บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

“คุณดา... หมายถึง...” มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง

ดานีนระบายยิ้มน้อยๆ ส่งผ้าเช็ดหน้าให้คู่สนทนาซับน้ำตา “ใครก็ได้ที่กำลังหึงเธอจนเป็นบ้าเป็นหลังน่ะ”

ลียายิ้มเศร้าๆ แม้จะรู้ดีว่าดานีนหมายถึงใคร แต่หล่อนไม่มีทางเชื่อ มันเชื่อไม่ลงจริงๆ เอโดเกลน่ะเหรอจะหึงหวงหล่อน พระอาทิตย์ขึ้นตอนกลางคืนยังน่าเชื่อถือกว่าเลย หญิงสาวคิดในใจอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว

“ขอบคุณคุณดามากค่ะ”

“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก เพราะอีกไม่นานเธอจะรู้ว่ามันคือเรื่องจริง” ดานีนระบายยิ้ม คว้าแขนกลมกลึงของลียามากุมเอาไว้

“ไปกันเถอะ คุณแดนรอนานแล้ว”

“ค่ะ คุณดา”

แม้จะก้าวออกมาพ้นจากการ์รัสโซ่ พาราไดส์แล้วแต่สมองของหล่อนก็ยังจดจำทุกคำพูดของเอโดเกลเอาไว้อย่างแม่นยำ

อีกไม่นานเชื้อโรคแบบหล่อนจะจากเขาไปให้ไกลแสนไกล

ขณะลียากำลังจมอยู่กับความขมขื่นปวดร้าวอยู่ภายในรถลีมูซีนคันงามนั้น ผู้ชายอีกคนที่ยืนถือแก้วเหล้ามองทะลุบานหน้าต่างตามท้ายรถออกไปก็ไม่ได้รู้สึกดีไปกว่ากันเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะตอนนี้เอโดเกลกำลังเป็นบ้า เขากำลังคลุ้มคลั่ง สาเหตุนะเหรอ ก็เพราะแม่ลียาสาวใช้จอมเจ้าเล่ห์คนนั้นยังไงล่ะ บ้าชะมัด บ้าที่สุด ทำไมเขาจะต้องมาอึดอัด เดือดดาล และนั่งไม่ติดเพียงเพราะแม่สาวใช้คนนั้นออกไปงานเลี้ยงด้วยนะ

ก็แค่งานเลี้ยง ที่มีผู้ชายหล่อ รวย แม้จะไม่มีใครเทียบหนุ่มการ์รัสโซ่ได้ติดฝุ่น แต่ผู้ชายพวกนั้นก็ถือว่าเพอร์เฟคสำหรับสาวๆ ทั่วไป บางทีแม่นั่น อาจกำลังคิดที่จะใช้งานเลี้ยงที่ตัวเองได้ติดสอยห้อยตามดานีนกับเดนิเรลไปเพื่อหาเศรษฐีสักคนก็ได้

เพล๊ง!

เสียงแก้วแตกกระจายดังลั่นขึ้น โทสะร้ายกระพือขึ้นอย่างรุนแรงภายในร่างกาย แม้จะบอกตัวเองว่าไม่ได้สนใจ ใยดีอะไรลียา ใช่... เขาพยายามจะมองข้ามหล่อนไป แม้ว่ามันจะทำได้ในบางเวลาเท่านั้นก็ตาม แต่ตอนนี้... เขาทำไม่ได้แล้ว แค่ได้เห็นร่างอรชรในชุดราตรีสีทองแนบเนื้อ เน้นทุกสัดส่วนที่เขาควรจะได้เห็นเพียงคนเดียวให้กับผู้ชายทั้งโลกได้เห็น แค่นี้เขาก็แทบบ้า... ใช่เขากำลังจะบ้า!

“ร่าน...” มือหนากำเข้าหากันแน่น

“คอยดูเถอะ ฉันจะตอบแทนความร่าน ความอยากของเธอให้ถึงใจเลยทีเดียว”

ไม่... ไม่... เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับแม่นั่น ไม่ได้รู้สึกอะไรกับลียาแม้แต่น้อย ก็แค่... แค่ไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นๆ โชคร้ายเพราะถูกมนต์ขลังจากแม่นั่นเล่นงานเท่านั้นเอง

คิดได้เช่นนี้ ร่างสูงใหญ่ของเอโดเกลก็ก้าวพรวดพราดหายเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที ไม่นานก็ออกมาพร้อมๆ กับรูปร่างที่หล่อลากดินสมบูรณ์แบบพร้อมออกงานเลี้ยง

“คิดหรือว่าฉันจะยอมให้เธอทำได้สำเร็จ”

