5
เช้าวันนี้ก็ยังคงเหมือนกับทุก ๆ วันที่ผ่านมา ม่านไหมยังปรนนิบัติทำหน้าที่เป็นภรรยาและแม่บ้านที่ดีให้สามีอย่างก้องเกียรติอยู่เสมอ
หนึ่งชายหนึ่งหญิงต่างนั่งทานข้าวไปหยอกล้อกันไป โดยเฉพาะก้องเกียรติที่ดูจะหยอกล้อภรรยาอย่างม่านไหมเป็นพิเศษ
เพียงได้เห็นอาการเขินอายแก้มแดงปลั่งของภรรยา ชายหนุ่มก็รู้สึกดีอย่างมาก ทั้งยังหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้เห็นรอยยิ้มหวานสุกสกาวนั่น
“พี่ไปทำงานก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
“จะไม่ให้พี่ไปส่งจริงเหรอ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ม่านขับรถไปเองได้”
หญิงสาวตอบยิ้ม ๆ เพราะเธอไม่อยากให้สามีเสียเวลา เนื่องจากที่ทำงานของเธอกับบริษัทของเขาไม่ได้อยู่ทางเดียวกัน ดังนั้นเธอขับรถไปเองจึงจะสะดวกมากกว่า
“ครับ งั้นม่านขับรถดี ๆ นะครับ ถ้าถึงแล้วส่งข้อความมาบอกพี่ด้วย” ก้องเกียรติบอกอย่างจำยอม
“ค่ะ”
ฟอด!
เมื่อหอมแก้มภรรยาแล้วเขาจึงขับรถออกจากบ้านไป แม้ใจจะอยากขับรถไปส่งเธอมากแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็ต้องหักใจ และด้วยความที่เคารพภรรยาของตัวเอง เขาจึงเลิกวอแวเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้
ต้องบอกก่อนว่า เมื่อก่อนก้องเกียรติก็ไปส่งภรรยาบ้างตามโอกาส แต่พอรู้ว่าปราชญาทำงานที่เดียวกับภรรยาของเขา ทั้งยังเป็นรุ่นพี่ในแผนกเขาก็รู้สึกไม่พอใจ และอยากจะไปส่งหญิงสาวมันทุกวัน
แต่แล้วก็ต้องล้มเลิกความคิดเมื่อภรรยายืนกรานว่าจะขับรถไปทำงานด้วยตนเอง สำหรับตัวก้องเกียรติเองเขาไว้ใจม่านไหมแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับปราชญาเขาไม่ไว้ใจเลยสักนิด ผู้ชายด้วยกันมันมองกันออก
ปราชญาจ้องจะตีท้ายครัวเขาอยู่แน่นอน!
เหอะ คิดมาถึงตรงนี้ก้องเกียรติก็ยิ่งรู้สึกร้อนรุ่มในอก กลัวม่านไหมจะหลงคารมของผู้ชายคนนั้น แม้ว่าปากเขาจะบอกว่าไว้ใจเธอมากแค่ไหน แต่ภายในใจลึก ๆ มันก็ยังมีความกังวลและระแวงอยู่ดี
กริ๊ง... กริ๊ง...
“ครับ” ก้องเกียรติกดรับโทรศัพท์ก่อนจะกรอกเสียงไปตามสาย
‘...’ คิ้วของชายหนุ่มขมวดเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของคนที่โทรเข้ามา
‘ถ้ายังอยากมีชีวิตที่ดีก็ควรรู้ว่าควรทำตัวยังไง แต่ถ้ายังไม่รู้และพยายามทำอะไรบางอย่างที่จะทำลายผม อย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน แค่นี้นะ’
แววตาของก้องเกียรติฉายแววล้ำลึกอยู่สักพักก่อนจะปรับให้เรียบนิ่งดังเดิม ชายหนุ่มกำลังครุ่นคิดบางอย่าง ชีวิตเขานอกจากภรรยาอย่างม่านไหมแล้ว เขาก็ไม่คิดที่จะสนใจใครอีก ดังนั้นหลังจากพูดจบชายหนุ่มจึงกดตัดสายทันที โดยที่ไม่สนใจคนที่โทรเข้ามาเลยสักนิดว่าจะรู้สึกยังไง
ทางด้านม่านไหมหลังจากยืนส่งก้องเกียรติขับรถพ้นรั้วประตูบ้านแล้ว เธอถึงได้ขับรถไปทำงานตามปกติ
หน้าที่การงานของม่านไหมคือแผนกบัญชีหรือการเงิน คอยดูเรื่องการเบิกจ่ายหรืองบประมาณของบริษัทโดยมีปราชญาเป็นคนอนุมัติอีกที
ส่วนเพื่อนสนิทอย่างกิ่งกมลก็มีตำแหน่งเดียวกันกับเธอ ทั้งสองทำงานแผนกเดียวกัน โดยแบ่งงานกันดูคนละโพรเจกต์ โดยมีหัวหน้าของพวกเธอเป็นคนจัดการแบ่งงานให้
ส่วนบริษัทที่พวกเธอทำงานกันอยู่คือบริษัทรับออกแบบโฆษณา พวกเธอเริ่มทำงานที่นี่ตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ ซึ่งจะบอกว่าเป็นโชคดีของพวกเธอก็ว่าได้ เพราะตอนนั้นคนที่ทำตำแหน่งนี้เขาได้ลาออกไปพอดี และบริษัทก็ต้องการพนักงานมาช่วยงานพวกเธอจึงได้งานนี้มาอย่างง่ายได้ โดยผ่านการแนะนำจากรุ่นพี่ที่รู้จัก และกิ่งกมลก็พบรักกับคีรินทร์ที่นี่เช่นกัน
คีรินทร์มีตำแหน่งเป็นถึงรองประธานบริษัท ส่วนประธานบริษัทจะเป็นใครนั้นพวกเธอก็ไม่อาจทราบ หญิงสาวทั้งสองทำงานมาสองสามปีก็ยังไม่เคยเจอหน้าคนที่เป็นท่านประธานเลยสักครั้ง
บ้างก็ว่าเขายังเรียนอยู่ต่างประเทศ หรือไม่ก็ดูงานอยู่ที่ต่างประเทศยังไม่มีกำหนดกลับ งานที่ประเทศไทยจึงเป็นหน้าที่ของ คีรินทร์ที่ต้องดูแลและจัดการทั้งหมดนั่นเอง
“ม่าน พี่ปราชญ์ขอดูสรุปงบประมาณของเดือนที่แล้วอะ แกเตรียมไว้พร้อมหรือยัง”
“อือ ฉันเตรียมไว้ละ ของแกล่ะ”
“ฉันก็เตรียมไว้แล้ว งั้นเอามานั่งสรุปรวมยอดกันเถอะ เวลาโดนถามจะได้ตอบได้ชัดเจน” ม่านไหมพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของเพื่อน ก่อนที่ทั้งสองจะช่วยกันดูงบประมาณทั้งหมดจนเสร็จเรียบร้อย
“นี่ดีนะพวกเราทำไว้อย่างมีระเบียบเรียบร้อย ไม่งั้นโดนพี่ตาดุแน่” กิ่งกมลว่า
พี่ตาที่พูดถึงก็คือสมิตาหัวหน้าของพวกเธอนั่นเอง ส่วนตำแหน่งของปราชญานั้นค่อนข้างคลุมเครือ พวกเธอรู้แค่ว่าปราชญามีอำนาจสูงสุดในแผนกนี้เท่านั้น ไม่ได้มีตำแหน่งตายตัวเหมือนพนักงานคน อื่น ๆ เรื่องนี้หญิงสาวทั้งสองและพนักงานบางกลุ่มก็สงสัยเช่นกัน
“อื้อ นี่ก็ใกล้เที่ยงละ เราเก็บของกันเถอะ จะได้ไปทานข้าวที่โรงอาหาร”
“อืม”
กิ่งกมลรับคำ ต่างคนต่างเก็บของบนโต๊ะของตัวเอง ในขณะที่ม่านไหมกำลังหยิบโทรศัพท์นั้นเธอก็เห็นว่ามีข้อความถูกส่งเข้ามาหลายนาทีแล้ว นั่นแสดงว่าก่อนหน้านี้เธอมัวแต่สรุปยอดเลยไม่ได้สนใจโทรศัพท์แน่ ๆ จึงไม่ได้ยินเสียงแจ้งเตือน
ม่านไหมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข้อความที่ถูกส่งมาจาก แอปพลิเคชันที่มีชื่อว่าไลน์ ก่อนที่คิ้วเรียวสวยของเธอจะขมวดมุ่นด้วยความสงสัย เพราะมันถูกส่งมาจากคนที่เธอไม่รู้จักที่ใช้ชื่อว่า
ผู้หวังดี!
ผู้หวังดี : แหม... ใจดีใจกว้างจังเลยนะคะ
สามีมีคนอื่นยังไม่ว่าอะไร
ผู้หวังดี : เอ้... หรือว่าภรรยาที่แสนดีจะไม่รู้กันน้า
ว่าสามีที่รักนักรักหนากำลังสวมเขาให้
ผู้หวังดี : หึหึ ยังไงก็ขอให้รักกับสามีไปนาน ๆ นะคะ อ้อ! แต่ถ้า ฉลาดก็ควรจะเผื่อใจไว้บ้าง ผิดหวังขึ้นมาจะได้ไม่เจ็บ ปางตาย
ผู้หวังดี : เสือน่ะ...มันไม่เคยทิ้งลายหรอกนะคะ
หลังอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามาทั้งหมดจบม่านไหมก็รู้สึกไม่พอใจ ทั้งยังรู้สึกเหมือนกำลังถูกปั่นหัวจากใครบางคนที่ต้องการให้เธอและก้องเกียรติต้องทะเลาะกัน
ม่านไหม : คุณเป็นใคร ต้องการอะไร
ม่านไหม : ถ้าว่างมากก็ไปทำชีวิตตัวเองให้ดี ไม่ใช่มารังควานให้ คนอื่นเขาแตกแยกกัน
ม่านไหมส่งข้อความกลับไปก่อนจะเลิกสนใจ พร้อมกับเดินไปหากิ่งกมลที่ยืนรออยู่ จากนั้นทั้งสองก็ตรงไปที่โรงอาหารของบริษัทเพื่อทานข้าวทันที