1.ใครอยากได้ส่วนบุญ
จะมีใครบนโลกใบนี้ที่ได้พบเจอเจ้าบ่าวของตัวเองเป็นครั้งแรก ในงานแต่งบ้างไหมนะ..
พิมนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ท่ามกลางงานแต่งที่แสนหรูหราที่จัดขึ้นมาในโรงแรม เธอไม่ได้เลือกเจ้าบ่าวเอง แถมทุกสิ่งทุกอย่างในงานแต่งก็ยังไม่ได้เลือกเองอีกต่างหาก
ไม่มีงานแต่งเล็กๆ ในสวนเพราะว่าแม่ของเธอคือไฮโซชื่อดังตระกูลพร้อมพงศ์ที่มีหน้ามีตาในสังคม..
แต่ทว่าเธอไม่ได้ใช้นามสกุลพร้อมพงศ์เพราะว่าพ่อของเธอไม่ใช่คุณพร้อม ชายที่กำลังยืนรับแขกอยู่ด้านหน้างานในตอนนี้
แม่ของเธอเป็นผู้หญิงที่สวยและเพราะแบบนั้นแม่ถึงมีผู้ชายมาชอบมากมาย แม่ถูกบังคับให้แต่งงานกับคุณพร้อม ซึ่งมีฐานะทางบ้านใกล้เคียงกัน ทว่าแม่ในตอนนั้นเหมือนอยู่ในช่วงวัยรุ่นที่อยากมีชีวิตที่เต็มไปด้วยอิสระ แม่จึงคลอดพี่พราวและหลบหนีไปกับพ่อของเธอ ซึ่งเป็นคนสวน
ความรักมันสวยงามเสมอเมื่ออยู่ในช่วงแรกๆ ทว่าเมื่อชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนเช่นเคย มีหรือคุณหนูสูงศักดิ์จะทนความลำบากกับพ่อของเธอได้
เพราะแบบนั้นหลังจากที่แม่คลอดเธอออกมา แม่ก็กลับมาหาคุณพร้อมและพี่พราว พี่สาวต่างพ่อของเธอ
พ่อเลี้ยงเธอมาด้วยทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะหามาได้ ถึงแม้ว่าเราไม่ได้ร่ำรวยแต่ทว่าเราสองคนพ่อลูกก็อบอุ่นมากทีเดียว
จนเมื่อเธออายุสิบสาม พ่อจากไปด้วยโรคร้าย เหมือนโลกทั้งใบของพิมพังทลายลงมาเพราะว่าเธอไม่ได้มีญาติที่ไหนเลย
ในวันที่ไม่มีใคร แม่กลับมาหาเธอพร้อมกับพาเธอเข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมพงศ์
บ้านที่เรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์น่าจะเหมาะสมกว่าเพราะที่นี่ใหญ่โตและหรูหรามาก..
แต่มันกลับทรมานมากเหลือเกิน เธอเหมือนเป็นส่วนเกินตลอดเวลาเมื่ออยู่ในบ้านหลังนี้ ความสัมพันธ์กับคุณพร้อมก็ไม่ค่อยดี กับพี่พราวยิ่งแล้วใหญ่เลย พี่สาว..เกลียดชังเธอมากเหลือเกิน
พิมจึงทนอยู่ที่นั่นสามปี เมื่ออายุสิบหกเธอเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นเพื่อมาทำงานหาเงินด้วยตัวเอง อยู่ห้องเช่าเล็กๆ เพียงคนเดียว
ถึงจะอยู่คนเดียวแต่ทว่ามันมีความสุขมากกว่าการอยู่ในบ้านหลังใหญ่นั่นอีก ที่นั่นไม่ใช่ที่ของเธอจริงๆ
เมื่อเรียนจบพิมเริ่มต้นการทำความฝันของตัวด้วยการเปิดแบรนด์เสื้อผ้า เธอเป็นคนชอบแต่งตัว ไม่ใช่ว่าชื่นชอบการสวมใส่ชุดหรูหราแต่เป็นการใส่ชุดที่มันเข้ากันกับรูปร่างของเรา
ธุรกิจเล็กๆ ของพิมกำลังไปได้สวย เสื้อผ้าของเธอกำลังจะถูกวางขายในห้างสรรพสินค้า แต่แม่กลับมาบังคับให้เธอแต่งงาน
มันน่าตลกที่เธอไม่สามารถหลบหนีการแต่งงานนี้ได้ เพราะว่าอำนาจของตระกูลพร้อมพงศ์นั้นยังคงใหญ่โตมากกว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอเสมอ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในประเทศ ล้วนแล้วแต่มีพร้อมพงศ์เป็นหุ้นส่วนทั้งนั้น
หากไม่ก้มหน้ายอมรับ ความพยายามที่ผ่านมาของเธอจะพังทลายลงมาอย่างแน่นอน
เพราะแบบนั้นวันนี้เธอจึงสวมชุดแต่งงานที่เหมือนกับเจ้าหญิง ถือดอกไม้ช่อใหญ่ที่เป็นสัญญาลักษณ์ของเจ้าสาวเอาไว้ และกำลังนั่งรอเจ้าบ่าวที่ยังเดินทางมาไม่ถึง..
เธอดูเหมือนสินค้าที่แม่กำลังจะขายออกไป นั่งรอคอยคนที่ตกลงซื้อเธอแล้วหลังจากนั้นก็เดินตามเขาออกไปแบบไร้ทางเลือก
พิมเงยหน้าขึ้นเพื่อไม่ให้น้ำตาของเธอมันไหลออกมาและเพื่อกร่นด่าโชคชะตาตัวเอง
มีมือเล็กๆ ยื่นมาจับมือของเธอเอาไว้ พร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“แกจะไม่เป็นไร แต่หากว่าแกเป็นโทรมาหาเรานะ เราจะรีบมาหาแกทันทีเลย..”
นิดาพยักหน้าพร้อมกับจับมือของเธอเอาไว้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอได้ไปร่วมงานแต่งของนิดามา และยินดีกับเพื่อนจากใจจริงที่มันพบเจอกับบอสหนุ่ม
“รู้แล้วน่า แกไม่ต้องเป็นห่วงหรอกมีหลานให้เราไวๆ ก็พอ”
“ห่วงสิ เรามีแค่แกที่เป็นเพื่อนนะ อย่าเกรงใจนะพิม ไม่ว่าแกจะเป็นยังไง..แกสามารถโทรหาเราได้ตลอดเลย”
จะดึงเพื่อนมาตลอดได้ยังไงกัน นิดาเองก็มีครอบครัวแล้ว นี่คือปัญหาของเธอเพราะฉะนั้นเธอต้องแก้ไขเองถึงจะถูกต้อง
“เข้าใจแล้ว”
งานแต่งจัดขึ้นมาโดยไร้เงาของเจ้าบ่าว ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาสงสารเจ้าสาวคนสวยเหลือเกินที่จะต้องทำพิธีแต่งงานคนเดียว
“แม่คะ แบบนี้ทางคุณอาเชอร์ไม่ได้ทำให้เราเสียหน้าเหรอคะ?”
พราวยกมือขึ้นมากอดอกพร้อมกับมองไปที่พิม ถึงเธอจะสมน้ำหน้าน้องสาว แต่เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชื่อเสียงของพร้อมพงศ์ด้วย
“จะสนใจทำไมกัน ในเมื่อเราได้เงินร้อยล้านและค่าจัดงานแต่งนี่มาแล้ว มาหรือไม่มาก็ช่างเขาเถอะ เราได้ใช้อำนาจจากคุณอาเชอร์ได้ แค่นั้นก็น่าจะพอแล้ว”
.......
พิมนั่งลงบนเตียงที่โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ที่นี่คือห้องสวีตชั้นบนสุดของโรมแรมชื่อดัง และห้องนี้ก็ใหญ่มากเกินกว่าจะอยู่คนเดียวในคืนนี้ แต่ทำยังไงได้ล่ะ เธอคิดว่าการที่เขาไม่มาร่วมงานแต่ง มันก็ดีไปอีกแบบ
ไม่ต้องมาเห็นหน้ากันตลอดไปเลยท่าจะดี
เธอนำชื่อของเขาไปค้นในอินเตอร์เน็ตก็ไม่พบข้อมูลใดๆ ทั้งนั้น ไม่รู้แม้กระทั่งรูปร่างหน้าตา อายุหรือว่าอะไรทั้งนั้น
เธอล้มตัวนอนลงบนเตียงนอนพร้อมกลับหลับตาเบาๆ กลีบดอกกุหลาบมากมายลอยฟุ้งขึ้นมาเมื่อเธอทิ้งตัวลงไป กลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองนอนอยู่บนทุ่งดอกไม้เลย ทั้งสดชื่นและสงบอย่างน่าประหลาด
เธอเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่พอรู้สึกตัวอีกทีเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าในห้อง..
แล้วนี่..เธอปิดไฟตอนไหนกันฟะ พิมยกมือขึ้นมาเพื่อเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟบนหัวเตียง เธอไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเสียงฝีเท้าในห้องมันคือคนหรือว่า..ผีกันแน่!
ไม่เอานะเธอไม่อยากจะโทรไปเล่าเรื่องผีในรายการหรอกนะ แต่ทว่าหากเป็นผีจะสามารถสบายใจได้มากกว่าเป็นคนรึเปล่า
พิมไม่รอช้าเธอเอื้อมมือเปิดโคมไฟที่หัวเตียงในทันที และสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าคือชายคนหนึ่ง..
เขาอยู่ในชุดสูทสีขาวราวกับชุดแต่งงาน ดวงตาของเขากำลังมองมาที่เธอ ส่วนใบหน้าของเขานั้น..
ทำให้เธอลืมเลือนเสียงของตัวเองไปจนหมดสิ้น ดวงตาของเขามันเฉียบคมเหมือนกับดวงตาของเหยี่ยว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแสยะยิ้มออกมาราวกับว่าเขาพบเจอสิ่งที่กำลังตามหา
ทุกอย่างมันจะเป็นช่วงเวลาชวนฝันมาก หากว่าเขาไม่ได้กำลังถือปืนและชุดสูทสีขาวของเขามันไม่ได้เปื้อนเลือดอยู่
สรุปว่านี่..คือผีใช่ไหมนะ เป็นผีสุดหล่อที่ตายในห้องนี้งั้นเรอะ!!
“กะ..กรี๊ด!”
เขาพุ่งเข้ามาหาเธอบนเตียงพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ การต่อสู้เล็กๆ เกิดขึ้นมาบนเตียง เธอพยายามที่จะใช้มือผลักเขาออกแต่ทว่าเขากลับแกะเน็คไทตัวเองออกแล้วมัดข้อมือเธอเอาไว้
นี่วิวัฒนาการของผี มันไปไกลขนาดนี้เลยงั้นเรอะ! เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่มาหลอกแล้วก็ไปแต่สามารถมัดข้อมือเธอเอาไว้ได้ด้วย
เหลือจะเชื่อ พรุ่งนี้เธอจะโทรไปเล่าในรายการผีอย่างแน่นอน เรื่องนี้ทุกคนจะต้องรู้เอาไว้เพื่อที่จะได้ระมัดระวังในการเข้าพักทุกโรงแรม
“นะ..หนูจะทำบุญไปให้ค่ะ อย่ามาหลอกกันเลยนะคะ”
พิมกล่าวพร้อมกับหลับตาแน่น ใช่..ใช่แล้วอย่าลืมตาขึ้นมาเลยจะดีกว่า หากเธอลืมตาผีพวกนั้นจะต้องเอาหน้ามาใกล้เหมือนในหนังผีแน่ๆ เพราะฉะนั้นเธอจะไม่มีวันลืมตาขึ้นมา แกล้งหลับไปเลยดีกว่า
ทุกอย่างมันเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีหากว่าเธอไม่ได้ยินเสียงร้อง “เหอะ” ออกมา
ผีตนนั้นพลิกตัวเธอให้นอนคว่ำพร้อมกับแกะเชือกที่มัดชุดแต่งงานด้านหลังออก
กรี๊ด ช่วยด้วยค่ะ หนูกำลังจะถูกผีลวนลาม!
“ไอ้ผีลามก หนูจะไม่ทำบุญให้คุณแล้ว”
“ใครอยากได้ส่วนบุญกัน ฉันอยากได้เธอต่างหาก”