3
Chapter 3
“แถวนั้นเป็นต่างจังหวัดครับ ผมกับลูกน้องออกตามหาแต่ไม่เจอ”
“ไม่เจอก็คือมันอาจจะยังไม่ตาย ไม่ว่ายังไงแกต้องลากคอมันมาให้ได้ มันรักน้องสาวของมันมาก เอกสารอาจจะอยู่กับนังนั่น แกให้คนแบ่งออกไปเป็นสองกลุ่ม หามันให้เจอทั้งพี่ทั้งน้อง”
“เรื่องไอ้พิพัฒน์ไม่ใช่ปัญหา แต่น้องสาวของมัน”
“ทำไม”
“มีคนมาช่วยเอาไว้ ดูท่าจะไม่ใช่กระจอกด้วยครับ มีทั้งรถกันกระสุน ระเบิด ปืน อุปกรณ์ครบ ลูกน้องเป็นกระพรวน”
“มันจะเป็นใครหน้าไหนก็ช่าง แกต้องไปลากตัวนังนั่นมาให้ได้ ถ้าแกทำไม่ได้ แกเตรียมตัวตายได้เลย” สุริยันต์กระชากคอเสื้อลูกน้อง ก่อนจะผลักจนกระเด็น
“ครับนาย” กัมปนาทรับคำด้วยน้ำเสียงกริ่งเกรง
สุริยันต์ยกบรั่นดีขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว เขาโกรธจนแทบฆ่าคน เมื่อรู้ว่าโดนหลอกมาหลายปี มันขโมยเอกสารสำคัญและข้อมูลที่จะเอาผิดเขาไปได้อย่างแนบเนียน เขาไม่มีวันปล่อยพวกมันไปแน่
“นี่ห้องนอนของเธอ พออยู่ได้ไหม”
“อยู่ได้ค่ะ” เธอตอบเสียงสะบัด ใช่อยากจะอยู่กับเขานักหรอก
“ทำเหมือนไม่อยากอยู่ที่นี่”
“ก็ไม่อยากอยู่น่ะสิคะ”
“อุตส่าห์ตามไปช่วย ให้โดนยิงไส้แตกซะก็ดี”
“ปากร้าย ทำไมไม่ปล่อยให้โดนยิงไปซะล่ะ”
“ถ้าพี่ชายเธอไม่ฝากเอาไว้ พี่ปล่อยให้โดนยิงไส้แตกไปแล้ว”
“ก็ไม่ได้อยากอยู่นักหรอก” เธอน้อยใจที่เขาพูดเหมือนเธอเป็นตัวถ่วง ร่างบางหันไปคว้ากระเป๋าเดินหนีออกจากห้อง
“นั่นจะไปไหน” เดรกคว้าแขนคนตัวเล็กเอาไว้
“จะไปจากที่นี่ จากคนปากร้าย ไม่ต้องมาทำสีหน้ารำคาญใส่เลย บิวตี้อยู่ไหน จะไปพร้อมกัน”
“ที่ฉันรำคาญก็เพราะว่าเธอดื้อ มานี่เลย” เดรกดึงร่างเล็กเอาไว้ ไม่พูดเรื่องสุนัขแสนรักของเธอที่เขาพาไปให้สาวใช้ช่วยดูแลและให้อาหาร ดูท่าทางมันจะแสนรู้เอามากๆ จึงรู้ว่าใครดีใครร้าย และไม่กัดหรือทำร้ายคนอื่นๆ ในบ้านของเขา แพรดาวสะบัดตัวจะหนีท่าเดียว เขาเลยตามไปกอดเอาไว้จากทางด้านหลัง
“อุ๊ย! ปล่อยนะคนบ้า” เธอกับเขาพูดกันไม่เกินประโยคก็ชอบเถียงกัน จำได้ว่าตอนเขาไปหาพี่ชายที่บ้าน จะชอบหาเรื่องเธออยู่เรื่อย ชอบแหย่ให้โกรธ ชอบพูดแรงๆ เธอล่ะเกลียดขี้หน้าเขานัก
“ไม่ปล่อย จะทำไมยายเด็กดื้อ” เดรกยิ่งกอดรัดแกล้งคนที่เอาแต่ทำเสียงขัดใจ
“ปล่อยเลย จะฟ้องพี่พัฒน์ว่าพี่เดรกรังแก”
“ก็ฟ้องสิ” เดรกพูดยียวน ก่อนจะหอมแก้มนวลฟอดใหญ่
“อุ๊ย! หอมแก้มเค้าทำไม คนหน้าไม่อาย ใครอนุญาต” เธอยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเอง หันมาทุบเขาไม่ยั้ง
“โอ๊ย! เจ็บนะ โอ๊ย!” เดรกถอยหลังจนไปชนกับขอบเตียง ก่อนที่เขาจะล้มลงเพราะร่างเล็กโถมเข้าตีไม่ยั้งแรง
“ว้าย!” แพรดาวร้องอย่างตกใจเมื่อล้มลงบนร่างสูง เธอเบิกตากว้างเมื่อใบหน้าของตัวเองห่างกับเขาแค่คืบเดียว
“จะไปไหนยายเด็กดื้อ” เดรกนึกสนุกเขาพลิกร่างที่เสียหลักล้มลงบนตัวเขาลงด้านล่าง ก่อนจะขึ้นคร่อมทับกักเธอเอาไว้ใต้ร่าง
“ปล่อยแพรนะพี่เดรก ปล่อยสิ” เธอหลับตาปี๋ จัดการผลักร่างสูงออกห่าง แต่เขากลับไม่ขยับเขยื้อนเลย อกกว้างของเขายิ่งกว่าหินผาเสียอีก
“ไม่ปล่อยจะทำไม”
“จะทำอะไรน่ะ” เธอเบี่ยงหลบเมื่อเขาก้มหน้าลงมาหา
“จะจูบคนปากดี”
“เรื่องอะไรมาจูบเค้า อื้อ...” แพรดาวยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง ในขณะที่เดรกแนบริมฝีปากลงมา เขาจึงได้แค่จูบหลังมือของเธอ ใช้หนุ่มบดจูบหลังมือของเธอหนักๆ มองด้วยสายตาที่ทำให้คนใต้ร่างร้อนๆ หนาวๆ
“ทำอะไรกันน่ะ” เสียงเข้มของผู้มาใหม่ทำให้เดรกดีดตัวขึ้นจากร่างเล็กๆ แทบไม่ทัน
“มัม เอ่อ... แด๊ดก็มาด้วยเหรอครับ” เดรกยกมือขึ้นลูบท้ายทอยไปมา ซวยแล้ว! ซวยที่สุดในชีวิต แค่เห็นสายตาของมารดา เขาก็แทบเอาหัวมุดพื้น
ทำไมถึงโผล่กันมาตอนนี้นะ!
“เดรกทำอะไรน้อง” ดวงดาวคาดคั้นเสียงหนัก ท่าทีเอาเรื่องจนชายหนุ่มนึกหวาด เขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่านี่คือโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่
“คือว่าผม ไม่ได้ทำครับ”
“เดรก ใครสั่งใครสอนให้ลูกไม่เป็นสุภาพบุรุษแบบนี้ แพรดาวเป็นน้องของเพื่อนสนิทเรานะ ลวนลามน้องในห้อง น้องเสียหายแบบนี้ลูกจะทำยังไง” ดวงดาวถามเสียบเฉียบ มาดประดุจดั่งนางพญาที่เดรกและบิดาต้องสยบแทบเท้า และไม่เคยหืออือขัดใจได้เลยสักครั้ง
“คือว่า มันไม่ใช่อย่างที่มัมคิดนะครับ”
“แด๊ดก็เห็น” ครูซกอดอกมองลูกชาย สายตาของบิดาทำให้เดรกลอบกลืนน้ำลาย คราวนี้เขาไม่รอดแน่ บิดามารดาของเขาเอาจริง นี่ถ้าลูกพี่ลูกน้องของเขาอย่างรัชวินทร์และชัชวินทร์รู้เข้า เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนนะ
นี่เขาพลาดอย่างมหันต์เลยใช่ไหม!!!
“ลงไปพบมัมข้างล่าง เรามีเรื่องต้องพูดกัน หนูแพรด้วยนะลูก ป้าจะไม่ยอมให้หนูโดนพี่เขารังแกฝ่ายเดียวแน่นอน”
แน่ะ! พูดกับลูกตัวเองเสียงแข็งเหมือนโกรธกันมาร้อยชาติ แต่กับยับเด็กแสบ พูดเสียงอ่อนเสียงหวาน เค้าลางความยุ่งยากกำลังมาเยือนเขาแล้ว เดรกรับรู้โดยสัญชาตญาณ แต่... มันก็อาจจะดีก็ได้ ความคิดของเดรกตีวุ่นกับหมดในหัว
“เอ่อ...” แพรดาวได้แต่ทำตาปริบๆ เพราะไม่คิดว่าจะเจอบิดามารดาของเดรกที่นี่ ท่านรู้จักเธอดีเพราะเธอเป็นน้องสาวของพิพัฒน์เพื่อนสนิทของเดรก แต่ชายหนุ่มบอกเธอว่าที่บ้านไม่มีใคร บิดามารดาของเขาอยู่ต่างประเทศนี่นา หรือว่าท่านกลับมากะทันหันโดยที่เขาเองก็ไม่รู้
สีหน้าที่แสนจะจริงจังของบิดามารดาทำให้เดรกต้องนั่งตัวตรง ส่วนแพรดาวนั่งตัวลีบอยู่อีกด้านซึ่งเป็นโซฟาคนละตัวกับชายหนุ่ม
“มัมจะไม่อ้อมค้อมให้มากความนะ ในเมื่อเห็นกันอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร”
“อะไรเป็นอะไรคืออะไรครับมัม ถ้าเป็นเรื่องที่มัมเข้าใจผิด ผมอธิบายได้” เดรกอยากอธิบาย เขาเห็นสีหน้าของเด็กสาวแล้วนึกเห็นใจ แค่ล้มลงทับตัวแล้วเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แพรดาวเองก็คงยังไม่พร้อม เขาไม่อยากบังคับจิตใจใคร
“ไม่ผิดแน่ มัมเห็นว่าเดรกจูบน้อง น้องเสียหายเต็มๆ นี่ถ้าเข้าไปไม่ทัน ไม่ทำอย่างอื่นอีกเหรอ”
“คุณป้าคะ คือว่า...” แพรดาวจะบอกว่าแค่จูบ แต่เธอก็ยังพูดไม่ทันจบประโยค
“หนูแพรไม่ต้องคิดมากจ้ะ ป้าเข้าใจว่าหนูลำบากใจ แต่หนูเสียหายเต็มๆ ยังไงพี่เขาก็ต้องรับผิดชอบหนูนะจ้ะ หนูเองก็คงไม่ใช่หัวสมัยใหม่จนไม่รักนวลสงวนตัวหรอกนะ”
“คือว่าหนู...” แพรดาวถึงกับพูดไม่ออก ก็โดนดักคอมาจนถึงขนาดนี้แล้ว
“หนูต้องแต่งงานกับเดรกให้เร็วที่สุด”
“คุณป้าคะ คือว่า...” แพรดาวผุดลุกขึ้นอย่างตกใจ รับผิดชอบนี่คือการแต่งงานเลยเหรอ มันเร็วไป เธอไม่พร้อม เธอยังมีอะไรต้องทำอีกมากมาย จู่ๆ จะให้มาแต่งงานกับคนที่มีเรื่องไม่ลงรอยกันออกบ่อยๆ มันต้องเป็นเรื่องตลกแน่ๆ หรือเธอจะหูฝาดไป
“หนูต้องอยู่บ้านเดียวกับเดรก เสียหายเต็มๆ เมื่อกี้ก็เสียหาย ถึงป้าจะแต่งงานกับพ่อของเดรก แต่ป้าก็คือคนไทย รับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ อีกอย่างเรื่องของหนูป้าก็รู้หมดแล้ว เดรกจะปกป้องหนูได้ เวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน เป็นสามีภรรยากันก็จะได้ไม่ตะขิดตะขวงใจ เดรกว่าไงลูก” ประโยคสุดท้ายดวงดาวหันไปถามบุตรชายที่นั่งเงียบ สีหน้าเคร่งเครียดอยู่อีกด้าน
“ครับมัม ผมยังไงก็ได้ แล้วแต่เค้าเถอะครับ” เดรกหันไปมองหน้าเด็กสาวที่เอาแต่ตกตะลึง แพรดาวเองก็ไม่คาดคิดว่าเดรกจะพูดออกมาแบบนี้