4
Chapter 4
เขาทำเหมือนทุกอย่างง่ายดายเหลือเกิน แถมยังโยนการตัดสินใจมาให้เธออีก
“งั้นหนูแพรไม่มีปัญหาใช่ไหมคะ หนูเสียหายเต็มๆ ป้าไม่ยอมหรอกนะ ถ้าหนูจะบอกว่าช่างมันไม่เป็นไร ป้ารับไม่ได้”
ดวงดาวเหมือนจะพูดปิดทางเด็กสาวเสียจนพูดไม่ออก แพรดาวได้แต่อึกอัก เหมือนกับให้เธอเป็นคนตัดสินใจ แต่สุดท้ายก็มัดมืดชกกันชัดๆ
“ถ้าหนูแพรไม่มีปัญหาอะไร ป้าจะหาฤกษ์อย่างเร็วที่สุด”
“คุณป้าคะ คือว่า...” รู้จักกันมาตั้งนาน ในสายตาของเธอดวงดาวคือผู้ใหญ่ใจดีมีเมตตา แต่บทจะเผด็จการขึ้นมา ทำให้เธอถึงกับพูดไม่ออก
“ป้ากับลุงต้องไปทำธุระต่อ เดรกดูแลน้องด้วยล่ะ อย่ารังแกน้องอีก ถ้าพี่เขารังแก บอกป้าได้เลยนะ” ดวงดาวตัดสินใจรวดเร็วเสร็จสรรพ ท่านออกไปทำธุระข้างนอกด้วยรถตู้ที่มีลูกน้องตามไปพอสมควร และดูเหมือนว่าจะไม่กลับเข้ามาบ้านอีก ท่านเป็นนักธุรกิจหญิงที่เก่งและมีความสามารถอย่างแท้จริง
“ทำไมพี่เดรกพูดไปแบบนั้นล่ะ เรายังไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย”
“ต้องให้มีก่อนหรือไง” เขาขยับเข้าใกล้ร่างที่เบียดชิดอยู่กับโซฟา
“อย่าเข้ามานะ คนลามก” เธอดันปลายคางของเขาออกห่าง เดรกใช้มือกักร่างน้อยเอาไว้กับโซฟา
“แต่งงานกันแล้วไม่รอดแน่ หึหึ” เขาจ้องตาคนน่ารัก ก็เห็นอยู่หรอกว่าน่ารักมานานแล้ว แต่ตอนนั้นยังเด็กอยู่
“อ๊าย... คนลามก” เธอยกเข่าขึ้นกระแทกตรงหว่างขาของเขา
“โอ๊ย!” เดรกร้องเสียงหลง ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ข้างโซฟาอย่างหมดสภาพ
“สมน้ำหน้า อยากหื่นดีนัก” เธอย่นจมูกใส่
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” เดรกรีบลุกขึ้น กุมเป้ากางเกงเอาไว้ มองตามร่างน้อยที่วิ่งหนีขึ้นบันไดไปแล้ว จะวิ่งตามไปก็ไม่ทันเธอปิดประตูโครมใหญ่
“คนบ้าๆๆ” แพรดาวก่นด่าชายหนุ่ม ก่อนจะลูบแก้มไปมาเมื่อเดินไปหน้ากระจกบานใหญ่
“หน้าแดงทำไม อีตาพี่เดรกชอบแกล้งเราจะตายไป”
เธอทิ้งตัวลงนั่ง ทำปากยื่น จำได้ว่าเดรกชอบแกล้งเธอ แหย่เธอ แถมยังหาว่าเธอแก่แดดด้วย แค่เพื่อนผู้ชายมาส่งที่บ้านก็หาว่าเธอมีแฟน ต่อไปเรียนไม่จบต้องท้องโย้ก่อนแน่ๆ ปากเขาร้ายยิ่งกว่ากรรไกร เธอน่ะเกลียดขี้หน้าเขาที่สุด
“ชิ! แต่งงานก็ไม่ให้นอนด้วยหรอก จะเตะให้ตกเตียงเลย” พอคิดดังนั้นก็ทำปากยื่นเข้าไปอีก เขาตัวใหญ่กว่าเธอมาก ไม่ใช่เธอหรอกมั้งที่จะเตะเขาตกเตียง เขาต่างหากจะเตะเธอตกเตียง
แพรดาวลุกจากหน้ากระจก เธอเหนียวและร้อนอยากจะอาบน้ำ เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าก็เห็นข้าวของที่ถูกจัดเอาไว้เรียบร้อย มีเสือผ้าที่ไม่ใช่ของเธออยู่ในตู้ด้วย ทำให้เด็กสาวขมวดคิ้วไปมา
“เอ๊ะ! เสื้อผ้าใครนะ หรือผู้หญิงของเขา ชิ! ให้เรามาใช้ของร่วมกับยายโนตมพวกนั้นเหรอ” เธอกระแทกประตูตู้ปิดอย่างหงุดหงิด ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหงุดหงิดอะไรกันแน่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
“ใครน่ะ” เธอคิดว่าเดรกอาจจะตามมาหาเรื่อง เลยตะโกนถามออกไป
“คุณเดรกให้ดิฉันมารับใช้คุณแพรดาวค่ะ” แพรดาวเปิดประตูออกมาก็เจอกับสาวใช้อยู่ในชุดยูนิฟอร์มของบ้าน บ้านของเดรกร่ำรวยมาก อันนี้เธอพอจะรู้มานานแล้ว เขามีลูกน้องและคนรับใช้เยอะมาก เพราะบ้านหลังใหญ่
“ดิฉันชื่อเพ็ญศิริค่ะ”
“ไม่ต้องแทนตัวว่าดิฉันหรอกค่ะ แทนตัวว่าพี่ก็ได้ แพรไม่ได้ถือยศถืออย่าง อีกทั้งไม่ใช่เจ้านายของพี่ด้วย”
“แต่...” เพ็ญศิริมีสีหน้าอึกอัก เดรกสั่งให้เธอดูแลคนตรงหน้าให้ดีๆ ในฐานะเจ้านายคนหนึ่ง เธอจะไปตีต้นเสนอเรียกน้องหรือแทนตัวเองว่าพี่ดูจะไม่เหมาะ
“ทำไมล่ะจ๊ะ”
“เดี๋ยวคุณเดรกจะดุเอาค่ะ”
“เขาไม่กล้าหรอกค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาแพรรับผิดชอบเอง ดีไหมคะ”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ค่ะ เอาตามนี้นะคะ ไม่งั้นแพรก็จะไม่คุยด้วย” เธอยื่นคำขาด
“ได้ค่ะๆ คุณแพรต้องการอะไรบอกพี่ได้เลยนะคะ”
“เรียกแพรเฉยๆ ก็ได้ ไม่ต้องใส่คุณหรอกค่ะ มันจั๊กจี้พิกล” เธอทำท่าขนลุก เพราะเป็นแค่คนธรรมดา ไม่เคยมีใครมาเรียกคุณสักครั้ง จู่ๆ มีคนมาเรียกก็เลยรู้สึกแปลกๆ
“ไม่ได้หรอกค่ะ ให้พี่แทนตัวเองว่าพี่ก็ต้องให้เรียกคุณนะคะ ถ้าทำตัวสนิทจนเกินไป ไม่เคารพกันเดี๋ยวพี่จะเดือดร้อนค่ะ”
“โอเค ก็ได้ค่ะ” เธอไม่อยากเซ้าซี้มากเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของอีกฝ่าย
“คุณแพรต้องการอะไรไหมคะ พี่จะได้รับใช้”
“แพรไม่ต้องการอะไรค่ะ แค่อยากจะอาบน้ำเท่านั้น พี่เพ็ญไปทำงานเถอะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ผสมน้ำให้อาบนะคะ”
“ผสมน้ำอะไรคะ” เธอเลิกคิ้วมอง
“ผสมน้ำให้อาบค่ะ ให้คุณนอนแช่จะได้สบายตัว”
“โอ๊ย! ยุ่งยากค่ะ อาบกับฝักบัวก็ได้ แพรอยู่บ้านใช้ขันอาบกับโอ่งเองค่ะ” เธอพูดแล้วหัวเราะคิกๆ เพ็ญศิริถึงกับเลิกคิ้วมอง ตอนแรกนึกว่าผู้หญิงของเจ้านายคนนี้จะเจ้ายศเจ้าอย่างเสียอีก แต่ที่ไหนได้ กลับยังเป็นเด็ก นิสัยก็เป็นกันเอง ไม่ถือตัว แถมยังยิ้มง่ายเสียด้วย แตกต่างจากผู้หญิงของเจ้านายทุกคนที่ผ่านมา
“จะเอาแบบนั้นเหรอคะ” เพ็ญศิริถามอย่างไม่แน่ใจ
“งั้นนอนแช่น้ำก็ได้ค่ะ เห็นหน้าพี่เพ็ญแล้วสงสารจัง” เธอเห็นสีหน้าลำบากใจของอีกฝ่ายก็ตามใจในที่สุด
“รอแป๊บนะคะ” เพ็ญศิริยิ้มทันทีรีบเข้าห้องน้ำไปเตรียมน้ำเอาไว้ให้อีกฝ่ายอาบ
“พี่เพ็ญมาทำงานที่นี่นานแล้วเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ ก็หลายปีแล้ว ทำงานที่นี่สวัสดิการดี เจ็บไข้ไม่สบายพวกคุณๆ ก็ดูแลดีค่ะ อาหารการกิน เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ที่พักก็สะดวกสบายค่ะ”
“ดีจังเลยนะคะ” แพรดาวพยักหน้าแล้วยิ้ม
“มีอะไรสงสัยถามพี่ได้นะคะ คุณเดรกให้พี่มาดูแลคุณแพรอย่างใกล้ชิด เรียกใช้พี่ได้ตลอดเลยค่ะ”
“บ้านหลังนี้ใหญ่มากๆ เลยนะคะ ทำความสะอาดวันเดียวหมดไหมคะนี่” บ้านหลังนี้ใหญ่จริงๆ ห้องก็เยอะแยะไปหมด พื้นก็สะอาดสะอ้านแทบลงไปนอนได้เลย ดีกว่าบ้านของเธอเป็นร้อยเท่าพันเท่า แต่เธอกลับรู้สึกว่าการอยู่บ้านตัวเองอบอุ่นมากกว่า แม้จะหลังเล็กแต่ก็คือบ้านของเธอเอง คิดมาตรงนี้ก็นึกเศร้าใจ มันถูกถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง เจ็บใจนัก ไม่คิดเลยว่ากฎหมายจะเอาผิดพวกมันไม่ได้
“ที่นี่มีสาวใช้หลายคนค่ะ ลูกน้อง คนสวน คนขับรถ ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะว่าจะทำความสะอาดไม่ทั่ว” เพ็ญศิริบอกยิ้มๆ
“เจ้าบิวตี้ เอ่อหมายถึงสุนัขของแพร ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ”
“ให้กินอาหารแล้วค่ะ คุณเดรกบอกให้ดูแลอย่างดี จัดที่พักให้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ค่อยโล่งใจหน่อย มันคงไม่ทำร้ายใครใช่ไหมคะ”
“ไม่ค่ะ มันเชื่องออกค่ะ”
“มันแสนรู้น่ะสิไม่ว่า คงรู้ว่าที่นี่เป็นบ้านใหม่”
“พี่ไม่ค่อยชอบสุนัข แต่ชอบแมวมากกว่า”
“แพรกับพี่ชายชอบสุนัขมากๆ ค่ะ” พอพูดถึงพี่ชาย เธอก็หน้าหมองลงทันที
“คุณแพรเป็นอะไรคะ”
“ปะ... เปล่าค่ะ เอ่อ... ปกติห้องนี้เป็นห้องใครเหรอจ๊ะพี่เพ็ญ” แพรดาวรีบเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากเล่าเรื่องพี่ชายให้ใครฟังตอนนี้ เพราะเธอเองก็ไม่ไว้ใจใคร จากสถานการณ์ที่เจอมาหนักหนาสาหัสมาก
“ไม่มีเจ้าของค่ะ ห้องนี้เป็นห้องที่คุณเดรกเพิ่งสั่งให้จัดให้คุณแพรดาวน่ะค่ะ ก่อนที่คุณแพรดาวจะมาถึง”
“แล้วทำไมมีเสื้อผ้าข้าวของอยู่เต็มล่ะจ๊ะ”
“คุณเดรกสั่งให้ซื้อมาเองค่ะ”
“พี่เดกรสั่งมาเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ”
“เปล่าจ้ะ” แพรดาวคาดไม่ถึงว่าเดรกจะจัดการให้เธอถึงขนาดนี้ ห้องนี้เป็นโทนสีฟ้า แล้วตกแต่งอย่างน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม สีชมพูอ่อนหวาน ผ้าปูเตียงเป็นสีชมพูอย่างที่เธอชอบ เสื้อผ้าเครื่องใช้