บทย่อ
เขาชิงตัวชายาข้า เจ้ามันก็แค่สนมที่เสด็จพ่อหลงใหลชั่วครั้งชั่วคราว ทำการชั่วเพื่อหวังชิงตัวเจ้า ข้าไม่มีทางให้เขาได้สมหวัง
ปฐมบท
ร่างบอบบางบนแท่นบรรทมหนานุ่มฮ่องเต้วัยชรา เอื้อมมือหยาบเลิกชายกระโปรงขึ้นช้าๆ มืออุ่นล้วงลึกเข้าไปในเนื้อผ้า ผิวเนื้อเย็นเฉียบสะดุ้งน้อยๆ เมื่อถูกริมฝีปากหยาบกระด้างจุมพิต
“เจ้า ทำให้ข้าพอใจยิ่งนัก”เสียงกระซิบข้างหูสั่นกระเส่า
เยว่ซินฝืนยิ้ม
“เป็นของข้าเสียเถิด แล้วเจ้าต้องการสิ่งใดข้ายินดีนำมันมาวางไว้แทบเท้าของเจ้า”ร่างชรา จุมพิตลงที่หน้าท้องเนียน ที่โผล่พ้นชายอาภรณ์ออกมา
“ฝะฝะฝฝ่าบาท แย่แล้วพ่ะย่ะค่ะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว”เสียงขันทีข้างกายวัยชรา กวง เอินตะโกนลั่นดังเข้ามาใน ห้องบรรทม ร่างชราที่ กำลังมีความต้องการทางเพศถึงขีดสุดถึงกลับสะดุ้ง ยกมือขึ้นตบไปที่หว่างขาเบาอย่างไม่สบอารมณ์
“เรื่องใดกัน หากไม่ใหญ่จริงเจ้าเตรียมตัวตายได้เลย”
“ข้าน้อยสมควรตาย แต่ตอนนี้กองกำลังกบฏได้เข้ามาประชิดประตูวังแล้ว องค์ชายสี่ได้ให้กระหม่อมมาทูลเชิญฝ่าบาทให้เสด็จหนีออกไปก่อนที่พวกกบฏจะหนีเข้ามาในนี้”
“ไท่จือเล่าไท่จือลูกข้าเล่า แล้ว แล้ว สนมอี้เฟยของข้าเล่า” สีหน้าหวาดหวั่นยิ่งนักลืมไปเสียสนิทว่ามีเยว่ชินอยู่ที่นี่ด้วย
“ฝ่าบาทอย่าทรงห่วงคนอื่นตอนนี้ฝ่าบาททรงเอาตัวรอดหนีไปก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เยว่ชินดึงอาภรณ์ที่ หลุดลุ่ยให้เข้าที่ปาดน้ำตาที่ไหลรินด้วยความหวาดกลัวและตื่นตกใจที่จะต้องมอบกายร่วมแท่นบรรทมกับฮ่องเต้ชราด้วยความฝืนใจ สวรรค์เมตตา เทพธิดาปรานีแล้ว ตอนนี้ทำได้เพียงหนีไปเสียไม่ต้องถวายตัวอย่างฝืนใจอีกต่อไป ฮ่องเต้ชรา สวมเสื้อคลุมมังกร
เยว่ชินเองก็กระชับเสื้อคลุม
เสียงกระบี่ถูกชักออกจากฝักก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของบุรุษชุดดำยืนขวางหน้าคนทั้งสามไว้
“ยอมจำนนเสีย เหอไท่ซวงหยางฮ่องเต้ ท่านไม่อาจหนีไปไหนพ้น คนของอ๋องฉู่พวกเราล้อมไว้หมดแล้ว”
เสียงคมกระบี่ตวัดเข้าใส่ในทันทีแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ฮ่องเต้ชราหงายหลังลงกับพื้น แต่ทว่ากระบี่คมของใครอีกคนกลับกางกันคมกระบี่ของฝ่ายกบฏไว้เสียงโลหะกระทบกันดังลั่น
ร่างสูงกับอาภรณ์ที่ไม่ได้บ่งบอกฐานะ องค์ชายสี่ผู้ถูกขนานนามว่าองค์ชายปีศาจแต่ใบหน้ากับหล่อเหลาเพียงแต่แววตาเฉยชาเหลือเกิน ก้าวขาเข้ามาในห้อง กวาดตามองมาที่เยว่ชินที่หลบตาคมดุนั้น บุรุษชุดดำก่อนหน้านั้นผงะถอยออกเล็กน้อย ก่อนจะตั้งสติได้
“เสด็จพ่อหนีไปเถิด”
เสียงเข้มดุขององค์ชายปีศาจที่เยว่ชินเพิ่งจะเคยได้พบหน้า เหมือนจะข่มขวัญคนอื่น ขันทีพยุงฮ่องเต้ให้ลุกขึ้นบุรุษชุดดำผู้นั้นยังไม่ถอดใจ เงื้อคมกระบี่เข้าใส่ร่างสูงดวงตาแข็งกร้าว แต่สายไปเสียแล้วเมื่อคมกระบี่คมวาวพลิกเพียงฝ่ามือเสียบทะลุเข้าที่ยอดอก ทะลุกลางหลัง
“กรี๊ดดด”
เมื่อกำลังจะขาดใจเอื้อมมือกระชากอาภรณ์ของเยว่ชินริมฝีปากพ่นเลือดสดๆ ออกมาก่อนจะสิ้นใจ เยว่ชินหน้าซีดเผือด เฉิงชุนคว้าข้อมือไว้เมื่อร่างเล็กถูกดึงให้ล้มลงไปกลับร่างไร้วิญญาณ
“องค์ชายไม่อาจต้านทานไว้ได้อ๋องฉู่นำทัพล้อมวังหลวง ตอนนี้องค์ชายใหญ่ถูกประหารแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าจะสั่งสอนอ๋องฉู่ผู้นั้นเอง”โม่เหวินถอนหายใจกับความบ้าบิ่นของเหอไท่เฉิงชุน (ความสำเร็จในฤดูใบไม้ผลิ)
“องค์ชายคนของอ๋องฉู่โหดเหี้ยมยิ่งนัก แม้ไทฮองไทเฮาจะทรง ออกมาร้องขอชีวิตองค์ชายใหญ่ก็หามีความหมายใดไม่ องค์ชายหนีเอาตัวรอดเถิดพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้พบเจอใคร ล้วนแต่ ประหารเสียสิ้นไม่เว้นแม้แต่ แม้แต่องค์ชาย17 ที่ข้าน้อยไม่อาจช่วยเหลือได้”
โม่เหวินเอ่ยออกมาด้วยสีหน้ารันทดที่สุด
“ชายาข้าเล่า”
“ข้าน้อยโม่เหวิน ส่งคนคุ้มกันคาดว่า พระชายาจะหนีออกไปจากวังหลวงแล้ว รอพบองค์ชายที่นัดหมาย”
“ข้าห่วงนางไม่น้อยนางกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ ”
“คนของเราจะปกป้องพระชายาอย่างสุดชีวิต”
“ข้าจะกลับมา”ดังคำสัญญา เยว่ชินมองมือของตัวเองที่อยู่ในอุ้งมือขององค์ชายสี่ผู้ที่ทุกคนต่างหวาดกลัว
"องค์ชายจะพานาง เอิ่มมมพระสนมไปด้วยหรือ"
"นางเป็นบุตรีของฉีก้านบิดานางเป็นคนที่ฉู่อ๋องวางใจ ไม่แน่การมาครั้งนี้ของฉู่อ๋องอาจเพื่อชิงตัวนางไปจากเสด็จพ่อ"เยว่ชินอ้าปากค้าง หันหลังเตรียมวิ่งออกจากตรงนั้นแต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อร่างเล็ก ถูกดึงติดมือทะยานออกจากห้องบรรทมใหญ่ไปดังเช่นสิ่งของที่ไร้น้ำหนัก
"ท่านอ๋อง เรามาช้าไปคุณหนูเยว่ชินไม่อยู่ที่นี่"กงฉือคนสนิทของอ๋องฉู่ (ฉู่จีถังเอิน) กล่าวเบาๆ
ดวงตาคมภายใต้คิ้วดกหนาขมวดเข้าหากัน
"ข้ารู้แล้ว ไม่อาจช่วยเยว่ชินได้ทันเวลาทั้งๆ ที่ข้าชิงลงมือเพื่อช่วยนางให้รอดจากน้ำมือของเหอไท่ซวงหยาง"
"ท่านอ๋องวางใจข้าส่งคนกระจายกำลังไปทั่วห้าสิบลี้เพื่อค้นหาเหอไท่ซวงหยางและพวกที่เหลือทั้งหมด"
"ดีข้าจะเข้าเฝ้าเสด็จย่า (ไทฮองไทเฮา) เพื่อปลอบประโลมจิตใจไทฮองไทเฮาให้คลายกังวล"