บทที่ 5
บทที่ 3
เมืองปาแลร์โม เมืองหลวงของแคว้นปกครองตนเองซิซิลี ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี มีสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมอันหลากหลายผสมผสานกันอย่างลงตัว
นอกจากเมืองปาแลร์โมจะอุดมไปด้วยทรัพย์ตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟเอตนาลูกใหญ่ ที่ยังคงมีพลังงานอยู่ หรือท้องทะเลสีคราม และชายหาดอันขาวสะอาดแล้ว เมืองหลวงของเกาะซิซิลียังเป็นถิ่นที่พำนักพักพิงของดอน ออฟ ดอน อย่างดอนคาร์ล คาร์ลอส มาโก้ร์ ด้วย ซึ่งผู้เป็นเจ้าของฉายา ได้ครอบครองคฤหาสน์หลังงาม สร้างเด่นตระหง่านอยู่บนพื้นที่นับสิบๆ ไร่มีอาณาบริเวณทางด้านหลังคฤหาสน์ติดกับหาดทรายขาวและท้องทะเลสีคราม
บริเวณชายหาดอันขาวสะอาด คลื่นลมพัดเอื่อยๆ เย็นสบาย หอมเอากลิ่นอายความเค็มของน้ำทะเลมาปะทะกาย กอปรกับเสียงคลื่นทะเลซาซัดกระทบโขดหิน ก่อเกิดเป็นเสียงดนตรีอันไพเราะเสนาะหูยิ่งนัก
และสถานที่แห่งนี้ ก็เป็นแหล่งธรรชาติที่ดอนหนุ่มมักจะหลบมานั่งจิบบรั่นดี เคล้ากับความงดงามที่ธรรมชาติเป็นผู้สรรค์สร้าง
ทว่าบรรยากาศในยามเย็นอันแสนสบายของดอนคาร์ล กำลังจะถูกทำลายลง เมื่อ
‘แลนโดส อันเดรีย’ ลูกน้องมือขวาซึ่งเป็นทั้งบอร์ดี้การ์ด เป็นทั้งที่ปรึกษาส่วนตัวของดอนหนุ่ม กำลังก้าวเท้าเข้ามารายงานความเคลื่อนไหวอันไม่โสภาสักเท่าไร ให้ผู้เป็นเจ้านายล่วงรู้
“ดอนครับ ผมมีเรื่องจะรายงานให้ดอนทราบครับ”
แลนโดส ยืนกุมมือนิ่งอยู่หน้าเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งยังคงจิบบรั่นดีนั่งชมพระอาทิตย์ชิงพลบลาลับขอบโพ้นทะเลอย่างสบายอารมณ์
“มีอะไรก็ว่ามาแลนโดส”
ดอนคาร์ลออกปากเอ่ยอนุญาต โดยไม่ได้หันมามองหน้าของลูกน้องคนสนิท ดวงตาสีฟ้าสุดเซ็กซี่ ที่สาวๆ ส่วนใหญ่มักจะอ่อนระทวยทุกครั้งที่ได้เห็น ยังคงจับจ้องมองพระสุริยาดวงใหญ่ ซึ่งถูกทะเลสีครามกลืนกลิ่นทีละเล็กทีละน้อย ขณะรอฟังสิ่งแลนโดสรายงานให้ตนเองได้รับรู้
แลนโดสลอบมองเจ้านายหนุ่มผู้องอาจน่าเกรงขาม ในใจนั้นไม่อยากเอ่ยรายงานในสิ่งที่ตนเองได้ยินได้รู้มาให้ดอนหนุ่มฟัง เพราะรู้ว่าสิ่งที่ตนเองจะพูดออกไปนั้นหาได้ทำให้ดอนคาร์ลพึงพอใจหรือฟังระรื่นหูไม่ แต่กระนั้นเขาก็จำเป็นต้องเอ่ยพูด เพื่อให้ดอนรับทราบและเตรียมห้ามปราม ก่อนเรื่องมันจะบานปลายไปกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
“คือโซลิโฟและเดอริโก้กำลังจะแหกกฎขององค์กรเราอีกแล้วครับดอน”
แลนโดสเลี่ยงการเรียกคำขึ้นต้นของหัวหน้าแก๊งทั้งสองด้วยคำว่า ‘ดอน’ เพราะคำนี้หรือตำแหน่งนี้เขาคิดว่าเหมาะสำหรับเรียกเจ้าพ่อตัวจริงอย่างดอนคาร์ลเสียมากกว่า
ส่วนทั้งสองคนที่เขาเรียกชื่อมานั้น ไม่สมควรย่างกรายเข้าใกล้คำว่าเจ้าพ่อด้วยซ้ำไป เพราะคนที่เป็นเจ้าพ่อตัวจริง เขาไม่ทำตัวเยี่ยงโซลิโฟและเดอริโก้ ที่คอยทำตัวเป็นหมาลอบกัด ทำร้ายดอนคาร์ลในยามเผลอ นอกจากนั้นยังทำตัวแหกคอก ทำผิดกฎขององค์กรอยู่ตลอด
เวลาด้วย
ดอนคาร์ลสาดบรั่นดีที่เหลือครึ่งแก้วเข้าสู่ลำคอ น้ำสีอำพันที่ค่อยๆ ไหลลงสู่ลำคอ ทำเอาร่างกายของดอนหนุ่มร้อนผ่าวขึ้นมาแทบจะทันที ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยถามเสียงราบเรียบ ทว่าทรงอำนาจน่าเกรงขามยิ่งนัก
“โซลิโฟและเดอริโก้มันขยับหางพากันทำอะไรอีก”
“ค้าเฮโรอีนครับดอน ล็อตใหญ่เสียด้วย หากพวกมันส่งสินค้าสำเร็จ คงได้เงินก้อนโตไม่ต่ำกว่า 40 ล้านยูโรแน่นอนครับดอน”
เป็นดั่งแลนโดสคิดไว้จริงๆ เพราะทันทีที่ได้ยินถึงเรื่องการแหกกฎของคนทั้งสอง ดอนคาร์ลก็ถึงสบถลั่นด้วยความโกรธกริ้ว
“นรก!”
ดอนคาร์ลสบถดังลั่น พร้อมกับขว้างแก้วบรั่นดีลงบนพื้นทรายขาวสะอาด ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาสีฟ้าวาวโรจน์โชนแสงแห่งไฟโทสะลูกใหญ่ นึกไม่ถึงว่าโซลิโฟและเดอริโก้จะกล้าขัดคำสั่งของเขา
“พวกมันทำมากี่ครั้งแล้วแลนโดส”
“ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วครับดอน”
ลูกน้องมือขวาตอบตามที่ตนเองได้ข้อมูลมา ตอนได้ยินว่าโซลิโฟและเดอริโก้ รวมหัวกันหาเงินด้วยวิธีลัดทั้งๆ ที่ดอนคาร์ลห้ามไว้แล้ว ก็นึกสยองแทนคนทั้งสองอยู่ไม่น้อย เพราะหากดอนคาร์ลซึ่งเป็นคนดูแลองค์กรมาเฟียทั้งหมดในเกาะซิซิลีทราบเรื่องเข้า คนทั้งสองคนคงถูกดอนหนุ่มเล่นงานจนตั้งรับไม่ทันเป็นแน่
ดอนคาร์ลกัดฟันดังกรอดจนเส้นเอ็นตรงลำคอปูดโปน ไม่อยากเชื่อว่าลูกน้องทั้งสองคนจะลอบทำสิ่งผิดกฎหมายมาถึงสองครั้งสองคราแล้ว
“พวกมันจะลงมือเมื่อไร”
ขณะเค้นเสียงถาม หัวสมองอันฉลาดหลักแหลม ก็ผุดประกายวาบไหว คิดออกทันทีว่าจะจัดการอย่างไรให้ลูกน้องที่เป็นแกะดำทั้งสองได้เลิกราจากอาชีพที่เรียกว่าผิดกฎหมาย
“อีกสองวันครับดอน ลูกน้องของผมบอกว่าโซลิโฟนัดลูกค้ามารับยาในท่าเรือตอนตีสองครับดอน”
แลนโดสรายงานถึงช่วงเวลายามราตรีกาลอันมืดมิด ที่เหมาะสำหรับการทำเรื่องผิดกฎหมาย ให้ดอนหนุ่มทราบ ซึ่งเขารู้ว่าที่ดอนคาร์ลนิ่งเงียบไปนั้น เป็นเพราะว่ากำลังขบคิดแผนการ เพื่อจัดการกับลูกน้องปลายแถวทั้งสองคน
“ถ้าเดาไม่ผิดพวกมันเก็บเฮโรอีนไว้ในบ้านของโซลิโฟใช่ไหม”
ดอนคาร์ลเค้นเสียงถามเย็นยะเยือก เห็นท่าว่าคืนนี้เขาคงไม่ได้นอนหลับสบายอยู่บนที่นอนนุ่มๆ เป็นแน่
“ครับดอน สินค้ารอบนี้ล็อตใหญ่จริงๆ ไอ้โซลิโฟมันกลัวว่าเงิน 40 ล้านจะหลุดลอยไป มันก็เลยเก็บเฮโรอีนทั้งหมดไว้ในห้องนอนของมันครับ”
ลูกน้องที่มีมากราวกับตาสัปปะรด ทำให้ดอนคาร์ลรู้ความเคลื่อนไหวแทบทุกอย่างของคนที่อยู่ภายใต้องค์กรโพเทนซา ออฟ โพเทนซา ซึ่งเขาจะไม่ยอมให้องค์กรต้องมัวหมองอีกครั้ง หลังจากเขาได้ล้างมือมาเกือบห้าปีแล้ว
“ไอ้โซลิโฟมันรักเฮโรอีนมากกว่าเมียมัน จนถึงขั้นเอาไปนอกกอดอยู่ในห้องนอนเลยหรือนี่”
ดอนคาร์ลเค้นถามเสียงเยาะหยัน แต่อย่างว่าแหละ ไอ้ผงสีขาวๆ ที่ใครๆ ก็เรียกว่าเฮโรอีน มันดันมีมูลค่าสูงถึง 40 ล้านยูโร ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าราคาตัวของเมียมันเสียอีก โซลิโฟจึงจำต้องรักษายานรกล็อตนี้ไว้ให้ดีที่สุด
“ดอนจะจัดการกับไอ้พวกหางแถวยังไงดีครับ”
แลนโดสอยากรู้แผนอันแยบยล ว่าดอนหนุ่มผู้องอาจจะสั่งสอนอย่างไร ให้แกะดำทั้ง
สองล้มเลิกเรื่องการทำผิดกฎหมาย ซึ่งตัวดอนคาร์ลเองนั้นประกาศล้างมือมานานหลายปีแล้ว
“นายเตรียมมือดีไว้สักห้าคน เดี๋ยวคืนนี้เราจะไปขโมยของรักของหวงของไอ้โซลิโฟ”
ดอนคาร์ลเอ่ยบอกแผนการเพียงคร่าวๆ ถึงสิ่งที่ตนเองต้องการสั่งสอนให้แกะดำทั้งสองได้หลาบจำ
“ได้เลยครับดอน”
แลนโดสรับคำ เริ่มสนุกขึ้นมาทันทีที่ได้ทราบแผนการแค่เพียงบางเสี้ยวบางตอนของดอนหนุ่ม ซึ่งแน่นอนว่าหากดอนคาร์ล และพวกเขาสามารถขโมยยานรกที่มีมูลค่ามหาศาลสำหรับพ่อค้ายา ขณะเดียวกันก็เป็นนรกของแท้สำหรับผู้ที่เสพมัน มาจากอ้อมกอดอันแสนสกปรกของโซลิโฟได้ แกะดำทั้งสองไม่ว่าจะเป็นโซลิโฟและเดอริโก้ คงกระอักเลือดตายแน่ ที่จู่ๆ เงิน 40 ล้านยูโรก็หลุดลอยจากมือของพวกมันในพริบตาเดียว
ดอนคาร์ลลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์ โดยไม่ลืมถามถึงเรื่องที่ทำให้เขาหนักใจอยู่ในทุกวันนี้
“ทำไมโซลิโฟและเดอริโก้ไม่ล้างมือสักที ทั้งๆ ที่มีเงินทองใช้สอยมากมาย เรียกว่าใช้ทั้งชาตินี้ก็ไม่มีวันหมด แต่ทำไมสองคนนั้นถึงไม่รู้จักคำว่าพอ ทำไมไม่ล้างมือจากเรื่องผิดกฎหมาย ล้างมือจากเรื่องชั่วๆ ที่ทำมาเกือบทั้งชีวิตของพวกมัน”
ลูกน้องแก๊งต่างๆ ภายใต้การดูแลขององค์กรโพเทนซา ออฟ โพเทนซา ต่างก็พากันล้างมือ เลิกข้องแวะกับธุรกิจผิดกฎหมายตามคำประกาศห้ามของผู้เป็นหัวหน้าองค์กรนั่นก็คือดอนคาร์ล เพราะเจ้าพ่อหนุ่มคิดว่าจำนวนเงินที่หามาได้จำนวนมหาศาล มันมีมากเกินพอแล้ว ไม่จำเป็นที่พวกเขาทุกคนต้องทำธุรกิจเสี่ยงตาย เสี่ยงคุก เสี่ยงตะรางอีกต่อไป จริงอยู่ว่าตำรวจไม่อาจเข้าถึงพวกเขาได้มานานแล้ว แต่กระนั้นมันก็ต้องมีสักวัน ที่จะพลาดท่าเพลี่ยงพล้ำให้กับตำรวจ
สำหรับตัวเขานั้นล้างมือจากวงการมาเฟียมานานหลายปีแล้ว ซึ่งมีธุรกิจใสสะอาดอีกมากมายก่ายกองให้เขาและลูกน้องอีกหลายๆ คนร่วมกันทำเงินให้กับครอบครัว แต่ก็ใช่ว่ามุ่งทำเงิน มุ่งกอบโกยความมั่งคั่ง ความร่ำรวยให้กับพวกพ้องของพวกตนแค่เพียงอย่างเดียว องค์กรการกุศล หรือโบสถ์ศาสนาเก่าแก่ที่ไม่ได้รับการดูแล หรือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกมากมายนับสิบแห่ง ที่ดอนคาร์ลได้เข้าไปอุปถัมภ์ดูแลทำนุบำรุง
แม้สิ่งที่ทำในปัจจุบันจะไม่สามารถลบล้างความผิด ลบล้างคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ทั่วกายออกไปได้ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย และดีกว่าทำผิดซ้ำซากเฉกเช่นโซลิโฟและเดอริโก้
แลนโดสเดินตามดอนหนุ่มมาแบบติดๆ พอร่างสูงใหญ่กำยำทรุดตัวลงนั่งในห้องอาหาร ก็รีบส่งสัญญาณให้เด็กรับใช้เสิร์ฟอาหารให้ดอนหนุ่มทันที
“ความโลภและต้องการอำนาจยังไงล่ะครับดอน ที่ทำให้โซลิโฟและเดอริโก้ไม่ยอมหยุด ไม่ยอมล้างมือสักที”
ลูกน้องมือขวาเอ่ยตอบคำถามก่อนหน้านี้ของผู้เป็นเจ้านาย อำนาจและความโลภไม่เคยเข้าใครออกใครอยู่แล้ว ยิ่งมีอำนาจอยู่ในมือมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้คนเราเหลิงคิดว่าตัวเองกลายเป็นพระเจ้ามากเท่านั้น
“นายรู้ไหมว่าพวกมันจะส่งยาให้ใคร”
ดอนคาร์ลเอ่ยถามเสียงเย็น หัวสมองอันฉลาดหลักแหลม เริ่มคิดแผนการใหม่ที่จะจัดการกับแกะดำทั้งสองตัวขององค์กร
“พวกมันส่งยาให้เจ้าพ่อค้ายาชาวรัสเซียครับดอน นัยว่าพวกนี้กระเป๋าหนัก จ่ายให้ไม่อั้นหากมีของตามที่พวกมันต้องการ และที่สำคัญต้องเป็นผงขาวสะอาดบริสุทธิ์จริงๆ”
ดอนคาร์ลยิ้มเย็นตรงมุมปาก ก่อนจะหลุดปากเอ่ยถามลูกน้องมือขวาอย่างเป็นนัยๆ
“แล้วถ้าหากผงขาวมันไม่บริสุทธิ์ล่ะแลนโดส”
“หมายความว่า...”
“ใช่! เราจะทำให้เฮโรอีนของโซลิโฟเจือไปด้วยสิ่งแปลกปลอมสัก 70-80 เปอร์เซ็นต์ แต่ให้พ่อค้ายาชาวรัสเซียมันรู้ตัวตอนพวกมันได้ยา และเดินทางกลับประเทศมันไปแล้ว ไม่ต้องบอก...นายก็รู้ใช่ไหมว่าหากพ่อค้ายาชาวรัสเซียรู้ว่าถูกย้อมแมวขาย ไอ้โซลิโฟและเดอริโก้จะโดนอะไรบ้าง”
ดอนหนุ่มผู้ชาญเป็นกรด หัวเราะเสียงเย็นยะเยือกกับแผนการยืมมือเจ้าพ่อชาวรัสเซียมาจัดการสั่งสอนลูกน้องนอกคอกของตนเอง
แลนโดสถึงกับหัวเราะร่วนด้วยความสะใจ กับแผนการของดอนผู้ปราดเปรื่องฉลาดล้ำลึก พร้อมกันนั้นก็เลื่อนอาหารมาตรงหน้าผู้เป็นเจ้านาย พร้อมกับเอ่ยขอความเห็น
“เอาแป้งมันไปแทนที่เฮโรอีนสัก 20-30 กิโลฯ ก็ดูท่าว่าจะดีเหมือนกันนะครับดอน”
“ตามนั้นเลยแลนโดส เอาให้สะอาดหมดจด อย่าให้โซลิโฟมันรู้ตัวเป็นอันขาดว่าสินค้าของมันถูกสอดไส้ด้วยแป้งมัน”
ดอนคาร์ลยิ้มเยาะตรงมุมปากขณะสั่งงานเสียงทุ้มลึกทรงอำนาจ อยากเห็นหน้าของลูกน้องนอกคอกเร็วๆ ว่าจะทำหน้ายังไง ตอนถูกมาเฟียชาวรัสเซียตามมาทวงแค้นถึงบันไดบ้าน
“แน่นอนครับดอน ผมจะทำให้สะอาดหมดจดเรียบร้อยเป็นที่สุด รับรองว่าพวกมันจะไม่มีทางรู้แน่นอนว่าเฮโรอีนของแท้บริสุทธิ์ ถูกยักย้ายออกมาจากห้องนอนของมันแล้ว”
“ไอ้แกะดำทั้งสองตัวคงกระอักเลือดแน่งานนี้”
“ดอนครับ แล้วจะจัดการเฮโรอีนที่ได้ยังไงดีล่ะครับ”
“เอาไปเผาทำลายซะ อย่าให้มันเล็ดลอดออกไปทำร้ายชาวบ้านได้แม้แต่ละอองเดียว”
ดอนคาร์ลสั่งเสียงเข้ม ความเจ็บปวด บาดแผลที่กลัดนองอยู่ในใจทุกวี่ทุกวัน อันมีสาเหตุมาจากผงขาวยานรกร้ายแรง ซึ่งทำเงินจำนวนมหาศาลให้กับคนขาย และให้โทษร้ายแรงถึงชีวิตสำหรับผู้เสพมัน เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาเกลียดและต้องการกำจัดเฮโรอีนให้หมดไปจากองค์กรของตนเอง
และเพราะยานรกเหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้เขาต้องสูญเสียคนรักไปโดยไม่อาจเรียกคืน ซึ่งมันเป็นอีกหนึ่งเหตุผล ที่ทำให้เขาคิดล้างมือจากการจมดิ่งอยู่ในโลกอันแสนมืดมน
“ได้เลยครับดอน ผมจะจัดการเผามันทิ้ง จะไม่ยอมให้มันหลุดออกไปทำร้ายใครได้อีก”
แลนโดสรับคำเสียงหนักแน่น รู้ว่าเพราะเหตุใดดอนผู้องอาจถึงเกลียดยานรกยิ่งนัก เพราะในวันที่คนรักของดอนสิ้นใจอยู่ในอ้อมแขนของดอนหนุ่ม เขาก็อยู่ ณ ที่นั้นด้วย แต่ทว่าเขาและดอนคาร์ลก็ไม่สามารถยื้อชีวิตผู้หญิงที่ดอนรักที่สุดไว้ได้
“ขอบใจนายมากแลนโดส” ดอนคาร์ลคลี่ยิ้มบางๆ ขณะเอ่ยขอบใจลูกน้องมือขวา
“ไม่เป็นไรครับดอน ผมยินดีทำเพื่อดอนเสมอ”
คำขอบคุณของดอนผู้ยิ่งใหญ่ ทำเอาแลนโดสฉีกยิ้มกว้างโค้งศีรษะให้ผู้เป็นนายด้วยความดีใจ เพราะนานๆ ทีจะได้ยินคำพูดขอบอกขอบใจหลุดออกมาจากปากของดอนหนุ่มผู้เย็นชา