บท
ตั้งค่า

2 เอาของไปขายตลาด - 2

“แน่นอนว่าไม่ มาเถอะ มาช่วยพี่จุดไฟ เราจะเอาน้ำมาต้มไว้ดื่ม”

“ขอรับ”

สองพี่น้องช่วยกันก่อไฟจนติด จากนั้นเทน้ำที่อันฉีตักมาใส่กาต้มน้ำ นำขึ้นตั้งบนเตาต้มจนเดือด แล้วก็รอจนอุ่นถึงดื่ม ครู่ต่อมานางหวังและลู่เสียนก็กลับถึงบ้าน เจียอีและอันฉีจึงรีบวิ่งออกมารับแม่และยาย ในตะกร้าที่ลู่เสียนถืออยู่มีเห็ดหูหนูจำนวนมากและผักป่าอีกสองชนิด

“ท่านแม่ ส่งมาให้ข้าเถอะ ข้าจะช่วยท่านถือเอง”

“เจียเอ๋อร์ เจ้าดีขึ้นแล้วหรือ”

“ข้าดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ”

เจียอีได้ตะกร้ามาแล้วก็ยกมาวางไว้ที่ระเบียงบ้าน ส่วนอันฉีวิ่งไปเอาน้ำดื่มที่ฆ่าเชื้อจนเย็นแล้วมาต้อนรับนางหวังและลู่เสียน

“ท่านยาย ท่านแม่ นี่คือน้ำที่ท่านพี่กับข้าช่วยกันต้มฆ่าเชื้อโรคขอรับ”

“ฆ่าเชื้อโรค?”

นางหวังถามย้ำ หันไปมองหน้าหลานสาวด้วยความสงสัย ลู่เสียนเองก็ไม่ต่างกัน แต่ไหนแต่ไรก็มักจะดื่มชาที่ผ่านความร้อนหรือน้ำอุ่นเป็นประจำอยู่แล้ว หากดื่มน้ำอุณหภูมิปกติก็ไม่เคยเห็นว่าจะต้องนำไปต้มก่อนสักครั้ง พออยากจะเอ่ยถามเจียอีก็รีบชิงเปลี่ยนเรื่องเสียก่อนเพราะขี้เกียจอธิบายยืดยาว

“ท่านแม่ได้เห็ดหูหนูมามากมายขนาดนี้จะเอาไปทำอะไรหรือเจ้าคะ”

“แม่จะตากให้แห้งสักสองถึงสามวัน แล้วเก็บไว้ทำอาหาร”

“ได้มามากมายขนาดนี้ให้ข้ากับอาฉีช่วยกันเอาไปขายที่ตลาดดีไหมเจ้าคะ”

“เจ้ากับอาฉีนะหรือ”

“เจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นอีกสามวัน แม่ตากแห้งแล้วพวกเจ้าทั้งสองก็เอาไปขายที่ตลาดเถอะ”

ลู่เสียนแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าเด็กสาวขี้อายอย่างเจียอีจะอยากไปนั่งขายของที่ตลาด ส่วนมากนางจะเก็บตัวอยู่บ้าน ทำงานบ้านและงานเรือน เรื่องออกตลาดนั้นนาน ๆ ครั้ง เพราะเจียอีให้เหตุผลว่านางไม่ชอบพื้นที่แออัดมีผู้คนมากมายเบียดเสียดกันไปมา

“ได้เจ้าค่ะท่านแม่ อีกสองวันข้าจะเอาไปขาย”

เจียอีรีบรับปากไปเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ไปขายของที่ตลาด เมื่อกินอาหารเย็นร่วมกันแล้วทุกคนต่างเข้านอน รุ่งสางลู่เสียนก็เอาเห็ดหูหนูออกตาก พอตกเย็นก็เก็บเข้าบ้าน เช้ามาก็เอาออกตากใหม่ ทำแบบนี้จนกว่าเห็ดหูหนูจะแห้งสนิทดี ตลาดในเมืองไกลจากหมู่บ้าน 10 ลี้ เจียอีและอันฉีต้องออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ ระหว่างทางทั้งสองได้หยุดพักเหนื่อยบ้าง แต่ก็ต้องเร่งฝีเท้าเดินต่อไปเพื่อให้ถึงตลาดโดยไว ที่ตรงไหนว่างสองพี่น้องก็จับจองไว้ จากนั้นหันไปถามลุงคนหนึ่งที่นั่งขายถังหูลู่อยู่ข้าง ๆ

“ท่านลุงเจ้าคะ ข้ากับน้องสามารถขายของตรงนี้ได้หรือไม่เจ้าคะ”

“ได้ ๆ ที่ตรงนี้เป็นของข้าเอง แต่พวกเจ้าต้องจ่ายข้าวันละ 5 อีแปะเป็นค่าเช่าที่นะ”

“5 อีแปะเชียวหรือเจ้าคะ”

“อืม 5 อีแปะ”

“เอ่อ...ข้ายังไม่ได้พกเงินมามากนัก เอาไว้หากขายของได้แล้วข้าค่อยจ่ายได้หรือไม่เจ้าคะ”

“ไม่ได้! ถ้าไม่มีข้าก็ไม่ให้ขาย ไสหัวไปซะ อย่ามาเกะกะใกล้ร้านข้า”

ลุงโวยวายใหญ่ โบกมือไล่สองพี่น้องออกไปให้พ้นหน้าร้าน มิหนำซ้ำยังปัดตะกร้าเห็ดหูหนูของเจียอีร่วงลงพื้น เสียงเอะอะของลุงทำให้คนในละแวกนั้นหันมามองเป็นตาเดียวกัน รวมไปถึงหญิงสาวนางหนึ่งที่กำลังเลือกปิ่นปักผมอยู่ไม่ไกล หญิงสาวผู้นี้แต่งกายด้วยผ้าเนื้อดีราคาแพง ใส่เครื่องประดับงดงาม นางวางปิ่นปักผมในมือลงทันที รีบเดินตรงปรี่มาทางที่คนกำลังโต้เถียงกันอยู่

“โกหก! ที่ตรงนี้ไม่ใช่ของท่านลุงผู้นี้สักหน่อย ที่ตรงนี้เป็นของทางการ ไม่ว่าใครก็สามารถนำของมาวางขายได้โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าที่”

สือเฟิ้งหรั่น เจ้าของร้านขายของแห้งอายุ 22 หนาว หน้าตางดงาม ลักษณะท่าทางโผงผางซื่อตรง คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น เมื่อเห็นว่าฝ่ายที่โดนเอาเปรียบคือเด็กสาวและเด็กชาย เฟิ้งหรั่นจึงเกิดอารมณ์โมโหทนไม่ไหวรีบเข้ามาช่วยพูด

“แม่นาง เจ้าพูดจาเหลวไหล คนแถวนี้ต่างก็รู้กันหมดว่าที่ตรงนี้เป็นของข้า”

“ที่ของท่านลุงอย่างนั้นหรือ ได้! เช่นนั้นข้าจะให้ท่านพ่อของข้าถามเพื่อนที่เป็นคนของทางการดูว่าที่ตรงนี้เป็นของผู้ใดกันแน่ หากได้ความชัดแจ้งแล้วว่าท่านลุงยักยอกสมบัติส่วนกลางมาหาประโยชน์ส่วนตน โทษคือถูกโบยสามสิบไม้แล้วห้ามขายของที่ตลาดนี้ไปตลอดชีวิต”

“โอหังนัก! พวกเด็กเมื่อวานซืน”

ลุงเจ้าของร้านถังหูลู่เมื่อเถียงสู้เฟิ้งหรั่นไม่ได้ก็เลือกที่จะด่าทอแทน จนคนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของและพ่อค้าแม่ค้าต่างก็มามุงดู พอเห็นว่าคนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ตาลุงเจ้าเล่ห์ก็กลัวว่าเรื่องนี้จะไปถึงหูทางการเข้าจริง ๆ เพราะที่ตรงนี้ถือเป็นที่ส่วนกลางที่ตนถือวิสาสะเก็บเงินกับคนที่เอาของมาตั้งวางขาย เสียงซุบซิบของชาวบ้านก็เริ่มดังขึ้นจนหนาหูเป็นสองเสียง บ้างก็ว่าที่ตรงนี้มีเจ้าของ บ้างก็ว่าที่ตรงนี้เป็นของทางการให้วางขายได้ไม่คิดเงินค่าเช่า สับสนมึนงงปนเปไปคนละทิศละทาง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel