บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 อุบัติเหตุ

วันนี้เป็นอีกวันที่เด็กๆต้องไปร่ำเรียนหนังสือเช่นเดียวกับพวกผู้ใหญ่ที่ต้องออกไปทำงาน คุณอาหนุ่มรูปหล่อตื่นนอนแต่เช้าเพื่อมาเตรียมอาหารให้กับหลานสาวสุดที่รัก เขามักจะทำแบบนี้เสมอมา เรียกได้ว่าถึงแม้จะมีแม่บ้าน หรือคนรับใช้ เขาก็ยังคงลงมือทำอาหารเพื่อหลานสาวตัวน้อยของเขาด้วยตนเอง ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อฝีมือของแม่บ้านที่จ้างมา แต่เป็นเพราะเขาอยากจะรังสรรค์เมนูให้กับหลานสาวของเขาได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ทุกวัน

“อร่อยจังเลยค่ะคุณอาณดลขา นี่เค้าเรียกว่าเมนูอะไรคะ” เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถามคุณอาหนุ่ม

“อันนี้เขาเรียกว่าคุณหมูห่มผักค่ะ” เสียงทุ้มนำเสนอเมนูให้หลานรักอย่างภูมิใจ

“อร่อยก็ทานเยอะๆนะคะ ผักมีประโยชน์ จะทำให้น้องน้ำหวานมีร่างกายแข็งแรงและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ไวๆ” คุณอาหนุ่มบอกกับหลานสาวก่อนที่จะยื่นมือไปลูบศีรษะทุยด้วยความรัก หลานสาวของเขาเป็นเด็กที่น่าสงสาร สูญเสียบิดามารดาไปตั้งแต่อายุ3ขวบ ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุเพียง23ปีเท่านั้น เพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรีได้เพียงไม่นานก็ต้องมาพบกับข่าวร้าย รถยนต์ที่ครอบครัวของพี่ชายนั่งมาเกิดอุบัติเหตุรถสิบล้อเบรกแตกขับมาชนเข้าที่ด้านคนขับ พี่ชายของเขาเสียชีวิตคาที่ ส่วนพี่สะใภ้โคม่า และสิ้นใจหลังจากรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพียง3วัน ส่วนหนูน้อยบุตรสาวคนเดียววัยสามขวบของพี่ชายเขานั้นโชคดีที่นั่งคาซีทมา ถึงแม้จะบาดเจ็บแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตอนนั้นบิดามารดาของเขาร้องไห้แทบขาดใจที่ต้องมาเสียบุตรชายคนโตของตระกูลไปอย่างกระทันหัน หลังจากจัดงานศพให้กับบุตรชายและลูกสะใภ้ บิดามารดาของเขาก็เข้าวัดถือศีลอยู่7วันเต็มๆ หน้าที่ดูแลหลานสาวเพียงคนเดียวจึงตกเป็นของเขา และตั้งแต่นั้นมาเขาก็อาสารับดูแลหลานสาวตัวน้อยมาตลอด ตอนนี้บิดาและมารดาของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดเพราะอยากอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติและเบื่อกับอากาศที่เป็นพิษในเมืองใหญ่ แต่ที่ไม่พาหลานสาวคนเดียวไปด้วยเพราะอยากให้หลานสาวได้ร่ำเรียนอยู่ที่นี่ และมีอนาคตที่ดีในภายภาคหน้า ทุกๆปิดเทอม สองอาหลานจึงต้องขับรถพากันไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าที่ต่างจังหวัดแทน

มื้อเช้าผ่านไปสองอาหลานจึงจับจูงกันออกจากบ้านไปโดยอาศัยรถเบนซ์สีดำคันหรูเป็นพาหนะ ขับเคลื่อนพาทั้งคู่ไปยังโรงเรียนของหลานสาวก่อนที่ตนเองจะเข้าไปที่สำนักงานต่อไป

“วันนี้คุณอาจะมารับช้าสักครึ่งชั่วโมงนะคะ น้องน้ำหวานรอคุณอาได้ไหมเอ่ย” เสียงทุ้มเอ่ยถามหลานสาวตัวน้อยด้วยความกังวล แต่วันนี้เขาต้องไปประชุมที่สาขานอกเมือง จึงต้องใช้เวลาในการเดินทางไปกลับพอสมควร

“ไม่เป็นไรค่ะคุณอา น้องน้ำหวานจะนั่งรออยู่กับคุณครูเจ้าขานะคะ” สาวน้อยตอบคุณอาหนุ่ม คำตอบที่ทำเอาเขาพอใจ เขาอยากเจอเธอทุกวัน นี่แหละที่ต้องการ

“ดีค่ะ คุณอาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง คุณอาไปก่อนนะคะคนเก่ง” เขาบอกก่อนที่จะจอดรถให้หลานสาวของตนลง แล้วเหลือบมองไปยังหน้าประตูของโรงเรียน วันนี้เป็นคุณครูผู้หญิงที่ดูมีอายุหน่อยเป็นเวร ‘เฮ้อ ไม่ได้เห็นหน้าเธอเลย หืม เป็นเอามากนะเนี่ยไอ้ดล’ เขาคิดในใจก่อนที่จะสะดุ้งเพราะเสียงเจื้อยแจ้วของหลานสาว

“สวัสดีค่ะคุณอาณดล”

“สวัสดีค่ะ ตั้งใจเรียนนะคะคนเก่ง อาไปก่อนล่ะ” เขาบอกกับหลานด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนที่จะยกมือโบกไปมาและค่อยๆขับรถเบนซ์คันหรูของตนทะยานสู่ท้องถนนเบื้องหน้าไปอย่างช้าๆ เพื่อที่จะได้เห็นหน้าใครบางคน และเขาก็ไม่ผิดหวัง คุณครูสาวกำลังปั่นจักรยานมาใกล้จะถึงหน้าโรงเรียนแต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเข้า มีรถมอเตอร์ไซด์ขับมาทางด้านหลังอย่างรวดเร็วและหักหลบรถยนต์ด้านหน้าทำให้รถพุ่งจะไปชนคุณครุสาว เหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาของณดลทั้งหมด ก่อนที่เขาจะเปิดกระจกและตะโกนบอกเธอ

“เจ้าขา ระวัง!!!” สิ้นเสียงของชายหนุ่มรถจักรยานที่เจ้าขาปั่นมาก็โดนรถมอเตอร์ไซด์คันนั้นเฉี่ยวเอาเสียแล้ว คุณครูคนสวยล้มลงไปนอนกับพื้น ศีรษะกระแทกเข้ากับต้นไม้ดีที่ไม่แรงมาก แต่ก็ทำให้แตกอยู่พอสมควร หัวเข่าขาวเนียนมีร่องรอยของเลือดไหลออกมา ณดลรีบตีไฟเลี้ยวเข้าข้างทางก่อนที่จะลงจากรถวิ่งไปดูอาการของคุณครูสาว

“คุณ เป็นอย่างไรบ้างครับ เจ็บตรงไหน ขอผมดูหน่อย” น้ำเสียงแสดงความห่วงใยดังออกมาจากปากหนา คุณครูสาวที่กำลังมึนงง และตกใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น เงยหน้ามองบุคคลที่เข้ามาช่วยเหลือเธอ

“โอ้ย ปวดหัวจังเลยค่ะ เจ็บหัวเข่ามากด้วย” เสียงหวานเอ่ยตอบคนที่มานั่งข้างๆเธอและพลิกดูตามร่างกายของเธออย่างร้อนรน

“ผมว่ารีบไปโรงพยาบาลก่อนเถอะนะครับ ขออนุญาตนะครับ” เสียงทุ้มนุ่มบอกก่อนที่จะช้อนอุ้มคุณครูสาวขึ้นมาและขอให้คนช่วยเปิดประตูรถเบนซ์คันหรูของตนให้ผู้บาดเจ็บได้เข้าไปก่อน ตำรวจเข้ามาเคลียร์เหตุการณ์พอดี เขาจึงฝากเรื่องเอาไว้เพราะต้องพาคนเจ็บไปโรงพยาบาลก่อน คุณครูที่ยืนเวรอยู่หน้าประตูหน้าตาตื่นรีบเข้ามาดูก่อนที่จะรู้ว่า คุณครูสาวที่เพิ่งย้ายมาใหม่เกิดอุบัติเหตุ ณดลฝากคุณครูคนดังกล่าวแจ้งกับทางผอ.ให้ และเขาก็รีบขึ้นรถและพาคุณครูสาวไปโรงพยาบาลทันที

พอรถจอด เขาก็รีบอุ้มร่างบางไปส่งที่ห้องฉุกเฉิน ก่อนที่จะเดินกลับออกมานำรถไปจอดที่ลานจอด พอจอดรถเรียบร้อยแล้วจึงรีบวิ่งกลับไปดูคุณครูสาวด้วยความเป็นห่วง คุณหมอเรียกพบญาติ เขาจึงเสนอตัวทันที ในเมื่อรับผิดชอบดูแลเธอมาตั้งแต่แรก เขาก็ต้องดูแลไปจนถึงที่สุด คุณหมอให้เธอนอนพักดูอาการก่อน เพราะศีรษะกระแทกเข้ากับต้นไม้จนแตก แม้ผลซีทีสแกนจะออกมาปกติแต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้ เขาไม่อิดออดและเซ็นต์ยินยอมทันที โดยไม่ถามคนเจ็บด้วยซ้ำ ร่างบางที่หลับไปด้วยฤทธิ์ยาตื่นขึ้นมาในเวลาต่อมา ก่อนที่จะมองไปรอบๆ ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงเลือนราง ก่อนที่จะชัดเจนขึ้นในเวลาต่อมา ซึ่งเธอจำเขาได้ดี เขาคือผู้ปกครองของเด็กหญิงพิชญ์สินี เสสกุลหรือน้องน้ำหวาน นักเรียนของเธอนั่นเอง ดวงตาคู่สวยพยายามปรับแสงและมองไปรอบๆก็ตกใจ นี่มันห้องพิเศษ

“อ้าว คุณฟื้นแล้วหรอ ยังเจ็บหัวอยู่หรือเปล่าครับ” เสียงทุ้มอ่อนโยนเอ่ยถามออกมาจากริมฝีปากหนา คุณครูสาวมองใบหน้าหล่อเหลาคมคายของเขาก่อนที่จะส่ายศีรษะไปมา

“เอ่อ.... คุณพาฉันมาส่งโรงพยาบาลหรือคะ” เสียงหวานเอ่ยถามชายหนุ่มตรงหน้า

“ใช่ครับ เมื่อเช้าผมมาส่งน้องน้ำหวาน แล้วบังเอิญเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี ทางนั้นผมให้ทางตำรวจจัดการเคลียร์ให้แล้วครับ เขายินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับคุณ” เขาบอกเธอก่อนที่จะลอบสังเกตุใบหน้าหวาน ถึงแม้เธอจะอยู่ในชุดของคนป่วยก็ยังดูดี ใบหน้าแม้จะซีดแต่ก็ยังคงความสวยเอาไว้ไม่มีที่ติ

“ขอบคุณนะคะที่พาดิฉันมาส่งโรงพยาบาล และก็ขอบคุณที่เป็นธุระจัดการเรื่องนี้ให้” สาวสวยยกมือไหว้ก่อนที่จะส่งยิ้มหวานให้เพื่อขอบคุณเขาจากใจจริง ณดลมองหน้าหวานกับรอยยิ้มของเธอที่ดึงดูดใจของเขามาหลายวัน รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าคม ริมฝีปากหนาฉีกยิ้มกว้างเผยให้เห็นลักยิ้มจนคนมองอดที่จะใจกระตุกไม่ได้ เขาเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาคมคายเสียเหลือเกิน

“ไม่เป็นไรครับ นี่คุณคงจะไปสอนไม่ได้อีกหลายวัน หลานผมคงจะเหงาแย่” ชายหนุ่มบอกเธอก่อนที่จะอ้างหลานสาว ที่จริงเป็นเขาต่างหากที่จะไม่ได้เห็นใบหน้าหวานของเธออีกหลายวัน

“ฉันก็คงคิดถึงเด็กๆเหมือนกันค่ะ” คุณครูสาวตอบด้วยรอยยิ้ม เธอชอบเด็กๆที่นี่มาก ทุกคนเป็นเด็กน่ารัก ถึงแม้จะดื้อไปบ้าง แต่ก็ว่านอนสอนง่าย สองหนุ่มสาวยิ้มให้กันอยู่สักพักคุณหมอและพยาบาลก็เข้ามาขัดจังหวะ คุณหมอเข้ามาตรวจอาการของคนไข้สาวอย่างละเอียด เพราะเจ้าของไข้สั่งมาเป็นกรณีพิเศษ ใครบ้างที่จะไม่รู้จัก คุณณดล เสสกุล ผู้ที่มอบทุนวิจัยให้กับทางโรงพยาบาลแห่งนี้ทุกๆปี พอตรวจเสร็จก็พบว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง นอนพักดูอาการอีกสักสองคืนก็ออกจากโรงพยาบาลได้ พอคุณหมอและพยาบาลออกไปได้สักพัก เสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้น

“กริ๊ง......กริ๊ง...........” มือหนาล้วงโทรศัพท์เครื่องหรูออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะกดรับ เจ้าขาอดที่จะแอบลุ้นไม่ได้ว่าอาจจะเป็นแฟนของเขาโทรมาหรือเปล่า หล่อขนาดนี้คงไม่น่าจะโสด สาวสวยคิดในใจก่อนที่จะแกล้งหลับตาลง

“ฮัลโหล ครับ อ้อ ตายล่ะ ผมลืมเลย ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นก่อนที่เขาจะกดวางสาย และหันไปบอกกับคุณครูคนสวยที่นอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล

“ พอดีผมมีธุระต้องไปทำก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรติดต่อผมได้ตลอดเวลา” ณดลรีบบอกก่อนที่จะหยิบนามบัตรแล้วส่งให้คนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง มือบางยื่นไปรับมาอย่างงงๆ เธอพยักหน้าขึ้นลงอย่างช้าๆก่อนที่เขาจะหันหลังและเดินไปเปิดประตูแล้วออกจากห้องไป เจ้าขามองตามหลังคุณอารูปหล่อของลูกศิษย์ผู้น่ารักของเธอไปด้วยหลากหลายความรู้สึก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel