บทย่อ
เมื่อหยางไป่ชวนพบว่าสาวสวยในดวงใจของตัวเองดันเอาแต่สนใจโหยวเปิ่นเฉา เขาจึงไม่พอใจ และเริ่มหาเรื่องโหยวเปิ่นเฉาตรงๆ แต่ดูเหมือนโหยวเปิ่นเฉาจะไม่สนใจสาวสวยคนนี้เลยสักนิด แต่กลับมาเป็นห่วงเขาแทน ในระหว่างนี้เอง เป็นครั้งแรกที่หยางไป่ชวนสังเกตเห็นโหยวเปิ่นเฉาที่อยู่ข้างกาย และสงบศึกกับเขา...
รักนายครั้งที่ 1
เมื่อหยางไป่ชวนกลับประเทศ ที่นี่ก็เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ที่จริงทางตอนใต้ไม่มีฤดูใบไม้ร่วง บ่อยครั้งที่ฤดูร้อนอันยาวนานผ่านพ้นไปก็จะเข้าสู่ต้นฤดูหนาวโดยทันที แต่ดูเหมือนเขาจะลืมเรื่องนี้เสียสนิท หลังจากไปอยู่ต่างประเทศมาห้าปี ดังนั้นเขาที่สวมเสื้อแขนขายาว พร้อมอุปกรณ์กันหนาวครบครัน ลงจากเครื่องบินได้ก็เจอดีทันที ขณะที่เขารอพี่ชายมารับ เหงื่อก็ออกจนเสื้อยืดด้านหลังชุ่มไปหมด
เขาขึ้นรถได้ก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างสบายใจ "ทำไมเมือง S ถึงร้อนขนาดนี้นะ"
พี่ชายเขาเหลือบมองแล้วพูดว่า “ถึงร้อนก็ต้องทำงาน"
หยางไป่ชวนทำเสียงไม่พอใจ แต่ไม่ได้พูดอะไร หันไปก้มหน้าเล่นโทรศัพท์แทน ชีวิตของเขาในต่างแดนนั้นเรียกได้ว่ามีความสุขจนแทบไม่อยากกลับมา วีแชทของเขามีการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายเมื่อสามปีก่อน แม้แต่รูปโปรไฟล์ก็ยังไม่เปลี่ยน เขาไถหน้าจอเรื่อยเปื่อย เห็นเพื่อนส่วนใหญ่โพสต์เรื่องราวในชีวิตประจำวัน ไม่มีข่าวใหญ่อะไร
หยางไป่ชวนขยับนิ้วโพสต์ข้อความ "ฉันกลับมาแล้ว" พร้อมแนบรูปถ่ายเซลฟี่ที่เขาถ่ายไว้อย่างลวกๆ ก่อนหน้า โพสต์เสร็จเขาก็ไม่สนว่ามีคอมเมนต์กระหน่ำเข้ามามากมายขนาดไหน ก่อนโยนโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้างตัวแล้วนอนต่ออย่างสบายใจ
คราวนี้เขาหลับลึกมาก แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะได้กลับมายังสถานที่ที่คุ้นเคยหรือเปล่า เขาจึงฝันถึงเรื่องต่างๆ มากมายสมัยมหาวิทยาลัย
ตั้งแต่ลู่วิ่งสีแดงในสนามไปจนถึงอาคารเรียนหลังเก่า หอพักที่ค่อนข้างสกปรก เขายังเห็นชายหนุ่มที่เขาเคยชอบส่งยิ้มมาให้ภายใต้ท้องฟ้าสีครามและหมู่เมฆสีขาว ใบหน้าเขาไม่ชัดเจนเมื่อมองจากระยะไกล ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อเขาจากด้านหลัง...
“หยางไป่ชวน!”
เขาตื่นขึ้น
ทันทีที่เขาตื่นก็เห็นใบหน้าในระยะประชิด เขาเบี่ยงตัวออกเล็กน้อยอย่างกระอักกระอ่วนก่อนพูดว่า “พอเลยนะหยางเจ๋อเทียน ถึงฉันจะชอบผู้ชายก็ไม่เอาพี่น้องกันเองหรอกน่า ทำใจซะเถอะ!”
หยางเจ๋อเทียนค้อนใส่เขา ก่อนเอียงตัวไปเปิดประตูรถให้เขา เป็นการแสดงความรังเกียจผ่านการกระทำ “ถึงแล้ว เอากระเป๋าเดินทางของนายไปด้วย อาทิตย์นี้พักผ่อนซะ อาทิตย์หน้าค่อยเริ่มงาน”
“ได้”
หยางไป่ชวนเองก็ไม่เกรงใจ หยิบกระเป๋าออกจากท้ายรถแล้วโบกมือส่งๆ ก่อนเดินเข้าไปในอาคาร เมื่อเข้าไปด้านในก็พบว่าลิฟต์เสีย เขาจึงต้องแบกกระเป๋าเดินทางไปชั้นสิบสอง หลังจากเปิดประตูห้องไปได้เขาก็หมดแรง ล้มตัวลงบนเตียง
เขาพลิกตัวฝังหน้าลงกับหมอนแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นด้วยความพอใจหลังสูดกลิ่นอันมีเอกลักษณ์ของปลอกหมอนใหม่ แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่บนพื้น
หยางไป่ชวนกำลังจะเตรียมยอมรับชะตากรรม ลุกขึ้นมาเคลียร์กระเป๋าเดินทาง ก็รู้สึกว่ามีเสียงบางอย่างดังอยู่ตรงต้นขาตัวเอง เขาล้วงกระเป๋ากางเกงหาอยู่นานกว่าจะรู้ว่าเป็นโทรศัพท์มือถือของตัวเอง พอเปิดออกดูก็พบว่าเป็นข้อความแจ้งเตือนของวีแชทจำนวนมาก