ตอนที่ 2.แค่ท้องยังไม่ได้ตาย
กระเบนไม่เข้าใจ พอใจเอาเวลาไหนไปควานหาคนมาทำลูกให้
“เบนฉันพูดความจริง แกจำวันนั้นได้มั้ย วันที่ฉันทะเลากับพ่อแล้วหายไปทั้งคืนน่ะ” พอใจย้อนถึงความหลัง ความหลังที่เธอพยายามจะลืม แต่ยังลืมไม่ได้ แถมตอนนี้ก็มีเรื่องราวมาตอกย้ำ ความผิดพลาดครั้งนั้น กำลังพาตนเองไปสู่ปัญหาใหญ่
“ฉันจำได้ แกบอกไม่มีอะไรไง” กระเบนครางเสียงแห้ง
“ฉันโกหก ฉันไม่อยากให้แกทุกข์ใจเพราะฉันอีก วันนั้น” พอใจหยุดพูด กลืนก้อนสะอื้นลงไปในอก เธอเม้มปาก ยกมือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเงียบๆ
“ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่อยากรู้แล้ว” กระเบนโถมตัวไปกอดพอใจ พร้อมกับกระซิบห้าม สองสาวกอดกันร้องไห้ จนเวลาผ่านไประยะหนึ่ง กระเบนผลักเพื่อนออกห่าง จ้องหน้าพอใจ “แกจะเอาไงต่อพอ?”
พอใจเม้มปาก “ฉันไม่อยากทำร้ายเขา” นั่นคือความคิดของพอใจ แม้เธอจะต้องสูญเสียอะไรในชีวิตหลายๆ อย่างหากยังฝืนดันทุลัง
“พ่อแกจะว่าไงหะ สองแม่ลูกนั่นอีก” กระเบนท้วง
เดือนฉายกับแป้งร่ำจ้องหาโอกาสทำลายพอใจทุกเวลา หากมีจุดอ่อนให้สองแม่ลูกนั่นทำได้ สองคนนั้นไม่รีรอที่จะทำร้ายพอใจอย่างแน่นอน
“ฉันไม่แคร์พวกเขาหรอก” หลังพูดจบ พอใจวางมือที่เนินหน้าท้อง เด็กในท้องเธอไม่มีความผิด หากถามหาคนผิดก็คงเป็นตัวเอง เธอใช้ชีวิตประมาทเกินไป ‘เหล้า’ ไม่ได้ช่วยให้ความทุกข์ในใจเธอลดลง เหล้าทำให้เธอขาดสติ และมีจุดจบน่าอัปยศแบบนี้ไง “จากนี้ไป ฉันจะไม่แตะต้องของมึนเมาพวกนี้อีกแล้ว”
“ฉันอยากจะบ้า ช่วงนี้แกดูแลตัวเองดีๆ แล้วกันนะ มีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกไม่ต้องเกรงใจ ฉันคนนี้จะเป็นแม่ทูนหัวให้ลูกแกเอง ถ้าพ่อแกไล่แห่ แกก็มาอยู่กับฉันที่นี่ได้เลย” กระเบนตบอก ยืดอกรับพอใจ เด็กในท้องพอใจจะต้องเป็นเด็กดี เมื่อเขามีแม่ใจดีถึงสองคน
“ฉันรักแกว่ะเบน” พอใจกลั้นสะอื้นโถมใส่กระเบนพร้อมกับกระซิบบอกความในใจ
“ฉันแกรักแกพอ แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน”
“หายหัวออกจากบ้านบ่อยๆ ช่วงนี้แกชักจะเหลวไหลเกินไปแล้วนะยัยพอ!!” พร้อมตวาดเสียงลั่น เมื่อเห็นบุตรสาวคนโตเดินผ่านเข้ามาในสายตา
“คุณพี่คะใจเย็นๆ” เดือนฉายแสร้งปราม แต่กลับแอบยิ้มเยาะให้ลูกเลี้ยง
พอใจไหวไหล่ เดินเลยบิดาและไม่สนใจจะต่อปากต่อคำเหมือนเคย เธอมีเรื่องให้คิดในสมองเยอะแล้ว ป่วยการเก็บเอาเรื่องเล็กน้อยมาใส่ใจอีก
“แกชักจะมากเกินไปแล้วนะยัยพอ แกเห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไงหะ” นับตั้งแต่ตบหน้าบุตรสาววันนั้น พอใจก็แสดงความเป็นปรปักษ์ ต่อต้านทุกคำสั่งที่พร้อมประกาศ พอใจไม่เคยร่วมโต๊ะอาหารกับบิดาอีกเลย เธอเลือกที่จะกินอาหารในครัว และเลี่ยงการเผชิญหน้ากับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่พร้อม
พอใจถอนใจแล้วก็เดินต่อ
“นังลูกไม่รักดี เอาเถอะอยากยโสนักก็เอาเลย เอาตัวให้รอดนะ วันไหนแกล้มก็ไม่ต้องมาหาฉัน” พร้อมตะโกนตามหลัง
ปัง!! เสียงกระแทกประตูดังปัง พร้อมโกรธจนตัวสั่น เขายกมือเสยผมเม้มปากแน่น
“พี่พอเขาโกรธอะไรคุณพ่อนักหนาคะ แค่ตบเบาๆ ทีเดียวทำเหมือนคุณพ่อจะฆ่าพี่พอเขาให้ตาย” แป้งร่ำวิจารณ์ พลางทรุดนั่งบนเก้าอี้
“จะไปไหนเหรอลูกแป้ง วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ?” เดือนฉายหันไปทักบุตรสาว หมดความสนใจสามีที่ยืนหน้าตึงอยู่ข้างตัว
“วันนี้แป้งต้องออกข้างนอก ไปเป็นผู้ช่วยคุณครินต์ค่ะแม่”
แป้งร่ำเชิดปลายคางขึ้นสูง พร้อมกับอมยิ้มมุมปาก ครินต์คือทายาทรัตนไพศาลกิจ เจ้าของโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า และเป็นเจ้าแรกๆ ที่ครองตลาดมาเกือบยี่สิบปี
“หนูแป้งได้เลื่อนขั้นเป็นเลขาฯ คุณครินต์แล้วเหรอลูก?” เดือนฉายถามเสียงผสมความตื่นเต้น
“ตำแหน่งนั้นแป้งไม่เป็นหรอกค่ะ แป้งเล็งตำแหน่งอื่นอยู่” แป้งร่ำกระซิบตอบมารดา สองแม่ลูกมองสบตากันแบบรู้ความนัย
เดือนฉายยิ้มกริ่ม หากแป้งร่ำทำสำเร็จ ตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ของนาง คงสบายไปจนวันตาย ตระกูลร่ำรวยที่มีทายาทแค่หนึ่งเดียว แถมมารดาของครินต์ก็ใจดีและอ่อนโยนสุดๆ หากแป้งร่ำวาสนาดีได้เป็นสะใภ้เศรษฐีตระกูลนั้น เดือนฉายก็จะไม่มีห่วง ไม่มีปัญหาเรื่องแม่ผัว กับลูกสะใภ้เกิดขึ้นเลย