จอมมารตกบ่วงรัก บทที่1.มหานครแห่งแฟชั่น 2/4
....ฉันมาถึงแล้วนะ มหานครแห่งแฟชั่น ปารีสจ๋า....
ขึ้นรถลงเรือลอออรไม่เคยหวั่น เพราะความฝันอันยิ่งใหญ่เรื่องภาษาลออแปร่งๆเลยฝึกหนักเป็นพิเศษ สำเนียงอาจจะไม่ชัดเปลี้ยะ แต่สามารถอ่านออก สื่อสารได้ การเรียนภาษาอย่างหนักทำให้เธอมาถึงจุดนี้ได้นั่นเอง
“วันนี้เจ้จะให้ทุกคนพักกันให้สบาย พรุ่งนี้ถึงจะเริ่มงานกันจริงจัง เจ้จับคู่ให้แล้วนะ ขอย้ำนะจ๊ะ ห้ามลืม ห้ามหนีออกไปเที่ยวคนเดียว ข้างนอกนั่นอันตรายเกินไป”
เสียงเจ้ปลาตะโกนบอก ตอนที่ทุกคนขึ้นนั่งบนรถยนต์คันใหญ่ ลอออรท่องจำไว้ในใจ เธอคงไม่กล้าขนาดนั้น แต่คงมีสักวันล่ะที่เจ้ปลาอนุญาต ไหนๆ ก็ท่อสังขารมาถึงปารีสทั้งที คงไม่มีใครยอมอุดอู้อยู่แต่ในโรงแรม หรือไม่ก็ที่ซาลู
“อรๆ เธอเก่งภาษาฝรั่งเศสใช่ไหม?” ปานแขกระซิบถาม
ลอออรพยักหน้ารับ พร้อมกับตอบกลับเสียงแผ่วๆ “พอได้น่ะแข สะกดคำได้ ฟังพอออก แต่ยังไม่เคยพูดกับคนฝรั่งเศสแท้ๆ เลยสักที”
“ก็ดีกว่าแขแหละ อังกฤษพอได้ ฝรั่งเศสนี่ไม่กระดิกเลย”
“มันก็ค่อนไปทางยากพอสมควรแหละ แต่เพราะอรชอบเลยพยายาม” ความฝันอันยิ่งใหญ่อยู่ตรงหน้า ลอออรเลยไม่เคยย่อท้อ
“ว่าแต่...พวกเราจะได้เจอกับคุณเควินไหมนะ?” ปานแขพูดลอยๆ เชื่อเถอะหากเป็นเพศหญิง ทุกคนย่อมคิดแบบเธอทั้งนั้น
“ไม่รู้สิ” เควินเข้าถึงยาก เขาคงไม่สนใจเด็กฝึกงานอย่างพวกเธอหรอก
แต่หากสวยๆ อึ๋มนั่นไม่แน่ เพราะในบรรดาผู้หญิงรอบตัวของเขาทุกคนสวยไม่มีที่ติ โดยเฉพาะ เวโรนิก้า มอริซ ดีไซเนอร์คนดังที่เคียงคู่กับเควินมาตั้งแต่เริ่มต้นบนถนนเส้นนี้ มีข่าวซุบซิบว่าเขาสองคนเป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงานหรือหุ้นส่วนในซาลู เวโรนิก้าแบะท่าชัดเจน หากเควินต้องการแบบนั้นเธอไม่คิดจะขัด แต่สำหรับชายผู้นั้น เขากลับมีท่าทางปกติ ไม่มีใครรู้เรื่องลับๆ ของเขาสองคนดีเท่ากับเจ้าตัว
นอกจากข่าวโคมลอยแล้ว ไม่มีทีท่าอื่นจากเควินอีกเลย
เขาควงสาวไปทั่ว ทำตัวเสเพลไม่ต่างจากวันก่อนๆ ไม่แคร์ความรู้สึกของเวโรนิก้าสักนิด
ต้องยอมรับแหละว่าหญิงผู้นั้นวางตัวดี เก็บอารมณ์หึงหวงได้มิด เควินเลยวางใจ เขาไม่เคยคิดกำจัดเวโรนิก้า เนื่องจากเธอยังมีประโยชน์กับเขานั่นเอง
“คุณเควินมีสาวสวยอยู่ข้างกายเขายังเฉยๆ แล้วลูกเป็ดขี้เหร่อย่างเราๆ จะเข้าตาเขาได้ยังไง”
เวโรนิกาสวยสง่าไม่มีที่ติ ยังไม่สามารถครองใจผู้ชายชื่อเควินได้เลย
แล้วสาวเอเชียตัวเล็กๆ หน้าตาแทบไม่มีจุดเด่นอย่างตนเองจะจุดประกายปรารถนาจากเควินได้ยังไง
เสียงถอนลมหายใจแทบจะดังประสานกัน สาวๆ รอบตัวเควินเหมือนแมลงเม่า รู้ทั้งรู้ว่าชายผู้นั้นเปรียบเหมือนเปลวไฟก็ยังกระเสือกกระสนเข้าไปไกล หากมอดไหม้เพราะความร้อนแรงจะโทษใครได้ล่ะ
หลังเข้าที่พัก ลอออรเดินไปเดินมาพื้นห้องแทบสึก เอตื่นเต้นจนข่มตานอนไม่หลับ ชะเง้อชะแง้มองไปรอบๆ ตัว เห็นยอดหอไอเฟลอยู่ลิบๆ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งห้ามของเจ้ปลา เธอไม่อยากแหกกฎตั้งแต่วันแรก
“ไม่ง่วงเหรออร” ปานแขคือเพื่อนร่วมห้องที่เจ้ปลาจัดให้
พอเข้าที่พักสิ่งแรกที่ปานแขทำคือทิ้งตัวนอนแผ่บนที่นอน และแทบจะหลับไปในทันทีที่ศีรษะกระทบหมอน
“ตาค้างแล้วแข นอนมาบนเครื่องตลอด คืนนี้ไม่รู้จะหลับลงหรือเปล่าเลย” ลอออรแนบหน้ากับกำแพงกระจก ทอดสายตามองทิศทัศน์ด้านนอกด้วยความสนใจ
ทุกสิ่งรอบตัวแปลกตาไปหมด ความศิวิไลน์มีทุกพื้นที่จนอยากจะเดินท่อมๆ เพื่อชื่นชม ติดที่เจ้ปลาห้ามไว้ ไม่อย่างนั้น เวลานี้ลอออรคงเดินอยู่บนถนนสำรวจไปทั่วแล้วแหละ
“ฉันนอนก่อนนะ ไม่ไหวล่ะตาจะปิด” ปานแขพึมพำบอก หลังจากนั้นไม่นานลอออรก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆ
หญิงสาวถอนใจดังเฮือก คืนนี้ไม่รู้จะข่มตาหลับลงหรือเปล่า เมื่อรู้สึกตื่นเต้นไปหมด
กำลังคิดอะไรเพลินๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อกๆ
ลอออรผุดลุกขึ้นยืน เดินไปส่องตรงช่องตาแมว ก่อนจะรีบเปิดประตูเมื่อคนที่ยืนอยู่ด้านนอกคือเจ้ปลา