บท
ตั้งค่า

บทที่24 เทพธิดาซวนเฉวียน

ตอนนี้จ้าวเทียนกับคนส่วนใหญ่ในตระกูลลี่ได้กลับเข้าไปด้านในแล้ว ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็กำลังรอรถพยาบาลมารับไปรักษา

มองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ลี่เหยาเหยารู้สึกเจ็บปวดภายในส่วนลึกของจิตใจ

ก่อนหน้านี้เธอคิดมาเสมอว่าในโลกยุคปัจจุบันที่แสนสงบสุข การฝึกศิลปะการต่อสู้เป็นเพียงเรื่องไร้ประโยชน์

แท้จริงแล้วนั่นเป็นสิ่งที่เธอเข้าใจผิดมาตลอด สิ่งที่เห็นมันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น โลกนี้ไม่เคยสงบสุขเลย การต่อสู้เข่นฆ่านั้นมีอยู่ทุกที่ทุกเวลา เราจะได้รู้ก็ต่อเมื่อมันเกิดขึ้นกับตัวเราเอง

เมื่อถึงตอนนั้นเราถึงจะได้เห็นถึงเบื้องหลังอันโหดร้ายของโลกใบนี้…

วันนี้ เมื่อเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอเอง ชื่อเสียงเงินทองที่มีมันไม่สามารถช่วยชีวิตคนที่เธอรักได้เลย

หากวันนี้จ้าวเทียนไม่อยู่ที่นี่ล่ะ…

ตระกูลของเธอ…

ครอบครัวที่เธอรัก…

ทั้งหมดคงถูกลบหายไป…

สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงแค่เศร้าเสียใจและมองดูมันเกิดขึ้นเท่านั้นเหรอ…

เธอรู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน

….

“ เหยาเหยา…ทำไมพวกเรากับเขาถึงเหมือนอยู่คนละโลกกันเลย ” กงเสี่ยวเหมยที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดขึ้นมาเบาๆ ให้ได้ยินกันเพียงสองคน

“ พี่…พี่เสี่ยวเหมยหมายถึงอะไร ” เธอแกล้งไม่เข้าใจ แล้วถามกลับไป

“ พี่รู้นะ…เธอก็รู้สึกเหมือนกับพี่ ” กงเสี่ยวเหมยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ตัวเธอนั้นฝึกฝนการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ภาพเหตุการณ์ทำนองนี้เธอเคยพบเจอมาหลายครั้งแล้ว ทำให้ตั้งสติได้ไวกว่าลี่เหยาเหยา

เมื่อได้ยินแบบนั้น ลี่เหยาเหยาก็ได้หันกลับมามองใบหน้าของหญิงสาวด้านข้าง เธอรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกบางอย่างที่สำคัญมากกับเธอ

“ รู้ไหม…ครั้งแรกที่พี่ได้รับรู้เรื่องราวพวกนี้ ตอนนั้นคนในตระกูลของพี่บาดเจ็บล้มตายไปหลายคน มันมากกว่าที่เธอเห็นในวันนี้อีก ”

“ ในตอนนั้นหลังจากที่เรื่องราวทุกอย่างจบลง ตัวพี่นั้นเศร้าเสียใจอยู่หลายวัน ภายในใจได้แต่กล่าวโทษโลกใบนี้ที่มันโหดร้าย ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับตัวพี่ ”

“ จนกระทั่งวันหนึ่ง…พี่ถึงได้รู้ ” กงเสี่ยวเหมยหลับตานึกถึงภาพเหล่านั้นในอดีต แล้วพูดต่อ

“ โลกของพวกเรานั้นแตกต่างจากคนธรรมดา พวกเราที่เกิดมาในตระกูลใหญ่ มีเส้นทางให้เลือกแค่สองทาง ”

“ ทางแรกคือการหลบหนี…ละทิ้งการต่อสู้แย่งชิงตัดขาดกับตระกูล แล้วหันไปใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา เธอก็จะมีชีวิตที่สงบสุข ไม่ต้องกลัวว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น”

ลี่เหยาเหยาเมื่อได้ยินแบบนั้นแววตาเธอก็เปลี่ยนไปทันที หากเธอเลือกเส้นทางนี้ แล้วครอบครัวของเธอล่ะ มันเป็นเส้นทางที่เห็นแก่ตัวมาก

“ ทางที่สองคือยอมรับในโลกที่โหดร้ายนี้ แล้วทำตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น เพื่อในวันหนึ่งข้างหน้าเราจะสามารถปกป้องครอบครัวของเราได้ ”

“ ตัวพี่ในตอนนั้นมีอายุสิบสองปี เมื่อพี่ได้ตัดสินใจเลือกแล้ว ก็หันมาเริ่มฝึกฝนการต่อสู้อย่างจริงจัง แม้ว่ามันอาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ช้าไปซักหน่อย แต่อย่างน้อยตัวพี่ในตอนนี้ก็สามารถดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องรอแต่ให้คนอื่นมาปกป้อง ” กงเสี่ยวเหมยพูดด้วยแววตาเป็นประกาย

“ ฉัน…ฉันอยากเข้มแข็งขึ้น ” ลี่เหยาเหยาพูดขึ้นด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว เธอรู้สึกโล่งใจมากที่ได้พูดประโยคนี้ออกไป

ที่จริงแล้วเธอนั้นเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจที่เด็ดเดี่ยวมาก ไม่อย่างนั้นในตอนอายุ16ปี เธอคงไม่กล้าตัดสินใจออกจากตระกูลไปทำตามความฝันของตัวเอง

ในวันนี้เธอก็ได้เป็นซุปเปอร์สตาร์อย่างที่ตั้งใจไว้แล้ว เธอสามารถทำในสิ่งที่คนอื่นนับล้านคนทำไม่สำเร็จ

งั้นตอนนี้…

เธอก็แค่ต้องทำมันอีกครั้ง…

เธอมีต้นทุนที่ได้เปรียบกว่าในอดีตมาก ด้วยชื่อเสียงและเงินทองที่เธอสะสมมาตลอด…

ลี่เหยาเหยาได้หลับตาลง

ภาพการต่อสู้ของโม่ซินหยาน ปรากฏขึ้นในความคิดเธอเป็นฉากๆ เธอคนนั้นมีพลังอันแข็งแกร่ง ความสามารถอันไร้คู่ต่อสู้แบบที่เธอไม่เคยพบมาก่อน และภาพสุดท้ายที่เธอนึกถึง คือภาพของจ้าวเทียนที่ก้าวเข้ามาปกป้องทุกคนในตระกูลของเธอ

เมื่อลี่เหยาเหยาลืมตาขึ้นมา แววตาของเธอนั้นก็เปล่งประกายความมุ่งมั่นอันแรงกล้าออกมา

เธอพบแล้ว…

เป้าหมายของเธอ…

‘ ฉันต้องเป็นปรมาจารย์ให้ได้…เพื่อที่จะได้ต่อสู้เคียงข้างเขา ปกป้องคนที่ฉันรัก! ’

วิ้งงงง!

เมล็ดพันธุ์แห่งทวยเทพก็ได้ตื่นขึ้นทันที มันได้ตอบสนองต่อเจตจำนงของเธอที่ต้องการจะแข็งแกร่งขึ้น

!!

ลำแสงสีทองพุ่งทะลุท้องฟ้า ลงมาปกคลุมตัวของลี่เหยาเหยาเอาไว้ พลังแห่งเทพสวรรค์โบราณ ได้ถูกดึงดูดเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ร่างของลี่เหยาเหยานั้นลอยอยู่เหนือพื้นประมาณ2เมตร เธอตกอยู่ในภวังค์ ไม่ได้รับรู้เรื่องราวรอบๆตัวแม้แต่น้อย

“ นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น” กงเสี่ยวเหมยมีสีหน้าแตกตื่น เธอพยายามจะเข้าไปช่วยแต่ก็ถูกพลังอันมหาศาลผลักออกมา

ฟุ่บ!

จ้าวเทียนปรากฏตัวขึ้นทันที เพียงแค่เขาวาดฝ่ามือไปด้านหน้าเบาๆ เสาลำแสงสีทองก็หดเล็กลงมา กลายเป็นลูกพลังงานวงกลมสีทอง

“ นี่มัน…การยอมรับโดยสมบูรณ์ ” จ้าวเทียนรู้สึกพูดไม่ออก เขาเคยตั้งใจว่าวันหนึ่งเมื่อเขาไปถึงขอบเขตเซียนของโลกใบนี้ แล้วจะรับเอาเมล็ดพันธุ์แห่งทวยเทพไป มันมีส่วนช่วยให้เขาทำสิ่งต่างๆได้มากมาย

ถึงขนาดมีความคิดที่จะเตรียมสิ่งตอบแทนให้ลี่เหยาเหยามากมายในอนาคต

แต่นี่คืออะไร หากมันเลือกที่จะหลอมรวมกับลี่เหยาเหยาแบบสมบูรณ์แบบนี้ เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว แผนการที่วางไว้ในอนาคตกลับกลายเป็นไร้ประโยชน์

‘ ฉันอุตส่าห์ใช้ปราณหมื่นตะวันฟื้นฟูแกขึ้นมา แต่แกกลับทำกับฉันแบบนี้ ’

สายตาจ้าวเทียนเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาหันไปบอกกับคนอื่นที่ยืนมุงอยู่รอบๆ

“ กันบุคคลภายนอกออกไป ห้ามไม่ให้ใครมารบกวนเด็ดขาด ”

“ ถ้าใครฝ่าฝืนก็ฆ่าได้เลย! ”

ผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อได้เห็นความเด็ดขาดของจ้าวเทียน ทุกคนรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน

แม้แต่ตอนต่อสู้กับปรมาจารย์ก่อนหน้านี้ จ้าวเทียนยังไม่จริงจังขนาดนี้

“ ไม่ต้องห่วง…ฉันรับรองจะไม่ให้ใครเข้ามาขัดขวางแน่นอน ” ลี่สวีฉิงรับปากด้วยเสียงจริงจัง เธอได้รับการรักษาจากจ้าวเทียนจนฟื้นฟูอาการบาดเจ็บมาได้8ส่วนแล้ว

จ้าวเทียนเมื่อได้ยินดังนั้นก็กล่าวคำขอบคุณออกไป จากนั้นได้ยื่นมือไปสัมผัสกับลูกพลังสีทองนั้น

‘ ขอฉันสั่งสอนเทพโบราณที่ไม่รู้ความตนนี้หน่อยเถอะ! ’

วูป!

ดวงจิตเขาหายเข้าไปในดวงแสงทันที…

ย้อนกลับไปในตอนที่เมล็ดพันธุ์พึ่งตื่นขึ้น

ลี่เหยาเหยาตอนนี้ ตัวเธอได้ยู่บนวิหารขนาดใหญ่ ที่ลอยอยู่ในทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่ในจักรวาล

เบื้องหน้าของเธอมีแท่นบรรทมขนาดใหญ่ มันยาวเกือบร้อยเมตร

“ ในที่สุดเราก็ได้พบกัน…ลูกหลานข้า” เสียงอ่อนโยนของหญิงสาวคนหนึ่ง ดังขึ้นในความคิดของเธอ

!!

เมื่อเธอเงยหน้ามองขึ้นไป ก็ได้พบกับหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงามแบบที่เธอไม่เคยพบเห็นมาก่อน

เป็นความงดงามที่มาพร้อมกับความสูงส่ง ไม่ว่าสตรีคนใดที่ได้เห็นก็ต้องก้มหน้าลงด้วยความอับอาย แม้แต่ตัวเธอที่มีความมั่นใจในหน้าตาของตัวเอง ก็ยังต้องยอมรับว่าด้อยกว่า

ขนาดร่างกายของหญิงสาวนางนั้นใหญ่โตเป็นอันมาก หากเธอลุกขึ้นยืนคงจะมีความสูงเกือบร้อยเมตร เธอสวมชุดแต่งกายแบบจีนโบราณสีขาวดูงดงาม เธอนอนอยู่บนแท่นบรรทมด้วยท่วงท่าเกียจคร้าน

“ คุณเป็นใคร…แล้วตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน ” ลี่เหยาเหยาถามขึ้นด้วยความสับสน แต่เธอก็พอสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีเจตนาร้าย

“ ข้าคือเทพธิดาซวนเฉวียน…สถานที่แห่งนี้คือภายในเมล็ดพันธุ์แห่งทวยเทพที่อยู่ในตัวของเจ้า ”

“ ข้ารู้ว่าเจ้ามีคำถามมากมาย…ไว้หลังจากที่พวกเราหลอมรวมกัน เจ้าจะเข้าใจทุกอย่างเอง ตอนนี้มีอยู่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดที่เจ้าต้องตัดสินใจ ”

“ ลี่เหยาเหยา…เจ้าต้องการสืบทอดพลังของข้า เทพสวรรค์โบราณหรือไม่ ” เทพธิดาซวนเฉวียน ถามขึ้นด้วยเสียงจริงจัง

เธอเฝ้าดูหญิงสาวคนนี้มานานตั้งแต่เกิด ทั้งนิสัยใจคอ ความมุ่งมั่นตั้งใจ เธอเหมาะสมที่สุดแล้ว ในบรรดาผู้สืบทอดทั้งหมดที่เธอเคยพบมาเป็นเวลานับล้านปี

“ ฉัน…ฉันจะเป็นอย่างไรหลังจากสืบทอดพลังของคุณ ” เธอถามขึ้นด้วยความกังวล

“ นี่เจ้ากำลังคิดว่าจะถูกข้าครอบงำอยู่ใช่หรือไม่…ข้าอ่านความคิดของเจ้าได้ ไม่ต้องกลัวหรอกลูกหลานของข้า หลังจากที่เจ้ารับสืบทอดพลังของข้า เราทั้งคู่นั้นจะหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์ ”

“ ดวงจิตของข้าในตอนนี้ก็จะสลายหายไป เจ้าจะได้รับประสบการณ์และความรู้ทั้งหมดของข้า นั่นรวมไปถึงความแข็งแกร่งที่เจ้าต้องการด้วย ข้าขอรับรองว่าเจ้าฝึกฝนไปไม่เกิน10วัน พลังของเจ้าจะเหนือกว่าปรมาจารย์หญิงที่เจ้าเจอในวันนี้อีก”

“ นั่นรวมไปถึงเจ้าเด็กบ้าจ้าวเทียนที่เจ้าหลงรักนั่นด้วย ” เมื่อเอ่ยชื่อจ้าวเทียน น้ำเสียงเทพธิดามีอารมณ์หมั่นไส้เล็กน้อย

“ คุณรู้จักจ้าวเทียนด้วยเหรอ ” ลี่เหยาเหยาพูดออกมาด้วยความเขินอาย ตอนนี้ตัวเธอนั้นมีความรู้สึกว่าสิ่งที่เทพธิดาตรงหน้าบอกมานั้นเป็นความจริงทุกอย่าง อีกฝ่ายมีเจตนาที่ดีต่อเธอ

“ เจ้าต้องระวังชายคนนี้ให้ดี ตอนที่เขาพบเจอดวงจิตของข้า เขาก็แอบวางแผนช่วงชิงเมล็ดพันธุ์แห่งทวยเทพไปจากเจ้าแล้วรู้หรือไม่ ” เทพธิดาพูดด้วยความโมโห ผู้สืบทอดของเธอนั้นไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

“ เจ้าจำวันที่ชายคนนั้นรักษาข้อเท้าให้เจ้าได้ไหม เพราะตัวเขาได้ฝึกฝนวิชาหมื่นตะวันของพี่ชายข้า ทำให้รับรู้ถึงเมล็ดพันธุ์ในตัวเจ้าได้ ในตอนนั้นเขาก็ได้ทิ้งปราณของตัวเองไว้ หลังจากนี้ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหน เขาจะสามารถหาเจ้าเจอได้อย่างง่ายดาย ”

เมื่อได้ฟังที่เทพธิดาบอกออกมา ลี่เหยาเหยาก็ยิ่งเขินหนักเข้าไปใหญ่ เพราะคำพูดที่บอกว่าไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนจ้าวเทียนก็สามารถหาเธอเจอได้อย่างง่ายดาย ความหมายคือจ้าวเทียนกำลังสนใจเธอใช่ไหม

บนแท่นบรรทมเทพธิดาที่สามารถอ่านใจของลี่เหยาเหยาได้ เธออยากจะเอาเท้าก่ายหน้าผาก

ช่างเถอะ…ถึงอย่างไรชายคนนั้นก็เป็นคนดี ตัวเธอสัมผัสได้ เธอก็เลยไม่ได้ห้ามไม่ให้ผู้สืบทอดของเธอไปรักจ้าวเทียน แต่เธอแค่เตือนให้ระวังไว้

ซึ่งลี่เหยาเหยาเองก็เข้าใจสิ่งที่เทพธิดาสื่อออกมา และจากการกระทำทุกอย่างของจ้าวเทียนที่เธอเห็น อีกฝ่ายนั้นไม่ใช่คนที่เห็นแก่ตัว เธอเชื่อว่าจ้าวเทียนไม่มีทางคิดร้ายกับเธอ

!!

แกร่กๆ

หืม

“ การสั่นสะเทือนแบบนี้…มีคนต้องการจะฝ่าเข้ามา ” เทพธิดาพูดขึ้นเมื่อรับรู้ถึงอะไรบางอย่าง

ชิ้ง !

สายตาเธอมองออกไปทางทะเลดวงดาวด้านบน

“ ฮ่า ฮา ไอเด็กนี่กล้าดี…ดูเหมือนคนรักของเจ้าจะเข้ามาตามแล้ว ดีเลยข้าขอสั่งสอนมันให้เจ้าเลยก็แล้วกัน ต่อไปในอนาคตมันจะได้ทำตัวดีๆกับเจ้า ” เทพธิดาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เธอลุกขึ้นมาจากแท่นบรรทมด้วยท้วงท่าวางอำนาจ พลังของเทพสวรรค์โบราณระเบิดออกมาทันที ร่างของเธอขยายใหญ่กว่าเดิมนับสิบเท่า

ลี่เหยาเหยาเองที่ได้เห็นก็อดกังวลแทนจ้าวเทียนไม่ได้ แม้จะรู้ว่าเทพธิดาคงไม่ทำอะไรรุนแรง แต่เธอก็ยังกลัวว่าจ้าวเทียนจะเผลอไปกระตุ้นโทสะของเทพธิดาเข้า

“ ลี่เหยาเหยา เธออยู่ตรงนั้นใช่ไหม! ”

เสียงของจ้าวเทียนดังขึ้น

เทพธิดารีบปิดผนึกลี่เหยาเหยาเอาไว้ ไม่ให้เธอพูดเตือนจ้าวเทียน เธอกลัวจ้าวเทียนจะหลบหนีไป

“ ฉันอยู่ตรงนี้…นายรีบเข้ามาเลย ” เทพธิดาได้ใช้เวทย์เลียนแบบเสียงของลี่เหยาเหยาตอบไป

ลี่เหยาเหยาที่ได้เห็นแบบนั้น ก็รู้สึกพูดไม่ออก ทำไมเทพธิดาผู้สูงส่งถึงขี้เล่นแบบนี้ เธอเหงาเกินไปใช่ไหม อยู่คนเดียวมาเป็นล้านปี

“ เธอเป็นใคร…ลี่เหยาเหยาอยู่ไหน ”

จ้าวเทียนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เวทย์ของเทพธิดาตบตาเขาไม่ได้

“ ฮ่า ฮา เจ้ามาตามหาผู้หญิงคนนั้นเหรอ…เธอกำลังถูกข้าดูดกลืนอยู่ ถ้าเจ้ายังไม่รีบมาช่วยดวงจิตเธอก็จะสลายไป ” เทพธิดายิ้มขึ้นอย่างซุกซน เธอหันไปพยักหน้าให้กับลี่เหยาเหยา ให้ทายว่าจ้าวเทียนจะกล้าเข้ามาช่วยไหม

“ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลี่เหยาเหยาแม้แต่น้อย ฉันจะทำลายดวงจิตของเธอให้สูญสิ้น! ”

จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว

เมื่อได้ยินสิ่งที่จ้าวเทียนพูด ลี่เหยาเหยาก็มีสีหน้ามีความสุข ผู้ชายคนนี้เป็นห่วงเธอขนาดนี้เลยเหรอ

เทพธิดาที่เห็นใบหน้าดีใจของลี่เหยาเหยา ก็รู้สึกหมั่นไส้นิดๆ แต่ก็เอาเถอะความรู้สึกชายคนนี้เป็นของจริง หลังจากนี้เธอคงฝากผู้สืบทอดไว้กับอีกฝ่ายได้

“ บอกไว้เลยนะหนุ่มน้อย หากเป็นโลกภายนอกข้าคงสู้เจ้าไม่ได้ แต่ภายในเมล็ดพันธุ์นี้วัดกันที่ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณ ตัวข้าเป็นถึงเทพสวรรค์โบราณ ข้าสามารถกำจัดเจ้าได้เหมือนบี้มดตัวหนึ่ง ”

“ ถ้ากล้าก็เข้ามา!” เทพธิดาพูดขึ้นอย่างถือดี

“ ดี!...ฉันจะรอดู ”

แคว่กกกก!

มิติถูกฉีกขาดออก รอยแยกสีดำขนาดใหญ่ได้แบ่งครึ่งทะเลดวงดาวออกจากกัน

คึก!

มือขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากรอยแยก มันพยายามฉีกกระชากให้รอยแยกนั้นกว้างขึ้น จักรวาลสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเหมือนจะพังทลาย

“ นี่…นี่มันเป็นไปไม่ได้ ” เทพธิดาตกใจจนแข้งขาอ่อน ทรุดลงไปนั่งลงบนแท่นบรรทม

ขนาดร่างกายของเธอยังเทียบไม่ได้กับเล็บมือของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ความแตกต่างมันมากเกินไป

แคว่กกกก!

หลังจากรอยแยกถูกฉีกกว้างขึ้นจากเดิมนับสิบเท่า มือนั้นก็หดกลับเข้าไปในรอยแยก ชายคนหนึ่งในชุดจักรพรรดิสีทอง ก็ได้ก้าวออกจากรอยแยกสีดำ

ร่างของเขานั้นใหญ่โตยิ่งกว่าดวงอาทิตย์สิบเท่า ออร่าของเขาปกคลุมไปทั่วทั้งจักรวาล ตอนนี้เพียงแค่ความคิดเดียวของเขา ก็สามารถลบจักรวาลในเมล็ดพันธุ์ทวยเทพให้หายไปได้สบาย

“ ร่างทิพย์สิบตะวัน…เทพโลกาขั้น 9 งั้นเหรอ ” เสียงของเทพธิดาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

“ ไม่ใช่สิ…ออร่าปกคลุมทั่วจักรวาลแบบนี้ เจ้าคือจักรพรรดิเทพ ! ” เทพธิดาตอนนี้รู้สึกอยากจะสลายตัวเป็นฝุ่นหายไปจากตรงนี้เสียจริงๆ แต่เพราะพลังของจ้าวเทียนทำให้เธอหนีไปไหนไม่ได้

ใบหน้าที่สวมมงกุฎจักรพรรดิสีทอง ก้มมองลงมาที่วิหารเทพธิดา ที่ไม่ต่างจากเศษฝุ่นเบื้องหน้า สายตาเขามองไปที่เทพธิดาอย่างเย็นชา

“ ฉันมาถึงแล้ว!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel