6.เรื่องราวที่เลยเถิด
หลังจากส่งคิร่ากลับห้องนอนเรียบร้อยแล้วโคลด์ก็กลับมาที่ห้องทำงานอีกครั้ง
เขาใช้นิ้วเคาะโต๊ะอย่างใช้ความคิด..
เบลล่า เมบิล?
โคลด์ก้มมองตุ้มหูทับทิมสีแดงในมืออย่างอารมณ์ดี ใบหน้าที่แสนจะงดงามนั่นดึงดูดความสนใจของเขาได้ไม่อยาก
ไม่ว่าเธอจะเข้ามาที่เคนเนดี้ด้วยเหตุผลใด เขาก็จะต้องระวังเรื่องความปลอดภัยของคิร่าก่อน
“กัสส่งคนไปตามสืบเรื่องของเบลล่ามาอย่างละเอียด…ข้าต้องการรู้ถึงเรื่องราวตั้งแต่นางยังเด็กจนถึงตอนนี้เลย…แล้วก็นี่..ตุ้มหูทับทิมเช่นนี้ตั้งแต่เกิดมาข้าเห็นสตรีเพียงคนเดียวที่สวมทับทิมออกงาน นั่นก็คือแกรนด์ดัชเชสโอเว่น ตามสืบเรื่องความสัมพันธ์ของนางกับดยุคโอเว่นมาด้วย”
“ครับท่านเคาน์”
กัสออกไปอย่างรวดเร็ว…โคลด์ยกยิ้มก่อนจะมองไปที่ด้านนอกหน้าต่าง
ไม่ว่าเธอจะมาแผนไหน เขาจะเป็นคนกักขังเธอเอาไว้ที่เคนเนดี้เอง…วางใจเถอะเบลล่า ในเมื่อเจ้ากล้าที่จะเข้าถ้ำเสือแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะออกไปจากที่นี่ได้เลย
……
เบลล่ายกยิ้มให้กับท่านเคาน์ที่กำลังมองหน้าเธอ
“อืม..เอกสารเรียบร้อยแล้ว เช่นนี้เจ้าลงมือสอนคิร่าได้เลย”
“ข้าคิดว่าจะมาสอนนางวันพรุ่งนี้ค่ะ วันนี้ขออยากจะกลับไปเตรียมตัวก่อน…”
“อืม..เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า…ว่าแต่เจ้าทานข้าวรึยัง?”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ หากว่าทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะคะ”
เบลล่าก้มหน้าลงเพื่ออำลาท่านเคาน์
“เรื่องค่าจ้างล่ะ? เจ้าไม่คุยเรื่องค่าจ้างไม่กลัวข้าจะกดราคารึไง?”
เบลล่าหัวเราะ
“ข้าคิดว่าท่านเคาน์คงจะไม่ทำเรื่องเช่นนั้นหรอกค่ะ…อีกอย่างข้าเป็นเพียงคนที่ว่างงาน เพียงแค่ท่านยอมให้ข้ามาสอนหนังสือข้าก็ขอบคุณท่านเคาน์มากแล้วค่ะ”
“อันที่จริง…ข้าคิดว่ามันมีปัญหาอยู่บ้าง เพราะว่าคิร่านั้นเริ่มเรียนช้ากว่าคนปกติ ข้าก็เลยอยากให้นางเรียนมากขึ้นกว่าที่เจ้าสอนคนอื่น หากว่าไม่เป็นการรบกวนเจ้า ข้าก็อยากให้เจ้าย้ายมาอยู่ที่นี่เลย….”
ห๊ะ!!..จะให้มาอยู่ที่นี่งั้นเรอะ!! จะให้มาอยู่ทำไมก่อน!!
หรือว่าท่านเคาน์ไม่เชื่อใจเธอ…เขาอาจจะอยากให้เธอมาอยู่ที่นี่เพื่อจะได้คอยจับตาดู
หากว่าเธอปฏิเสธเขาก็อาจจะเกิดความสงสัยในตัวเธอมากขึ้น…รึเปล่า
แต่หากว่าเธอมาอยู่ที่นี่มันก็ไม่สะดวกในหลายๆ อย่าง เธอพึ่งจะได้คฤหาสน์เมบิลมา ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังจัดการไม่เรียบร้อย ไหนยังจะท่านแม่อีก
โคลด์มองท่าทางคิดมากของเบลล่า…ตามที่เขาได้รับรายงานคือเธอมีแม่เพียงคนเดียว…
นี่มันมากไปรึเปล่านะที่จะให้เธอมากอยู่ที่นี่ คำขอของเขามันมากเกินไปรึเปล่า?
“ข้าไม่ได้จะให้เจ้ามาอยู่ที่นี่ทุกวันสักหน่อย แค่วัน จันทร์ อังคาร พุธ ส่วนวันอื่นเจ้าก็หยุดไป เพราะคิร่าต้องการ การปรับตัว ข้าเลยคิดว่าจะให้นางเรียนแค่สามวันก็พอ”
“อ่า..หากว่าเป็นเช่นนั้นข้าก็ไม่มีปัญหาค่ะ ขอบคุณท่านเคาน์ที่เมตตา”
“อืม..เช่นนั้นเจ้าก็ควรมาค้างที่นี่วันพรุ่งนี้เลยเป็นไง…”
ต้องรีบ…ขนาดนี้เลยเรอะ!
“ค่ะ..ได้ค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะนำของใช้บางส่วนติดมาด้วย”
“ไม่ต้อง…ของใช้ของเจ้าเราก็ต้องไปซื้อใหม่สิ…เจ้าไม่ได้ไปไหนแล้วใช่ไหม เช่นนั้นเราควรจะไปเลือกของใช้ต่างๆ ของเจ้าด้วยกัน”
โคลด์ลุกขึ้นก่อนจะส่งยิ้มให้เบลล่า
“ไปเถอะ..ชวนคิร่าไปด้วยกันนางต้องดีใจมากแน่ๆ”
เขาพูดจบก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้เบลล่ายืนมองแผ่นหลังของเขาอย่างเหนื่อยใจ เหตุใดเขาถึงชอบคิดเองเออเองนักนะ!!
ทุกสายตาจับจ้องมาที่ใบหน้าของเบลล่าอย่างสนใจ…อาจจะเป็นเพราะไม่มีสตรีใดที่เดินเคียงข้างสองพี่น้องตระกูลเคนเนดี้มานานแล้ว เบลล่าจึงได้เป็นจุดสนใจโดยไม่ต้องเดา
“พรุ่งนี้เจ้าอาจจะได้ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์”
คิร่ากล่าวติดตลกกับเบลล่า
“ข้าไม่อยากจะขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เลยด้วยซ้ำ!! เราควรจะรีบซื้อของแล้วรีบกลับกันเถอะ!!”
“ได้ที่ไหนกัน ของใช้ของเจ้าก็ต้องเลือกให้ดีหน่อย!!”
“ไม่เอาคิร่า ข้าเกรงใจ อีกอย่างข้าไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ของเจ้าเป็นแขก แต่ข้าเปรียบเสมือนคนงานคนหนึ่งเลยก็ว่าได้เจ้ากำลังทำให้ข้าลำบากใจ!!”
“คนงานอะไร!! เจ้าเป็นเพื่อนข้านะ เป็นเพื่อนคนแรกของข้าด้วย วันพรุ่งนี้ข้าจะไปนอนห้องเจ้า เราจะคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ส่วนอีกวันเจ้าก็จะต้องมานอนห้องข้า เราจะเล่นไพ่กันจนถึงเช้าเลยเป็นไง!”
เป็นครั้งแรกที่หัวใจของเบลล่านั้นรู้สึกชา…คิร่านั้นย้ำทุกครั้งว่าเธอคือเพื่อนคนแรก…เธอคิดไม่ออกเลยจริงๆ หากว่าคิร่ารู้ว่าที่เธอมาตีสนิทด้วยเพราะเงินหนึ่งแสนเหรียญทอง
ความรู้สึกของคิร่าจะเป็นยังไง…จะแตกสลายแค่ไหน
“เบลผ้าห่มลายนี้สายมากๆ เลย เจ้าชอบรึเปล่า?”
“อื้อ..เอาอันนี้แหละ สวยดี”
คิร่ายกยิ้มอย่างอารมณ์ดี ส่วนท่านเคาน์ก็เดินตามหลังพวกเราพร้อมทั้งเป็นคนคอยจ่ายเงินให้
“เดี๋ยวก่อนคิร่า”
เบลล่าดึงผ้าห่มมาจากมือของคิร่า เพราะเธอคิดว่าเธอเห็นเลขศูนย์ที่มันมากเกินไป พอมาพลิกราคาดูเบลล่าก็รีบวางผ้าห่มผืนนั้นไว้ที่เดิมทันที
“ทำไมล่ะเบล ไม่สวยงั้นเหรอ?”
“คิร่า ผ้าห่มบ้าบออะไรราคาห้าพันเหรียญทอง นั่นมันเงินเก็บทั้งชีวิตของข้าเลยนะ!!..ไม่เอาผืนนี้ ไปดูที่ราคาถูกกว่านี้หน่อยเถอะ”
คิร่าหันมองที่หน้าโคลด์ก่อนที่ทั้งสองคนจะหัวเราะ
“เบล..ข้าบอกแล้วไงเจ้าคือเพื่อนข้า สำหรับเจ้าข้าจ่ายให้ได้สบายๆ อยู่แล้ว”
“แต่ข้ารับมาแล้วข้าไม่สบายใจ..หากเจ้าจะซื้อผ้าห่มราคาห้าพันเหรียญให้ข้า เจ้าเอาเงินมาให้ข้าดีกว่า ข้าจะนอนห่มเหรียญทองแทนห่มผ้าเอง!!!”
คิร่าหัวเราะเสียงดัง เบลนี่เป็นน่ารักจริงๆ เธอหันมองหน้าพี่ชายก่อนจะพยักหน้าแล้วพาเบลล่าเดินไปที่อื่น พอเบลล่าเดินจากไปโคลด์ก็ส่งผ้าห่มผืนนั้นให้พนักงานขาย
“…เป็นเลดี้ที่งดงามมากเลยนะคะ ท่านเคาน์เลือกสตรีได้ดีจริงๆ”
โคลด์มองที่เบลล่าก่อนจะยกยิ้มออกมา
“อื้ม..งดงามมากจริงๆ ด้วย”
หลังจากที่พวกเราไปเลือกซื้อของหลายๆ อย่าง กว่าคิร่าจะปล่อยให้เธอกลับก็เป็นเวลาค่ำมืด
เบลล่ามาถึงที่เมบิลก็พบท่านแม่ที่กำลังเลือกดูผ้าไหมอยู่
“ผ้าไหมมากมายนี้คืออะไรคะท่านแม่”
“เบล ตลอดระยะเวลาที่แม่อยู่ที่นี่มันรู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไปจากชีวิตของแม่ เมื่อวานพอแม่ได้ลองตัดเสื้อดูอีกครั้งแม่มีความสุขมากเลยเบล กลายเป็นว่างานที่ร้านตัดเสื้อมันไม่ใช่งาน แต่มันคือส่วนหนึ่งของชีวิตแม่…”
เบลล่ายกยิ้ม
“ท่านแม่ก็เลยจะเปิดร้านตัดเสื้ออีกครั้งงั้นหรือคะ?”
ท่านแม่พยักหน้า
“แม่ไปดูทำเลกับเซ็ดดริกมาแล้ว วางเงินมัดจำไปแล้วด้วย เจ้าของที่ใจดีมากๆ เลยเขาคิดค่าเช่าเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเหรียญเท่านั้น”
เบลล่าเลิกคิ้วมองหน้าท่านแม่
“ร้านตั้งอยู่แถวไหนคะท่านแม่”
“ทำเลดีมากเลยนะ อยู่ที่หน้าโรงละครพอดีเลย ตรงข้ามกับหอนาฬิกา”
มันไม่มีทางที่ร้านตรงนั้นค่าเช่าจะหลักร้อยเหรียญ แค่ร้านขายเนื้อย่างเล็กๆ ที่เธอชอบกินค่าเช่ายังแปดพันเหรียญเลย! นี่ร้านตัดเสื้อตึกสี่ชั้น ค่าที่มันควรจะเป็นหลักหมื่นเหรียญสิ!!
“เซ็ดดริกเป็นคนพาไปดูงั้นเหรอคะ?”
“ใช่แล้ว เขาบอกว่าเขารู้จักกับเจ้าของตึกพอดี ก็เลยเช่าได้ในราคาพิเศษ”
เบลล่ายกยิ้มให้ท่านแม่อีกครั้ง อย่างไม่ต้องเดาเลยว่าเจ้าของตึกนั้นคือใคร เอาไว้เธอต้องหาโอกาสไปขอบคุณท่านดยุคเรื่องนี้แล้วสินะ
หลังจากนั้นเธอก็คุยกับท่านแม่เรื่องการไปทำงานที่คฤหาสน์เคนเนดี้ ท่านแม่ได้แต่ยินดีกับเธอเพราะการได้สอนหนังสือชนชั้นสูงเช่นตระกลูเคาน์นั้นถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งของเบลล่าเลย
ถือว่าลูกสาวของเธอได้รับการยอมรับจากชนชั้นสูงบ้างแล้ว
เบลล่าขึ้นมาเก็บกระเป๋าสำหรับอยู่ที่คฤหาสน์เคนเนดี้ เรื่องราวมันเลยเถิดมาขนาดนี้ได้ยังไงกัน
เธอแค่จะไปตีสนิทคิร่า กลับกลายมาเป็นได้ไปอยู่มาบ้านเค้าเฉย!
แต่นั่นก็นับว่าคือเรื่องที่ดีแล้วกัน เพียงแต่เธอต้องระวังตัวมากขึ้นอีกหน่อย เพราะตามที่ท่านดยุคกล่าวว่าท่านเคาน์เป็นคนฉลาดมาก
ด้วยสายตาที่เขามองมาที่เธอ เบลล่าต้องยอมรับเลยว่าชายผู้นี้ฉลาดมากจริงๆ
…….
เบลล่ากำลังเดินตามคิร่าขึ้นไปชั้นบนเพื่อเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บ
“ห้องนี้เลยเบล ด้านซ้ายคือห้องของข้า ส่วนด้านขวาคือห้องท่านพี่”
…..คือจะมานอนห้องติดกันเพื่อ!!
“ข้าคิดว่า…”
“ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นแหละ! รีบเอาของไปเก็บสิ ท่านพี่บอกว่าถ้าข้าสามารถทำแบบฝึกหัดของท่านพี่ได้คะแนนเกินครึ่ง ท่านพี่จะพาเราสองคนไปเที่ยวงานเทศกาลด้วยล่ะ น่าตื่นเต้นสุดๆ ไปเลยใช่ไหมเบล !!”
…..เธอที่ขายของตามงานเทศกาลมากว่าสิบหกปี บอกเลยว่ามันไม่น่าตื่นเต้นสักนิด!!
“อ่า..เช่นนั้นข้าจะตั้งใจสอนเจ้าเอง…ไปรอข้าที่ห้องหนังสือได้เลย”
พอเปิดประตูเข้ามาในห้องเบลล่าก็ต้องตกใจอีกครั้ง ห้องนี้มันใหญ่กว่าห้องนอนเธอสิบเท่าได้มั้ง ทำไมคนรวยจะต้องสร้างห้องนอนใหญ่ๆ เอาไว้ด้วยนะ สุดท้ายก็นอนคนเดียวอยู่ดีไม่ใช่รึไง!!
เธอนำกระเป๋าเสื้อผ้าไปวางก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ แต่เบลล่าก็ต้องชะงักเพราะในตู้เสื้อผ้ามีชุดแขวนอยู่เต็มจนแน่นตู้…
นี่อาจจะเป็นเสื้อผ้าของคิร่าสินะ ตู้ของเธอคงจะเต็มจนล้นเลยเอามาเก็บที่ห้องนี้…
เบลล่าถอนหายใจก่อนที่เธอจะวางเสื้อผ้าของเธอลงบนเก้าอี้และพับมันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
หลังจากจัดการเรื่องในห้องตัวเองเสร็จเธอก็เดินไปหาคิร่า ก่อนจะเริ่มสอนวิชาการปกครองก่อน
“ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเราต้องเรียกเรื่องพวกนี้ด้วย ชีวิตของสตรีก็มีเพียงแค่แต่งตัวสวยๆ แล้วก็ดูแลคฤหาสน์ไม่ใช่รึไง?”
เบลล่ายกยิ้ม
“นั่นก็มีส่วนที่ถูก แต่เราทุกคนต่างก็ต้องแต่งงาน เรามิได้ต้องปกครองตระกูลทางตรงก็จริง แต่สามีของเราต้องปกครอง หากภรรยามิสามารถเป็นเพื่อนคู่คิดได้ สามีก็อาจจะต้องเหน็ดเหนื่อยเพียงลำพัง คิร่าเป็นสตรีนั้นมิได้ต้องมีแต่ใบหน้าที่งดงามอย่างเดียว แต่ต้องมีความรู้เอาไว้ค้ำจุนสามีด้วย”
คิร่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“เจ้าสอนรู้เรื่องกว่าอาจารย์ที่ผ่านมาอีก..เอาล่ะข้าพร้อมแล้ว เจนไปเรียกท่านพี่มาให้หน่อย!!”
สาวใช้ก้มหน้าให้คิร่าก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ใช้เวลาไม่นานนักท่านเคาน์ก็เดินเข้ามา
“พร้อมแล้วงั้นหรือคิร่า…อย่าลืมว่าหากเจ้าได้คะแนนไม่ถึงครึ่งนอกจากเจ้าจะไม่ได้ไปงานเทศกาลแล้ว อาจารย์ของเจ้าอาจจะถูกหักเงินเดือนด้วยนะ”
“อ๊ะ!!..ท่านพี่ไม่ได้บอกนี่นาว่าจะหักเงินเดือนของเบลด้วย!!”
เบลล่าส่งยิ้มให้คิร่า
“ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องทำได้”
คิร่ามองที่เบลล่าอย่างอึ้งๆ ก่อนที่เธอจะหายใจเข้าลึกๆ
“ข้าพร้อมแล้วค่ะ!!”
ท่านเคาน์ส่งกระดาษให้คิร่า เธอรับมาก่อนจะตั้งใจเขียนลงไป
“ห้องเป็นไงบ้าง ถูกใจรึเปล่า?”
“ข้าจะคุยเรื่องนี้กับท่านเคาน์อยู่พอดี ห้องที่ท่านให้ข้าพักนั้นมันดีเกินไปค่ะ…”
“เอาเป็นว่าถูกใจละกันนะ..คิร่าเป็นคนเลือกให้เจ้านอนห้องนั้นเอง นางดีใจมากเลยนะที่จะมีเพื่อนมาค้างที่คฤหาสน์”
ท่านเคาน์นี่พอเถียงสู้เธอไม่ได้ก็ยกคิร่ามาอ้างตลอด!
คิร่าส่งกระดาษให้พี่ชาย ด้วยใบหน้าที่มั่นใจ
โคลด์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะส่งให้เบลล่าตรวจ เธอรับกระดาษมาก่อนจะลงมือตรวจคำตอบ
นั่นทำให้เบลล่ารู้ได้ทันทีเลยว่า เธอเจองานหินเข้าให้แล้ว…
“ได้สี่เต็มสิบ..คิร่านี่มันไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำนะ”
โคลด์กล่าวกับคิร่าพร้อมกับหัวเราะ เบลล่าถอนหายใจก่อนจะส่งยิ้มให้คิร่า
“ที่ผ่านมาคิร่าเคยทำแบบทดสอบได้กี่คะแนนคะ?”
“ไม่เกินสอง…”
คิร่าตอบพร้อมกับก้มหน้าลง
“อ่า..เช่นนั้นวันนี้ได้สี่คะแนนก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว วิชานี้เจ้าได้คะแนนไม่เยอะ แต่วิชาต่อไปเจ้าอาจจะได้คะแนนเต็มก็ได้ ท่านเคาน์เองก็อย่าพึ่งด่วนตัดสินนางเช่นนั้นสิคะ”
โคลด์เลิกคิ้วมองเบลล่า
“อื้ม..ไม่ตัดสินก็ไม่ตัดสิน แต่เรื่องไปงานเทศกาลคำไหนคำนั้น ไม่ได้คะแนนถึงครึ่งพี่ก็ไม่พาไปหรอกนะ!”
คิร่าถอนหายใจ ก่อนจะทำหน้าเศร้า
“ไม่เป็นไรนะคิร่า…ข้าได้ยินว่างานเทศกาลรอบนี้จัดทั้งหมดห้าวัน เอาไว้พรุ่งนี้ท่านเคาน์ค่อยมาทดสอบนางใหม่ได้ไหมคะ?”
คิร่ามองที่พี่ชายอย่างมีความหวังก่อนที่เธอจะหันไปกอดเบลล่า
“เบลดีที่สุดเลย!! เช่นนั้นคืนนี้เรามาเล่นไพ่กันดีกว่า!!!”
เบลล่ามองไพ่ในมือ…ก่อนจะมองไปรอบๆ
ตอนนี้ในห้องเธอราวกับงานเทศกาลก็ว่าได้ มีคิร่าที่กำลังจั่วไพ่และท่านเคาน์ที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ ตามมาด้วยคนรับใช้อีกราวห้าคนที่นั่งลงเป็นวงกลมเพราะถูกคิร่าบังคับให้เล่นไพ่ ซึ่งทุกคนก็มีสีหน้าไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่
คือง่วงนอน!! เพราะตอนนี้เป็นเวลาราวตีหนึ่งแล้ว….
“ข้าชนะอีกแล้ว!!! เย้!!”
คิร่ากล่าวพร้อมกับตบมืออย่างอารมณ์ดี
“จบตาแล้วเช่นนั้นพวกเราคงจะต้องขอตัว…”
“ใครให้พวกเจ้ากลับไปกัน!!..นั่งลงเล่นกับข้าอีกตาก่อน!!”
“แต่เมื่อตาที่แล้วคุณหนูก็บอกว่าให้พวกเราเล่นอีกตาเดียวนะคะ….”
“คิร่า พอแล้วน่า ทุกคนง่วงกันหมดแล้ว พรุ่งนี้เราค่อยมาเล่นกันใหม่ก็ได้นี่…”
ทุกคนหันมองหน้าท่านเคาน์ด้วยสีหน้าเดียวกัน นั่นก็คือ..
พรุ่งนี้ยังจะต้องเล่นอีกเรอะ!!!
“ก็ได้!!”
คิร่าลุกขึ้นก่อนจะเดินไปกอดเบลล่า
“ฝันดีนะเบลที่รักของข้า!!”
เบลล่าส่งยิ้มให้คิร่า ก่อนจะโบกมืออำลา
ทุกคนเริ่มทยอยออกไป เหลือเพียงสาวใช้คนหนึ่งที่กำลังเก็บไพ่และแก้วต่างๆ ออกไปจากห้องของเธอ…
เบลล่าล้มตัวนอนลงบนเตียง…วันแรกก็เล่นผ่านไปแบบยากเย็นเลยทีเดียว ท่านเคาน์นั้นตามใจคิร่ามากจริงๆ ส่วนคิร่าก็มีมุมที่งอแงเป็นเด็กๆ อยู่เหมือนกัน นั่นอาจจะเป็นเพราะเธอเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กละมั้ง ก็เลยยังติดนิสัยงอแงอยู่
“นอนแล้วเหรอ?”
เบลล่าลืมตาขึ้นมาก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนออกไปแล้วทำไมท่านเคาน์ยังไม่ออกไปอีก!!