บทที่ 2
ร่างบางที่พึ่งโดยเพื่อนอบรมเรื่องความเรื่องมากเรื่องเยอะของตนแอบสรดอยู่พักใหญ่ ก่อนที่หญิงสาวจะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แล้วหันมาถามคนข้างตัวอย่างต้องการหารือ
"ถ้าฉันไม่เรื่องมาก แล้วฉันจะไม่นกจริงหรอวะแก"
จิรัชกรอกตามองบนเมื่อได้ยินคำถามของคนที่โตมาด้วยกัน "เอาอย่างนี้นะคะชะนี ในฐานะที่ฉันมีประสบการณ์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ มาอย่างโชกโชน ฉันจะแนะนำว่า..."
"แกมีประสบการณ์ด้วยหรอวะ" พัธริกาขัด
"โอ๊ยย! อย่างน้อยฉันก็เคยมีผัว ประตูหลังฉันก็เคยได้ใช้ ไม่ใช่เก่งทฤษฎี แต่ขาดประสบการณ์แบบแกนะโว้ย! "
"เสียงดัง! เดี๋ยวคนอื่นก็รู้หมดว่าฉันไม่เคยมีผัว" หญิงสาวว่าบ้าง
"ขุ่นพระ! ก็ให้คนทั้งโลกเขารู้กันไปเถอะย่ะ ว่าเกิดเป็นชะนีมีมดลูกทั้งทีก็ไม่ควรเพ้อเจ้อแบบแก"
"ฉันไม่ได้เพ้อ ฉันแค่มองหาคนดีๆ ฉันผิดเรอะ!? " พัธริกาถามกลับอย่างแง่งอน แล้วสะบัดหน้าใส่คู่สนทนาเพื่อรอให้อีกฝ่ายมาง้อ
"แกมองหาคนดี แกไม่ผิด แต่ในโลกนี้มันไม่มีหรอกนะคนที่ดีไปซะทุกอย่างน่ะ ทุกคนก็มีข้อเสียทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะแกหรือฉัน" จิรัชเตือนสติเพื่อนรัก ก่อนที่อีกฝ่ายจะประชดชีวิตโสดด้วยการประกาศตัวครองคาน แล้วชวนเขาไปเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์กับมันด้วย
"เฮ้อ..." หญิงสาวถอนหายใจ
"ทำมาเป็นถอนหายใจ แกตอบไลน์คุณโอบเขาหรือยัง" เขาถามถึงนักธุรกิจหนุ่มหล่อที่เข้ามาขายขนมจีบให้เพื่อนในช่วงนี้
"ยัง ฉันไม่อยากคุยกับเขาแล้ว"
"ทำไม" จิรัชขมวดคิ้วถาม
"คุณโอบเขาก็ดี แต่ดูสำอางไปหน่อยว่ะแก กลัวเสื้อผ้าหน้าผมไม่เป๊ะยิ่งกว่าฉันอีก"
"ก็เขาเป็นนักธุรกิจ ภาพลักษณ์ต้องดูดีเข้าไว้ มันแปลกตรงไหนวะ" ที่ปรึกษาเฉพาะกิจถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
"ไม่รู้สิ ขนาดพ่อกับแม่ฉันเป็นคนในวงการบันเทิงยังไม่เห็นจะแต่งตัวเนี้ยบนิ้งเท่าเขาเลย แค่เห็นก็รู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว"
"มันเป็นเพราะแกรู้สึกว่าเขาไม่ใช่ต่างหาก" จิรัชแย้ง
"แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าแบบไหนมันใช่"
คนที่มีประสบการณ์ด้านความรักมามากกว่ากรอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด เพราะรู้ดีว่าเพื่อนเป็นคนเข้าใจอะไรยาก และดูเหมือนว่ามันจะไม่อยากเข้าใจด้วย
"ตอนนี้เป้าหมายของแกคือน้องพลัสเตอร์ใช่ไหม"
"ใช่" หญิงสาวตอบอย่างไม่ลังเล
"ทำไมต้องเป็นคนนี้"
พัธริกาขมวดคิ้วงุนงง เมื่อโดนถาม
"ก็... น้องเขาหล่อ"
"แค่นี้เนี่ยนะ"
หญิงสาวพยักหน้าให้คนถามแทนคำตอบ ก่อนจะแจกยิ้มหวานเพื่อเอาใจคู่สนทนา "โถ่... แกก็รู้ว่าฉันชอบผู้ชายที่หน้าตาประมาณน้องเขา ถ้าไม่ล็อคคนนี้ไว้เป็นเป้าหมาย จะให้ฉันไปเล็งใครล่ะ"
"สรุปว่าที่แกเล็งน้องเขา เพราะหน้าถูกสเปค? "
"เยส! "
"ถ้าอย่างนั้นแกควรจะเปลี่ยนวิธีการหาเป้าหมายใหม่" จิรัชที่พร้อมจะสนับสนุนเพื่อนให้มีผัวเต็มที่เสนอขึ้น
"เปลี่ยนวิธี? "
"เออ เปลี่ยนวิธีการใหม่ค่ะ คราวนี้ไม่ใช่มองแค่หน้าตาแล้วนะ แต่ต้องลองดูความรู้สึกแรกของตัวเองตอนที่แกเจอเขาด้วย"
พัธริกากะพริบตาปริบๆ อย่างใช้ความคิด ก่อนจะส่ายหน้าไปมา เพราะเธอไม่เคยรู้สึกพิเศษกับใครตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน
"ฉันไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษแบบนั้นกับใครตั้งแต่ครั้งแรกเลย ส่วนใหญ่ก็แค่รู้สึกปลื้มเหมือนดารานักร้องทั่วๆ ไป ไม่อย่างนั้นฉันคงพุ่งชนแบบสุดตัวไปแล้ว"
"โอ้โห... คุณเพื่อนขา ที่ตามพะเน้าพะนอเขาอยู่ทุกวี่ทุกวันนี่ยังไม่สุดตัวอีกหรอแก" จิรัชเหน็บ
"ยัง! ฉันก็แค่ตามส่งน้ำส่งขนมเหมือนรุ่นพี่อ่อยเด็กๆ "
เมื่อได้ยินคำตอบของคนตรงหน้า คนฟังก็ถึงกับยกมือขึ้นมาคลึงขมับด้วยความกลัดกลุ้ม เพราะรู้สึกได้ว่าปัญหาครั้งนี้ของเพื่อนรัก มันเกินจะแก้แล้วจริงๆ
"เอาอย่างนี้ไหม ฉันว่าตอนนี้แกลองอยู่เฉยๆ อยู่นิ่งๆ ล้มเลิกเรื่องน้องพลัสเตอร์ไปก่อน สปงสเปคอะไรในหัวก็ทิ้งมันไปซะ ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น"
หญิงสาวมองเพื่อนรักและถอนหายใจออกมา
"นี่แกจะหลอกอะไรฉันอีก" พัธริกาถาม
"ฉันไม่ได้หลอก ฉันแค่อยากให้แกลองตั้งสติ แล้วลองฟังเสียงหัวใจตัวเองบ้าง อย่าเชื่อค่านิยมเปลือกนอกที่คนในสังคมของแกสร้างขึ้น อย่าเอาบรรทัดฐานคนอื่นมาตัดสินคนที่เข้ามาในชีวิตแก หลับตา... หลับตา"
จิรัชเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เบาลงเรื่อยๆ คล้ายกำลังสะกดจิต จนกระทั่งคนฟังยอมหลับตาลงด้วยสีหน้าบึ้งตึง เพราะรู้ว่าเพื่อนแค่อยากแกล้งเล่นเฉยๆ
"ปล่อยวางผู้ชายในอุดมคติ"
"อ้าว..." หญิงสาวส่งเสียงแย้ง และทำท่าจะลืมตาขึ้น
"หลับตา หลับตาไว้ก่อน ฉันกำลังกล่อมจิตใจแกอยู่"
"ฉันจะปรึกษาเรื่องความรัก ไม่ได้อยากพบจิตแพทย์" พัธริกาแย้งเสียงขุ่น แต่ถูกเพื่อนยกมือขึ้นมาปิดปากไว้
"บอกให้หลับตาไงชะนี ถ้ายังเถียงไม่เลิก ฉันจะแช่งให้แกนอนเหงาอยู่บนคานทั้งชาตินี้ และชาติหน้าเลยนะโว้ย! "
พอเห็นว่าเพื่อนรักเริ่มอยู่ในอาการที่เข้าใกล้คำว่าสุดจะทนเต็มที หญิงสาวจึงยอมหลับตาลงอีกครั้งอย่างว่าง่าย และปล่อยให้อีกฝ่ายพูดพร่ำไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง...
"ละทิ้งมาตรฐานเก่าๆ ได้แล้ว แกก็ต้องลืมตา ลืมตา..."
พัธริกาลืมตาโพลงใส่เพื่อนรัก ทว่าดวงตาที่พึ่งเปิดขึ้นดันเหลือบมองข้ามหัวจิรัชไปปะทะเข้ากับร่างสูงของคนที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องอาหาร
"หูย... หล่อว่ะ" เธอบอก
"ว๊ายย...ย! ฉันกล่อมให้แกได้สตินะ ไม่ได้กล่อมให้แกเปลี่ยนใจมางาบเก้ง เอาใหม่ๆ แกต้องหลับตาแล้วตั้งสติ" จิรัชว่าพลางยกมือขึ้นมาปิดตาเพื่อน แต่ถูกอีกฝ่ายดึงออก
"เกะกะ"
"ฉันกำลังจะช่วยแกนะ"
"ไม่ต้องช่วยแล้ว" ร่างบางบอกเสียงขุ่นและชะเง้อคอมองข้ามหัวคู่สนทนาไปทันที
"อี..." จิรัชเงียบเสียงลง เมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังมองใครบางคนอยู่ "หล่อไหม"
"อื้อ! "
"นั่นน่ะ คุณฉลามที่ฉันพูดถึงเมื่อกี้ แบดบอยตัวพ่อเลยนะเว้ย" เขาบอก
"มีวิธีทำให้เขาเลิกเป็นแบดบอยไหมวะ" พัธริกาถาม
"อื้อหือ... ถ้ามันเลิกง่ายขนาดนั้น ป่านนี้ผู้หญิงไม่ต่ำกว่าหลักพันคงจัดการรวบหัวรวบหางเขาไปเป็นของตัวเองได้แล้ว"
หญิงสาวทำปากยื่นปากยาวใส่เพื่อนรักด้วยความรู้สึกเซ็งสุดขีด ก่อนจะเห็นว่าเอมิกาหรือเอมี่ ซึ่งเป็นแฟนเก่าของอดีตเป้าหมายเธอกำลังจะเดินเข้าไปทักเขา
"ยัยเอมี่! "
"อุ๊ยต๊าย! สายข่าวของฉันแม่นยำนะเนี่ย" จิรัชบอก
"ฉันจะต้องได้เขา" พัธริกาประกาศ
"เดี๋ยวๆ แกคิดจะทำอะไรเนี่ยไอ้แพร" คนเป็นเพื่อนรีบถามด้วยสีหน้าตกอกตกใจสุดขีด
"ฉันจะเปลี่ยนเป้าหมายใหม่"
"หา!? "
"เปลี่ยนเป็นคุณ 'ฉลาม' ไง ไม่ดีหรอ" หญิงสาวหันมาถามด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
"เอาจริง? "
"จริง! "