แล้วเอโดเกลก็เดินออกจากห้องนอนของตัวเอง มุ่งหน้าไปยังลิฟต์แก้ว แต่ระหว่างทางก็สวนกลับราฟาลที่พึ่งกลับมาจากประชุมงานเสียก่อน

“แต่งตัวซะหล่อ จะไปไหนหรือเอดี้”

“ผมจะไปงานเลี้ยงครับ”

“งานเลี้ยง?” คิ้วเข้มหนาดำของราฟาลเลิกขึ้นสูง ก่อนจะพูดต่อขึ้น “ใช่งานเลี้ยงเดียวกับที่เจ้าแดนไปหรือเปล่า”

“ครับ นั่นแหละ” เอโดเกลรับคำเสียงไร้ความรู้สึก

“อ้าวเหรอ... ไหนเจ้าแดนมันบอกว่านายไม่ไปยังไงล่ะ แล้วทำไม...” ราฟาลยังพูดไม่ทันจบเอโดเกลน้องชายก็รีบตัดบทจบการสนทนาเสียก่อน

“ผมเปลี่ยนใจแล้วครับ เอาล่ะ ผมไปก่อนครับ งานจะเริ่มแล้ว”

“เฮ้... เดี๋ยวก่อนสิ”

ราฟาลพยายามจะเรียกน้องชาย แต่เจ้าตัวแสบหายเข้าไปในลิฟต์เสียแล้ว ชายหนุ่มผู้พี่จึงทำได้แค่ส่ายศีรษะน้อยๆ และพูดออกมาด้วยความขบขันเท่านั้น

“หวังว่าคงไม่ได้ตามไปหวงก้างใครนะ”

พรมหนาสีแดงที่ทอดยาวมายังประตูรถเบื้องหน้าทำให้ลียาขาสั่นเทา หล่อนก้าวตามดานีนลงไป และแอบอยู่ด้านหลังของเจ้านายสาว

“มันไม่มีอะไรน่ากลัว ลียา... ที่นี่มีแต่ผู้คนที่น่าอัศจรรย์ทั้งนั้น เชื่อฉัน”ดานีนหันมามองพร้อมกระซิบบอกลียาด้วยน้ำเสียงให้กำลังใจ ก่อนจะสอดแขนเข้าไปในลำแขนกำยำของเดนิเรล จากนั้นก็เดินนำหน้าไป ลียารีบเดินตามเข้าไปติดๆ

สายตาของผู้คนจำนวนมากทั้งผู้หญิงผู้ชายต่างจับจ้องมายังหล่อน พวกเขามองหล่อนอย่างสมเพช เหยียดหยาม หรือว่าชื่นชมกันนะ แม้จะพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองยังไง แต่หล่อนก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือการยืนก้มหน้านิ่งๆ และอยู่ข้างๆ คอยรับใช้ดานีนเท่านั้นเอง

ความจริงหล่อนปฏิเสธดานีนไปตั้งแต่ครั้งแรกที่หญิงสาวออกปากชวนแล้ว แต่ดานีนก็หาข้ออ้างจำนวนมากมายมาเกลี้ยกล่อมหล่อน จนสุดท้ายหล่อนก็ต้องมา มาในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความโอ่อ่า ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่ที่ที่หล่อนสมควรจะยืนอยู่

หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบงาน สาวน้อยสาวใหญ่จำนวนมากต่างแต่งองค์ทรงเครื่องมาประชันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ทุกคนสวย ทุกคนงดงาม ทุกคนดูเลอค่า ในขณะที่หล่อนเป็นได้แค่เพียงหนูสกปรกเท่านั้น เพราะอย่างนี้ล่ะมั้งเอโดเกลถึงได้บอกว่าหล่อนไม่สมควรจะมา

“ลียารอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันตามคุณแดนไปทักทายท่านทูตก่อน” ดานีนหันมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของหล่อน ก่อนจะเดินจากไป

ลียาระบายยิ้มเศร้าๆ หล่อนยืนเคว้งคว้างอยู่กลางงานเลี้ยงของผู้มีอันจะกินทั้งหลายอยู่หลายนาทีก็ต้องหน้าชาดิก เมื่อมีสาวสวยสามคนเดินตรงเข้ามาทักทาย ไม่สิ... เข้ามาหาเรื่องต่างหาก

“เธอเป็นลูกเต้าใครกัน พ่อเธอชื่ออะไร ตำแหน่งอะไร” คำถามที่ออกมาจากปากสาวสวยจัดนางหนึ่งทำลียาถึงกับอึ้งไปพักใหญ่

“เอ่อ คือว่าฉัน...”

“หรือว่าเป็นลูกสาวของรัฐมนตรีท่านไหน แต่ถ้าใช่ ทำไมฉันไม่คุ้นหน้าเธอเลยล่ะ” ผู้หญิงอีกคนถามขึ้นด้วยความสงสัย ตวัดสายตามองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพิจารณา ก่อนจะมาหยุดที่สร้อยคอเพชรของดานีนที่หล่อนได้สิทธิ์สวมใส่ในค่ำคืนนี้ตาเขม็ง

“แล้วนั่นเพชรจริงหรือเปล่า”

“ใช่... แล้วมันของเธอหรือเปล่า”

แม่สาวทั้งสามคนยืนห้อมล้อมและกดดันหล่อนด้วยสายตา วาจา และกิริยา

“เพชรจริงค่ะ”

ลียาเม้มปากแน่น ตอบออกไปเสียงแผ่วเบา และพยายามจะปลีกตัวเดินหนี แต่แม่สาวทั้งสามคนก็ยังราวีไม่เลิก

“อย่าพึ่งไปสิ บอกมาก่อนว่าเธอเป็นใคร”

หากหล่อนไม่ตอบออกไปสาวสวยทั้งสามคนนี้ก็คงจะไม่หยุดราวีหล่อนอย่างแน่นอน ลียาฝืนยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบออกไปตามความจริง

“ดิฉันเป็นสาวใช้ที่ติดตามคุณดานีนภรรยาของคุณเดนิเรล การ์รัสโซ่มาค่ะ”

“ห๊า! สาวใช้?!”

เสียงอุทานของแม่สามสาวพยายามสวยดังพอที่จะทำให้ผู้คนบริเวณใกล้เคียงหันมาจ้องมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น และแม่พวกนี้ก็คงจงใจจะทำให้หล่อนอับอายมากยิ่งขึ้น

“นี่เธอเป็นแค่สาวใช้ แต่สะเออะมางานนี้เหรอ น่าทุเรศสิ้นดี นี่ไม่รู้หรือไงว่างานนี้มีแต่ผู้ลากมากดีเท่านั้นถึงได้มีสิทธิ์เข้ามาน่ะ”

คนถูกประณามเพียงเพราะเกิดมาต่ำต้อยหน้าชาดิก ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น

“คือดิฉันแค่... ตามคุณดานีนมา”

“น่ารังเกียจที่สุด ออกไปเลยนะ ไปเลย ไปสิ เดี๋ยวเชื้อโรคสกปรกของเธอจะมาติดตัวพวกฉันไปสิ ไปให้พ้นเลย!”

ร่างของลียาเซถลาเพราะถูกหนึ่งในสามสาวสวยนั้นผลัก แต่ก็ไม่ได้ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างที่หวาดกลัวเพราะมีอ้อมแขนกำยำของใครคนหนึ่งมาคว้าเอวคอดของหล่อนเอาไว้ได้ทันเวลา

“พวกคุณทำบ้าอะไรกันน่ะ?!”

แม่สามสาวพวกนั้นอึ้งไปประมาณสามวินาทีเมื่อได้เห็นหน้าเจ้าของเสียงกระด้าง จากนั้นก็อุทานออกมาราวกับคนเสียสติ

“โอ้พ่อเทพบุตร นี่ฉันคิดว่าในโลกนี้มีแค่หนุ่มการ์รัสโซ่เท่านั้นที่หล่อลากดิน ไม่อยากจะเชื่อว่ามีคุณอีกคน...”คนหนึ่งอุทานเลื่อนลอย และก็ตามด้วยอีกคนหนึ่ง

“ลูเซียโน ปาสเก้... เจ้าพ่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในอิตาลีนี่นา”

แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของชื่อสุดหล่อจะไม่ใยดีอะไรกับแม่สามสาวพวกนั้นเลย แต่กลับหันมาพูดกับลียาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

ลียาฝืนยิ้มบางๆ แม้ว่าแท้จริงแล้วภายในอกจะอยากร้องไห้แค่ไหนก็ตาม “เอ่อ ไม่หรอกค่ะ ดิฉัน... ไม่เป็นอะไร...” หญิงสาวขยับตัวน้อยๆ คล้ายอึดอัดและนั่นก็เตือนให้ลูเซียโนรู้ว่าควรจะปล่อยมือจากเอวคอดของเจ้าหล่อนได้แล้ว

“เอ่อ ขอโทษครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวนะคะ”

ลียาไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยอนุญาต หล่อนรีบจ้ำอ้าวเดินจากไปทันที หล่อนต้องการอากาศหายใจ ในงานเลี้ยงมีแต่กลิ่นไอแห่งความชิงดีชิงเด่น ซึ่งหล่อนเกลียดบรรยากาศเช่นนี้ที่สุด

ลูเซียโนมองตามไปพร้อมๆ กับรอยยิ้ม เขากำลังจะตามไปแต่แม่สามสาวก็รีบขวางเอาไว้เสียก่อน

“ฉันคาร่าค่ะ เป็นลูกสาวของท่านทูต”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel