10.สายลมที่พัดผ่าน
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกคามิเลียลอยมาตามลม นิ้วมือเรียวยาวของลิเลียนกำลังยกแก้วชาขึ้นมาดื่ม
เธอปรายตามองท่านพ่อที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“…งานพิธีฉลองบรรลุนิติภาวะของตระกูลสเวนเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็ดีค่ะ จูเลียน่ายังเป็นที่น่ารังเกียจของสตรีชนชั้นสูงเช่นเดิม”
เคาน์มาทิลด้ามองที่ถ้วยชาก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา
“ตำแหน่งราชินีแห่งชนชั้นสูงเป็นของลูกนั้นถูกแล้ว รักษามันไว้ให้ดีเพราะว่าพ่อต้องใช้มัน”
ลิเลียนวางแก้วชาลงบนโต๊ะ
“ทราบแล้วค่ะ ลูกก็ไม่ยอมให้ใครมาแย่งไปอยู่แล้ว โดยเฉพาะจูเลียน่า”
“กับท่านแกรนด์ดยุคเป็นอย่างไรบ้าง?”
เธอถอนหายใจ
“ตั้งแต่วันที่เขามาเป็นคู่ควงเต้นรำให้ลูก ท่านเลียมก็ไม่ติดต่อมาเลยค่ะ!”
“ลิเลียนพ่อค่อนข้างคาดหวังนะ ราชอาณาจักรกันนาร์มีแกรนด์ดยุคเพียงแต่ตระกูลเดียว เรามิอาจเสียตำแหน่งแกรนด์ดัชเชสให้ตระกูลใดได้…ถึงแม้ท่านแกรนด์ดยุคจะได้ชื่อว่าเป็นชายที่มองสตรีราวกับของเล่น แต่พ่อมั่นใจว่าลิเลียนของพ่อจะต้องเปลี่ยนใจท่านแกรนด์ดยุคได้…ทำใจให้กว้างหน่อยลูกพ่อ เจ้าต้องทำให้เขาเห็นว่าเจ้าเป็นสตรีที่เข้าใจและไม่ใจแคบเรื่องสตรี”
นั่นมันทำได้ง่ายที่ไหนกัน เธอรักท่านเลียมจริงๆ การจะมองเข้าไปกับสตรีอื่นเธอไม่อาจจะยินยอมได้ โดยเฉพาะกับจูเลียน่า!
……..
“วันนี้อากาศดีนะครับ คุณหนูจะรับประทานอาหารในสวนไหมครับ?”
จูเลียน่าเงยหน้าขึ้นมาจากตำรา เธอพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้โจเซฟ
“โซเฟียมาบ้างรึเปล่า?”
พ่อบ้านโจเซฟหัวเราะเบาๆ
“เลดี้แร็กกี้มาทุกวันครับ…”
รอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้าของจูเลียน่า เธอหรี่ตามองโจเซฟอย่างจับผิด
“ไม่มีเรื่องที่คุณหนูต้องเป็นกังวล ข้ารู้ฐานะและความแตกต่างที่เกินสมควรนี้ดีครับ”
“โจเซฟไม่ใช่อย่างนั้น เจ้าทำงานรับใช้สเวนตั้งแต่ข้ายังเป็นเด็กด้วยซ้ำ ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามีคนรัก?”
โจเซฟยกถาดอาหารเดินออกไปด้านนอกคฤหาสน์พร้อมกับจูเลียน่า
“งานที่มี ข้ายังทำแทบจะไม่ทันเลยครับ จะเอาเวลาไปมีครอบครัวได้ยังไง”
“อ่า..สาบานได้ไหมว่าเจ้าไม่ได้หวั่นไหวไปกับนาง”
โซเฟียน่ารักขนาดนั้นหากไม่หวั่นไหวเลยแสดงว่าโจเซฟต้องเป็นหินแล้ว!
“….เลดี้แร็กกี้เป็นสตรีที่น่ารักครับ แต่อายุของข้าน้อยกว่าบารอนแร็กกี้พ่อของนางสองปี”
จูเลียน่าหัวเราะเบาๆ
“โจเซฟ หากว่าข้าจะรักใครสักคน ข้าไม่คิดว่าจะต้องมาถามอายุของเขาหรอกนะ แต่ข้าจะถามขนาดของเขามากกว่าว่าใหญ่แค่ไหน? ไปคิดดูดีๆ เถอะ ว่าเจ้ารู้สึกยังไงกับนาง…”
โจเซฟมองที่จูเลียน่าพร้อมทั้งขมวดคิ้ว
นั่นคือคำแนะนำที่ดีใช่ไหมนะ? แต่อย่างน้อยที่สุดคุณหนูที่แสนเย็นชาก็ได้รู้จักกล่าวคำปลอบใจให้เขา
จูเลียน่านั่งลงพร้อมกับทานอาหารเช้าที่สวนด้านหลัง เธอมองอัศวินมากมายที่กำลังฝึกอย่างหนัก
“โจเซฟ พวกเขาทานข้าวรึยัง?”
“เรียบร้อยหมดแล้วครับ คุณหนูไม่ต้องเป็นห่วง”
เธอพยักหน้าพร้อมกับนั่งทานข้าวต่อ วันนี้มีลมพัดมาเบาๆ ทำให้อากาศเย็นสบาย ช่วงเช้าที่แสงแดดอ่อนๆ เช่นนี้พวกอัศวินทั้งหลายก็เลยมาฝึกกันอย่างคึกคัก
“มาดามเวย์ล่านำชุดมาส่งแล้วค่ะ คุณหนูจะไปลองไหมคะ?”
จูเลียน่าขมวดคิ้ว
“ข้าไม่ได้สั่งชุดนะ มาดามมาผิดบ้านรึเปล่า?”
“ไม่ผิดหรอกค่ะ ข้าเป็นคนสั่งชุดออกงานให้คุณหนูเอง เพราะตารางออกงานของคุณหนูในตอนนี้ค่อนข้างเยอะ มีชุดสำหรับขี่ม้าและล่าสัตว์ด้วยนะคะ…”
“….ไม่ล่ะ นางตัดตามขนาดตัวของข้าไม่ใช่เหรอ เช่นนั้นก็คงจะใส่ได้พอดี รีสเตรียมชุดให้ด้วยนะ วันนี้ข้ามีนัด!”
เย็นนี้เธอจะไปดูละครที่อีฟานเล่นที่โรงละคร…ให้ตายเถอะหัวใจของเธอกำลังเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น!
……..
รอยยิ้มค่อยๆ จางหายจากใบหน้าของโซเฟีย เธอตื่นมาเช้านี้ก็พบกับจดหมายหมั้นกับตระกูลโอลิเวอร์ เธอจะเข้าไปเป็นภรรยาคนที่สามของท่านดยุคโอลิเวอร์
กำหนดงานหมั้นอีกสี่เดือน ท่านดยุคส่งเงินทองและสินสอดมาให้ที่ตระกูลแร็กกี้มากมาย ท่านกล่าวว่าเคยเจอโซเฟียมาก่อนและตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น..
นั่น..อาจจะดีแล้วก็ได้ เธอมิอาจจะหนีพ้นจากเหตุการณ์เช่นนี้ได้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นโซเฟียก็ยังห้ามความเสียใจไม่ได้อยู่ดี…
เธอเลือกจะออกไปในเมือง โซเฟียทำงานพิเศษเป็นคนอบขนมปัง เธอชื่นชอบการทำอาหารมากที่สุด อีกทั้งที่ตระกูลแร็กกี้กำลังลำบากเธอก็เลยมาทำงานพิเศษเพื่อหารายได้ แต่การมาทำงานเช่นนี้ต้องปิดบังการเป็นชนชั้นสูงเอาไว้เพราะพวกชาวบ้านกับชนชั้นสูงไม่ถูกกัน หากเธอบอกว่าตัวเองเป็นชนชั้นสูงอาจจะไม่ได้งาน หรือบางทีอาจจะต้องมีปากเสียงกับพวกเจ้าบ้าน..
ป่านนี้ท่านโจเซฟจะทำยังไงนะ จะกำลังทำงานวุ่นจนหัวหมุนเช่นทุกวันรึเปล่า
“เมียร์ วันนี้มีงานที่วิหาร เดี๋ยวอบขนมปังพวกนี้เสร็จแล้วเจ้าก็กลับไปเถอะ เลิกงานไวหน่อย!”
“ขอบคุณค่ะท่านป้า”
โซเฟียยกยิ้มอย่างดีใจ เธอรีบจัดการอบขนมปังจนเสร็จก่อนจะใช้แป้งที่เหลืออบขนมปังโดยใส่ธัญพืชลงไป ทั้งถั่วและงาต่างๆ
โซเฟียก้มมองขนมปังในมือด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับเดินไปที่คฤหาสน์สเวน เธอเข้าทางประตูหลังเพราะมาที่นี่จนชินแล้ว
“ท่านพ่อบ้านอยู่ที่สวนด้านหลังกับคุณหนูครับเลดี้…”
“ขอบคุณค่ะ”
โซเฟียส่งยิ้มให้อัศวินที่ยืนเฝ้าประตูด้านหลัง เธอเดินลัดเลาะตึกมาเรื่อยๆ ก็พบท่านจูเลียที่กำลังนั่งดูอัศวินที่กำลังฝึกอยู่
“สวัสดีค่ะท่านจูเลีย ดีใจจังเลยที่ได้เจอท่าน”
จูเลียน่ายกยิ้มจางๆ
“มาหาโจเซฟงั้นหรือ?”
“ใช่ค่ะ แต่ข้าตั้งใจมาหาท่านจูเลียด้วย วันนี้ที่วิหารมีงานวันขอบคุณพระเจ้า ปกติแล้วพวกชาวบ้านจะทำขนมปังแจกจ่ายกันเพื่อเป็นน้ำใจ ข้านำขนมปังมาให้ท่านจูเลียด้วยค่ะ เพราะท่านถือเป็นเพื่อนคนแรกของข้า!”
โซเฟียส่งห่อผ้าให้กับจูเลียน่า ส่วนอีกห่อส่งให้โจเซฟ
“ส่วนท่านโจเซฟคือคนที่ข้าชอบค่ะ ข้าก็ทำมาให้ท่านเช่นกัน”
“ขอบคุณครับ…”
จูเลียน่าหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเปิดห่อผ้าออก ขนมปังที่โรยด้วยงาดำ อีกทั้งมีถั่วต่างๆ สอดใส่อยู่ เธอหยิบขนมปังขึ้นมากินก็พบว่ารสชาติดีทีเดียว
“เจ้าทำเองงั้นหรือโซเฟีย”
“ค่ะ ข้าทำเองตั้งแต่นวดแป้งเลย!”
“รสชาติดีจนทำขายได้เลยนะเนี่ย เจ้าควรจะเปิดร้านขายนะ”
โซเฟียได้แต่ส่งยิ้มให้ท่านจูเลีย เธอจะบอกท่านจูเลียไม่ได้ว่าตัวเองไปเป็นลูกจ้างร้านขนมปัง
“ท่านโจเซฟวันนี้ก็ยังคงหล่อเหลาเช่นเดิมเลยนะคะ…ท่านทำให้หัวใจของข้าเต้นแรงซะแล้ว!”
จูเลียน่าลุกขึ้น พร้อมกับส่งยิ้มให้โซเฟียและโจเซฟ
“โซเฟียวันนี้เจ้าว่างรึเปล่า ไปดูละครกันสิ อีฟานส่งบัตรเชิญมาให้สองใบ”
“ว่างค่ะ ดีใจจังเลยที่จะได้ดูอีฟานใกล้ๆ!”
“เช่นนั้นเจ้าก็คุยกับโจเซฟไปก่อน ข้าลงชื่อไปในการแข่งขันล่าสัตว์ อยากจะไปซ้อมยิงธนูสักหน่อย”
“ระวังด้วยนะคะท่านจูเลีย”
จูเลียน่าเดินไปยังลานฝึกยิงธนู โซเฟียแกะห่อขนมปังพร้อมทั้งฉีกออกมาป้อนให้ท่านเจเซฟ
“ไม่เป็นไรครับ..”
“ข้ากำลังเสียหน้าอยู่นะคะ และกำลังจะเสียใจด้วยหากว่าท่านไม่กินมัน”
โจเซฟจำต้องอ้าปากออกเพื่อกินขนมปังที่โซเฟียป้อน
“อร่อยไหมคะ?”
โจเซฟพยักหน้าเบาๆ
“ครับ…”
โซเฟียส่งยิ้มให้เขา เธอยกมือขึ้นมาเท้าคางแล้วจ้องไปที่ใบหน้าของโจเซฟ
“ไม่อยากจะเชื่อว่าท่านโจเซฟจะยังไม่มีภรรยา ทำไมไม่มีใครมองเห็นความหล่อของท่านกันนะ!”
โจเซฟทำได้เพียงนั่งนิ่งๆ เท่านั้น เขาปล่อยให้โซเฟียพูดคนเดียว เป็นเช่นนี้แทบทุกครั้งที่เขาและเธอเจอหน้ากัน
“โจเซฟไม่เคยมองสตรีเลยรึไง?”
จูเลียน่าถามลุค ขณะที่เธอกำลังเล็งเป้าธนู
“ไม่เคยนะครับ เท่าที่ข้ารู้จักกับท่านโจเซฟมา เขามุ่งมั่นในการทำงานมากทีเดียว แต่ข้าว่าครั้งนี้ก็ไม่แน่นะครับคุณหนู…”
จูเลียน่าปล่อยลูกธนูออกไป มันแหวกว่ายไปในอากาศอย่างรวดเร็วก่อนจะปักลงที่พื้นดิน
“เหตุใดมันถึงไม่ปักลงที่เป้ากันนะ?”
“อ่า เรื่องนั้นคุณหนูอาจจะต้องใช้เวลาฝึกอีกสักหน่อย แต่ทำได้เท่านั้นในครั้งแรกถือว่าดีมากแล้วครับ ใช่ไหมพวกเรา!!”
“คุณหนูเยี่ยมที่สุดเลยครับ!! ในตอนที่ข้ายิงธนูครั้งแรกมันไปปักลงบนเท้าของข้า ครั้งแรกได้เท่านี้เยี่ยมมากครับ!!”
“ยอดเยี่ยม!! คุณหนูสุดยอด!!”
“เก่งมากครับ!!”
จูเลียน่าถอนหายใจ…ฟังไม่รู้เลยเนอะว่าพวกเขาแกล้งชมเธอ ไอ้พวกบ้าเอ๊ย!!!