ตอนที่ 2.แค่ท้องยังไม่ได้ตาย..
“พอมีหวังไหมคะคุณลูก” เดือนฉายกระซิบถาม
แป้งร่ำกดยิ้มมุมปากก่อนตอบ “คุณแม่คะ นี่แป้งร่ำนะคะ แป้งร่ำทำได้อยู่แล้ว”
พร้อมหันมาสนใจบุตรสาวคนเล็ก หลังระบายความไม่พอใจใส่บุตรสาวคนโตไปแล้ว “ยัยแป้ง พ่อเห็นข่าวของเราเมื่อวันก่อน พ่อไม่ชอบเลยนะ ลูกควรเว้นระยะห่างจากคุณครินต์บ้าง เขาไม่ใช่คนระดับเดียวกับเรา เกิดอะไรขึ้นมาพ่อคิดว่าไม่คุ้มสักนิด”
พร้อมรู้สึกไม่สบายใจ ภาพของแป้งร่ำกับครินต์ยังติดตา เขาเป็นแค่ผู้จัดการสาขา ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมากนัก การที่แป้งร่ำแสดงท่าทางสนิทสนมกับว่าที่ท่านประธานคนใหม่ เขาคิดว่าไม่เหมาะ
“อย่าสนใจแป้งเลยค่ะคุณพ่อ แป้งรู้ว่าตัวเองควรทำอะไร คุณพ่อสนใจพี่พอเถอะค่ะ รายนั้นน่ะ ข่าวฉาวๆ ยังไม่ซาเลยนะคะ” แป้งร่ำรีบเบี่ยงเบนความสนใจของบิดา
“ข่าวอะไรอีกล่ะ!!” พร้อมตะคอกถาม
“แป้งไม่ได้ใส่ความพี่อพอนะคะ แป้งพยายามแก้ตัวแทนพี่พอแล้ว แต่คนที่บอกแป้งเขามีหลักฐานค่ะคุณพ่อ” แป้งร่ำดัดเสียง แสร้งปั้นหน้าร้อนรน
“เอามาให้พ่อดูสิ” พร้อมเข่าอ่อน เขาทรุดนั่งและแบมือขอหลักฐานที่แป้งร่ำยืนยัน
แป้งร่ำแสร้งทำท่าละล้าละลัง ก่อนยื่นโทรศัพท์ส่วนตัวให้ “รูปพี่พอ แป้งไม่แน่ใจว่าใช่พี่พอจริงๆ หรือเปล่า พี่พอไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้นสักหน่อยเลยค่ะคุณพ่อ” แป้งร่ำตีบทแตก หลังจากพูดจบก็แสร้งฟูมฟาย
“ไม่ร้องค่ะลูก แค่คนนิสัยไม่ดีอยากใส่ความยัยพอ ลูกแป้งไม่ต้องไปสนใจเลย” เดือนฉายรั้งบุตรสาวมากอด แล้วก็ก้มหน้ายิ้ม
พร้อมตัวสั่นเทิ้ม หลังจากดูรูปที่แป้งร่ำเซฟเก็บไว้ในโทรศัพท์ พอใจที่กำลังเมา และถูกผู้ชายคนหนึ่งประคองออกมาจากบาร์เหล้า ผู้ชายน่ะเห็นหน้าไม่ชัด แต่พอใจบุตรสาวของเขา พร้อมไม่มีทางจำไม่ได้
พร้อมเดินกึ่งวิ่ง ตรงไปยังห้องนอนบุตรสาว “ยัยพอ!! เปิดประตูมาคุยกับพ่อเดี๋ยวนี้นะ” เขาตบประตูดังปังๆ ส่งเสียงเรียกพอใจที่นั่งนิ่งๆ อยู่ริมหน้าต่าง
พอใจถอนใจแรงๆ หากเธอยังอยู่ที่บ้านหลังนี้ ตนเองคงไม่มีวันอยู่ได้อย่างสงบ เธอมองประตูที่สั่นสะเทือนเพราะแรงตบบิดา แล้วก็ตัดสินใจ ในนาทีนั้นเอง
กระเป๋าเดินทางที่ไม่เคยถูกหยิบมาใช้ นับตั้งแต่วันที่มารดาจากไป ความสุขที่เคยมีอันตทานหายไปทั้งหมด ยิ่งมีสองแม่ลูกนั่นแทรกเข้ามาด้วย พอใจแทบหาความสุขไม่เจออีกเลย
เธอใช้หลังมือปาดคราบฝุ่น แล้วก็จัดการเปิดกระเป๋า ฉวยเสื้อผ้าที่อยู่ใกล้สุดยัดใส่ในนั้น ขณะที่ตะแคงหูฟังเสียงบิดาไปด้วย
พร้อมโมโหจัด เขาส่งเสียงเรียกบุตรสาวดังขึ้นเรื่อยๆ แต่พอใจก็ยังนิ่งเฉย
“แม่เดือน เอากุญแจห้องยัยพอมาให้ผมทีสิ” พร้อมหมดความอดทน พอใจจะใช้สงครามเย็นตอบโต้เขาครั้งนี้ไม่ได้ เสียงบิดาสั่งดังลั่น พอใจแค่นยิ้มในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เธอพยายามประคับประคองแล้วนะ สายสัมพันธ์ที่สั้นจนกุดแบบนี้ คงถึงคราวสะบั้นลงสักที
พอใจเปิดประตู ลากกระเป๋าเดินทางออกมาด้วย
“พ่อไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกค่ะ พอจะไปเอง เชิญพ่อเสวยสุขกับคนของพ่อไปเถอะค่ะ”
พร้อมชะงัก “แกจะทำอะไรหะ!!”
“พ่ออยากให้พอไปจากที่นี่นักไม่ใช่เหรอคะ พอจะไปค่ะ ทีนี้พ่อกับคนของพ่อคงสบายใจขึ้น” พอใจเชิดหน้าตอบ
“ถ้าแกก้าวออกจากบ้านหลังนี้ ฉันจะไม่ยกอะไรให้แกสักชิ้น” พร้อมข่มขู่ หวังให้พอใจเปลี่ยนใจ
พอใจเชิดหน้ายิ้มมุมปาก “พอไม่เคยต้องการของของพ่อเลยค่ะ แต่อะไรที่เป็นของแม่พอ พ่ออย่าหวังว่าจะยกให้คนอื่น” เสียงพอใจแข็งกร้าวจนพร้อมสะดุ้ง
“อวดดี!!”
“ค่ะ พอเป็นคนแบบนั้น อยู่กันดีๆ นะคะ สักวันพอจะกลับมาท้วงของของแม่พอคืน”
พอใจสะบัดหน้าใส่ พยายามกลั้นน้ำตาไว้
“ฉันไม่ยกอะไรให้แกทั้งนั้น” พร้อมตะโกนตามหลัง
“เอาที่พ่อสบายใจเลยค่ะ ของแม่พอ พ่อเก็บไว้ดีๆ นะคะ สักวันพอจะกลับมาเอา” เธอยอมเป็นลูกอกตัญญู ในเมื่อบ้านหลังนี้ไม่มีใครต้องการให้เธออยู่ พอใจเลยเลือกที่จะเดินออกไป เธอมีความลับ ที่ยังเปิดเผยไม่ได้
“คุณพ่อคะ ที่พี่พอพูดหมายถึงอะไรคะ?” แป้งร่ำกระซิบถามบิดา
พร้อมเม้มปาก เขาเองก็มีความลับที่ยังไม่ได้บอกเดือนฉายหรือแป้งร่ำเหมือนกัน “ไม่มีอะไรหรอกลูก” และเขาก็เลือกที่จะปิดบังต่อ