงไหลทำให้นางเคลิบเคลิ้มกับรสสัมผัสที่จวิ้นอ๋องมอบให้ ก่อนที่เขาจะจับแท่งร้อนของเขามาถูไถที่บั้นท้ายของหลิ่งฟู่ไปมาอย่างเชื่องช้า และจับขาของนางขึ้นข้างหนึ่งโดยที่เขาใช้ขาของเขารองรับขาของนางไว้ ก่อนที่จะจับแท่งร้อนถูที่ลำธารที่ไม่เคยได้แห้งของหลิ่งฟู่ไปมาจนเริ่มมีน้ำหล่อเลี้ยงไหลออกมา และค่อยๆ จับยัดเข้าไปอย่างช้าๆ หลิ่งฟู่เจ็บระบมของนางบวมแดง เมื่อโดนแท่งร้อนเข้าไปอีกรอบนางรู้สึกแสบจนขยับตัวหนี แต่โดนจวิ้นอ๋องกอดรัดร่างของหลิ่งฟู่เข้าใกล้เขามากกว่าเดิมจนนางไม่รู้ตัวว่าแท่งร้อนเข้าสู่ร่างกายของนางจนสุดตั้งแต่เมื่อไหร่
"ท่านพี่ข้ารู้สึกเจ็บท่านพี่โปรดเมตตาข้าด้วย"
"ข้ารู้ ข้าจะเบามือทะนุทะนอมเจ้าเป็นอย่างดี."ว่าแล้วเอวของเขาก็เด้งเข้าออกอย่างช้าๆ มืออีกข้างของเขาตอนนี้ก็คลึ่งเล่นอยู่ที่แก่นกลางระหว่างกายของหลิ่งฟู่เพื่อให้นางรู้สึกเสียวซาบซ่าและลืมความเจ็บลง เขาบดขยี้มือที่ติ่งรักของหลิ่งฟู่จนนางต้องขมิบด้วยความเสี่ยงและเกร็งจนทำให้ช่องรักคับยิ่งกว่าเดิม จวิ้นอ๋องกลับยิ่งขอบใจที่ร่างกายของนางตอนรับเขาเช่นนี้
เขากระแทกใส่นางจนทำให้นางใช้มือหยิกจับผ้าห่มเพื่อข่มความเสียวนี้ไว้
ช่วงบ่ายของวันหลิ่งฟู่ยังคงนอนอยู่บนเตียงเพราะการร่วมรักของท่านจวิ้นอ๋องทำให้นางลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้ ขาของนางแทบไม่มีแรงจะก้าวลงจากเตียงนอน จวิ้นอ๋องเองก็ปล่อยให้นางได้นอนพักโดยไม่ให้สาวใช้เข้ามากวนนาง
"เมียรักของข้า เจ้าลุกกินอาหารหน่อยเถอะ" จวิ้นอ๋องนั่งลงข้างๆ กายของหลิ่งฟู่ใช้มือปัดผมที่บังหน้าของนางไปทัดหูเอาไว้ และลูบใบหน้านวลใสของนางอย่างอ่อนโยน
"อื้อ ท่านพี่ตอนนี้ข้าปวดร้าวไปหมดท่านพี่ช่วยพยุงข้าลุกได้หรือไม่" หลิ่งฟู่ลืมตาขึ้นก็ออดอ้อนจวิ้นอ๋องทันที มิใช้นางลุกไม่ใหวแต่ทว่านางอยากจะอ้อนสามีของนางเท่านั้น
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ข้าจะอุ้มเจ้าไปกินข้าวเอง" พูดจบจวิ้นอ๋องก็ได้ช้อนตัวของหลิ่งฟู่จากเตียงนอนไปยังโต๊ะกินข้าว ที่ตอนนี้สาวใช้ได้นำอาหารและน้ำชามาตั้งไว้ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว
"อาหารมีแต่น่ากินทั้งนั้นเลย แถมยังหอมอีกด้วย"
"เช่นนั้นเจ้าก็กินเยอะๆ จะได้มีเรี่ยวแรงไว้ปรนนิบัติข้า"
หลิ่งฟู่นางไม่ได้พูดอันใดเพราะตอนนี้ที่ห้องนั่งเล่นมิได้มีเพียงสองคนยังมีสาวใช้คนอื่นรวมทั่งซูฮวาที่ยืนยิ้มกริ่มหลบสายตาของหลิ่งฟู่อยู่ด้วย
จวิ้นอ๋องนั่งมองหลิ่งฟู่กินอาหารไม่วางสายตา
"ทำไมท่านพี่ถึงมองข้าเช่นนี้ ท่านไม่กินอาหารกับข้าหรือเพคะ"
"ข้ากินไปแล้ว เจ้ากินไปเถอะแแค่ดูเจ้ากินข้าก็มีความสุขมากแล้ว จริงสิวันพรุ้งนี้ข้าจะออกเดินทางไปที่หมู่บ้านทางใต้เจ้าอยากไปเที่ยวกับข้าหรือไม่ ที่หมู่บ้านแห่งนั้นมีลำธารที่สวยงามแถมยังมีฝูงผีเสื้อมากมาย"
หลิ่งฟู่ได้ยินก็ทำตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น
"ไปสิเพคะ ว่าแต่ท่านจะไปทำอันใดหรือ การที่ข้าไปด้วยท่านสะดวกหรือไม่ "
"ข้าแค่ไปทำธุระนิดหน่อย เจ้าไม่ต้องคิดมากธุระไม่สำคัญอันใด ข้าแค่อยากพาเจ้าไปเที่ยวเท่านั้น"
"เพคะ " พูดจบหลิ่งฟู่ก็กลับมาสนใจอาหารที่อยู่ต่อหน้าของนาง
หลังจากนางกินอาหารเสร็จจวิ้นอ๋องก็ได้สั่งให้สาวใช้ไปเตรียมน้ำให้พระชายาอาบ
หลิ่งฟู่รู้สึกสบายกายเมื่อได้มานั่งแช่น้ำอุ่นๆ และกลิ่นธูปหอมและดอกไม้ที่สาวใช้โปรยลงไปในน้ำ
"คุณหนูของข้าตอนนี้เป็นพระชายาเต็มตัวแล้วสินะเจ้าคะ ต่อจากนี้ข้าคงเรียกคุณหนูไม่ได้แล้วคงต้องเรียกพระชายา"
"ข้าจะเป็นอะไร ตำแหน่งอะไรข้าก็เป็นคุณหนูของเจ้าเช่นเคย"
"พระชายาเพคะ หม่อมฉันขอถามท่านได้มั้ยเพคะ "
"ถามเรื่องอันใดกัน"
ซูฮวาก้มลงมากระซิบข้างหูของหลิ่งฟู่อย่างเบาเสียง
"ท่านจวิ้นอ๋องโหดร้ายกับท่านมั้ยเพคะ โหดร้ายเช่นดั่งคำรำลือรึไม่"
"เจ้าหมายถึงอันใด หากเป็นนิสัยท่านพี่ไม่ใช่อย่างที่เจ้าเคยได้ยินมาแน่นอน แต่เรื่องบนเตียงละก็ท่านนี่ช่างโหดร้ายกับข้าเช่นดั่งสัตว์ป่าแต่ก็ยังคงความนุ่มนวลไว้บ้าง" หลิ่งฟู่พูดไปนางก็อมยิ้มเมื่อนึกถึงเวลาที่นางร่วมรักกับจวิ้นอ๋อง ซูฮวาได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากเจ้านายก็เผลอยิ้มไปด้วย
"หม่อมฉันนึกแล้วเชียว เพราะมื้อเช้าหม่อมฉันมารับใช้ท่านแต่เช้าตรู่แต่ก็ถูกท่านจวิ้นอ๋องไล่ออกมา บอกว่าท่านนอนหลับยังไม่ตื่น ท่านจวิ้นอ๋องนี่ร้ายไม่เบาเลยนะเพคะ ดูสิคุณหนูของหม่อมฉันถึงได้ยิ้มเล็กยิ้มใหญ่ขนาดนี้ "