6
จากวันที่เธอได้รับข้อความจากคนที่อ้างตัวและใช้ชื่อว่า ผู้หวังดี รวมถึงได้โต้ตอบกลับไปด้วยข้อความที่แสดงให้เห็นว่าเธอไม่พอใจ หลังจากวันนั้นเธอก็ได้รับข้อความมาอีกเรื่อย ๆ จากอาทิตย์ละครั้ง ก็กลายเป็นสองสามครั้งต่ออาทิตย์ และล่าสุดส่งเข้ามาหาเธอ ทุกวัน
ม่านไหมทั้งรู้สึกไม่พอใจและโกรธ ที่ชีวิตของเธอแทนที่จะมีความสุขกับก้องเกียรติผู้ชายที่เธอเลือก กลับต้องมาปวดหัวจากใครก็ไม่รู้ที่ต้องการทำลายชีวิตคู่ของเธอ
อ้างตัวว่าเป็นผู้หวังดี แล้วทำไมถึงไม่มาเผชิญหน้ากับเธอตรง ๆ แล้วพาเธอไปเห็นจะ ๆ เลยล่ะ ว่าสามีนอกลู่นอกทางจริงไหม ไม่ใช่เอาแต่ส่งข้อความมาป่วนกันแบบนี้
แน่นอนว่าม่านไหมไม่เชื่อและไม่ระแวงข้อความที่ถูกส่งเข้ามาเลยสักนิด เธอมั่นใจในตัวก้องเกียรติมากเกินกว่าที่เธอจะใส่ใจข้อความไม่มีมูลพวกนั้น
แค่ข้อความใคร ๆ ก็พิมพ์ได้!
ติ้ง!
ผู้หวังดี : ถ้าไม่เชื่อ คิดว่าฉันหลอก ทำไมเธอไม่ลองดูพฤติกรรม สามีที่เธอรักนักรักหนา และไว้ใจมากล่ะ ว่าเขามี อะไรแปลกไปหรือผิดปกติอย่างที่ฉันบอกหรือเปล่า
วันนี้ก็เช่นกันที่ม่านไหมได้ข้อความจากคนคนนี้อีกครั้ง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ ผ่อนออกมา ก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความกรุ่นโกรธ
วันนี้เป็นวันหยุดของเธอแท้ ๆ แทนที่จะได้พักผ่อนอย่างสบายใจ กลับต้องมานั่งปวดประสาทกับคนโรคจิตที่ส่งข้อความเข้ามาหาเธอไม่หยุดนี่
ทั้ง ๆ ที่เธอก็บล็อกอีกฝ่ายไปแล้ว แต่คนคนนั้นก็ยังมีความพยายามในการสมัครไลน์ใหม่และส่งข้อความเข้ามาหาเธออยู่ดี
ขู่แจ้งความดำเนินคดีก็แล้ว กลับไม่มีทีท่าว่าจะกลัว นานวันเข้ายิ่งหนักข้อขึ้นทุกวัน
ยิ่งม่านไหมมองข้อความก็ยิ่งไม่พอใจและโกรธมากขึ้น
“ที่รัก เป็นอะไรครับ”
ม่านไหมตวัดสายตาไปมองคนถามด้วยสายตาเขียวปัด จนคนถูกมองอย่างก้องเกียรติต้องกลืนน้ำลายและเดินเข้ามาหาเธออย่าง ช้า ๆ
“เป็นอะไรครับ ใครทำให้คนดีของพี่อารมณ์ไม่ดีกัน”
ไม่พูดเปล่าก้องเกียรติดึงหญิงสาวเข้ามากอดก่อนจะก้มหน้ามองคนที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยสายตาห่วงใย
“ฮึ่ย!” ม่านไหมฮึดฮัดก่อนจะพยายามขยับตัวออกจากอ้อมกอดแต่ก็ไม่สามารถทำได้ จึงปล่อยให้สามีกอดไป
“ว่าไงครับ หืม”
ก้องเกียรติถามในขณะที่ริมฝีปากหนาก็ก้มลงกดจูบที่หน้าผากนูนของเธอ จนคนที่กำลังอารมณ์ไม่ดีเผลอหลุดยิ้มออกมา
“ก็คนโรคจิตน่ะสิคะ ยังไม่เลิกส่งข้อความมาหาม่านเลย แถมยังหนักข้อขึ้นทุกวัน” ม่านไหมเอ่ยบอกพร้อมทำหน้ายุ่ง
“หืม... คนที่ม่านบอกพี่ว่าใช้ชื่อผู้หวังดีนั่นน่ะเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ คนนั้นนั่นแหละ อย่าให้ม่านรู้นะว่าใครไม่งั้นม่านไม่เอาไว้แน่” หญิงสาวบอกอย่างเข่นเขี้ยว จนชายหนุ่มต้องหลุดหัวเราะออกมา
“เก่งจังเลยนะครับตัวแค่นี้”
“แน่นอนสิคะ พี่ก้องก็เหมือนกันอย่าให้ม่านรู้นะว่านอกลู่นอกทาง ไม่งั้นม่านไม่เอาพี่ก้องไว้แน่”
หญิงสาวพูดพร้อมมองหน้าสามีของเธอด้วยสายตาคาดโทษ
“โธ่คนดี...พี่จะไปมีใครได้ล่ะครับ แค่มีม่านคนเดียวก็เกินพอแล้ว” ชายหนุ่มรีบออดอ้อน พร้อมกับมองภรรยาด้วยสายตารักใคร่
“เหอะ ให้มันจริงเถอะค่ะ ว่าแต่พี่ก้องไม่ได้ไปทำอะไรลับหลังม่านใช่ไหมคะ นี่ม่านเริ่มระแวงแล้วนะ เล่นส่งมาปั่นป่วนม่านทุกวันแบบนี้” หญิงสาวหรี่ตาจับผิด
“ไม่มีหรอกครับ พี่รักม่านคนเดียว ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ไม่มีม่านพี่ยอมรับนะครับว่าเจ้าชู้ แต่ตั้งแต่เจอม่านพี่ก็เลิกไปหมดแล้ว ไม่มีใครอีกแล้วครับ”
“ดีแล้วค่ะ พี่ก้องต้องรู้ไว้นะคะว่าพี่คือคนแรก คือรักแรกของม่าน ถ้าพี่ทำผิดต่อม่าน ม่านคงเสียใจมากแน่ ๆ และในขณะเดียวกันม่านคงไม่สามารถอยู่กับพี่ได้เหมือนเดิมอีก”
“อื้อ ไม่เอาครับเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว เดี๋ยวม่านเอาไลน์ผู้หวังดีที่ส่งข้อความมาหาม่านให้พี่นะครับ พี่จะเอาไปจัดการเอง มายุ่งกับภรรยาที่พี่เคารพรักอย่างนี้ได้ยังไงกัน หึ รู้จักพี่น้อยไปซะแล้ว”
ม่านไหมพยักหน้าสนับสนุนคำพูดของก้องเกียรติก่อนที่ทั้งสองคนจะหยอกล้อกันตามประสาสามีภรรยาที่ใช้วันหยุดร่วมกัน
กริ๊ง... กริ๊ง...
ขณะที่ทั้งคู่กำลังหยอกล้อกันอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของก้องเกียรติก็ดังขึ้น จนชายหนุ่มต้องกดรับสาย
“ครับ”
“เข้าใจแล้วครับ ครับ ขอบคุณครับ”
“แล้วเจอกันครับ สวัสดีครับ”
ก้องเกียรติพูดกับปลายสายเสร็จก็วางสายไปโดยมีภรรยามองมาที่ตนด้วยสายตาตั้งคำถาม เขาจึงยิ้มให้เธอบาง ๆ แล้วพูดว่า
“ที่รักครับ พี่ต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด”
“ไปเมื่อไหร่คะ ไปกี่วัน ม่านจะได้จัดกระเป๋าให้”
“ไปพรุ่งนี้ครับ สามวันสองคืน พี่ต้องไปคุยงานกับบริษัทลูกด้วย”
“งั้นม่านไปจัดกระเป๋าให้ก่อนนะคะ”
เมื่อทราบแล้วว่าก้องเกียรติจะไปดูงานกี่วัน เธอจึงกระตือรือร้นจัดกระเป๋าให้ทันที
“เดี๋ยวก่อนก็ได้ครับ ว่าแต่ม่านไม่สนใจไปด้วยกันเหรอ”
ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยให้เธอไปจัดกระเป๋า จึงกอดเอวเธอไว้แน่นกว่าเดิม
“ไม่ได้หรอกค่ะ ม่านต้องทำงานนะคะ”
“เฮ้อ! พี่บอกแล้วว่าม่านไม่ต้องทำงานก็ได้ ภรรยาคนเดียวพี่เลี้ยงได้ ถ้าอยากทำจริง ๆ พี่ให้ไปเป็นผู้ช่วยพี่ม่านก็ไม่ไป”
ก้องเกียรติพูดอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
“ไม่เอาสิคะ อย่างอนสิ เราพูดเรื่องนี้กันบ่อยแล้วน้า”
“ก็มันจริงนี่ พี่อยากมีเวลาอยู่กับม่านตลอดเวลาเลย เราแทบจะไม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเลยนะครับช่วงหนึ่งเดือนมานี้ งานพี่ก็รัดตัวมากขึ้นทุกวัน”
“ฮือ...ก็ม่านไม่อยากจะให้ใครมาว่าพี่ก้องนี่นา ว่าใช้อำนาจบาตรใหญ่โดยการเอาม่านไปช่วยงาน”
“ใครจะกล้าว่ากัน ม่านเป็นภรรยาพี่นะครับ สักวันก็ต้องมาช่วยงานพี่อยู่ดี”
“อย่างอแงสิคะ ม่านสัญญาว่าถ้าจบสิ้นปีนี้ม่านจะออกจากงานที่บริษัทแล้วไปช่วยงานพี่ดีไหมคะ” ม่านไหมเอียงคอพูดอย่างน่ารัก
“ดีครับ” ก้องเกียรติยิ้มกว้างก่อนจะตอบรับอย่างยินดี
เมื่อตกลงกันได้แล้ว ม่านไหมจึงแยกไปเก็บกระเป๋าที่จะใช้เดินทางไปต่างจังหวัดให้ชายหนุ่ม ส่วนก้องเกียรติก็มองแผ่นหลังบางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะหวนนึกไปถึงข้อความที่ส่งมาป่วนภรรยาเขา จากแววตาอ่อนโยนก็กลายเป็นเย็นเยียบอย่างที่ม่านไหมไม่เคยเห็นและไม่มีวันจะได้เห็นแน่นอน