บทนำ
เสียงร้องไห้ปริ่มขาดใจของสตรีวัยห้าสิบเจ็ดปีขณะที่มองกลุ่มควันสีเทาที่ลอยออกมาจากปล่องเมรุกรีดหัวใจชายวัยยี่สิบเจ็ดปี ที่ต้องทนเห็นมารดาบุญธรรมในสภาพเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากเข้าไปทุกวัน อาการเช่นนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สาริชจากไปอย่างไม่มีวันกลับ นำพาความโศกเศร้ามาให้ครอบครัวของเขาชนิดที่ว่า เสมือนตกอยู่ในโลกมืดก็ว่าได้ แล้วตอกย้ำความเศร้าให้หนักขึ้น เมื่อตัวต้นเหตุที่คร่าชีวิตน้องชาย ไม่ได้ถูกลงโทษตามกฎหมาย แต่กลับเป็นอีกคนหนึ่งที่ยินยอมเป็นแพะรับผิดแทน
“แม่ครับ เรากลับบ้านกันนะครับ พรุ่งนี้ค่อยมารับปอกลับบ้าน”
ภาวินทร์เข้าไปบอกมารดาที่ร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด ก่อนจะประคองนางให้ลุกขึ้นยืน แต่ดูเหมือนว่าขาทั้งสองข้างของอรุณจะอ่อนล้าเกินกว่าจะหยัดยืนได้ พอลุกขึ้นได้ก็เกิดอาการมึนศีรษะ ทุกอย่างรอบตัวโคลงเคลงราวกับว่าอยู่ในเรือที่ลอยบนพายุคลั่งของทะเล สุดท้ายก็เป็นลมล้มพับ ภาวินทร์จึงอุ้มอรุณไปปฐมพยาบาลในศาลาสวดศพ
“แม่เป็นลมอีกแล้วเหรอ” เสียงทุ้มแหบโรยของปัญญา บิดาบุญธรรมที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์เอ่ยถาม
“ครับพ่อ” ภาวินทร์ตอบ หยิบยาดมมาจ่อตรงปลายจมูกมารดา
“วันนี้รอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย อรุณคงทำใจไม่ได้...ฮือ...พ่อเองก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน...ฮือ”
อุบัติเหตุในค่ำคืนนั้น ไม่เพียงแค่สาริชในวัยยี่สิบปีที่เสียชีวิต ปัญญาโดนผลพวงจากรถยนต์อีกคันที่พุ่งชนรถแท็กซี่ที่ตนเช่าขับอย่างจัง ส่งผลให้รถแท็กซี่หมุนหลายตลบ ก่อนจะพลิกคว่ำกลางถนน ปัญญาที่ยังพอมีสติคลานออกจากรถได้ทัน หมายจะเข้าไปช่วยสาริชบุตรชาย
ทว่าเหตุการณ์ซ้ำร้ายหนัก เมื่อรถแท็กซี่เกิดระเบิด ไฟลุกท่วม เขามองเปลวเพลิงที่ลุกโชนอยู่ไม่กี่อึดใจ สติของเขาก็ดับวูบ มารู้ตัวอีกทีก็อีกสองวันต่อมา พอฟื้นคืนสติ เขาได้รับข่าวร้ายสองข่าวในเวลาเดียวกัน ข่าวร้ายข่าวที่หนึ่งคือ สาริชเสียชีวิต ข่าวร้ายข่าวที่สองคือ เขาไม่มีขาข้างขวา
ภาวินทร์กัดกรามแน่น มองความเสียใจและความทุกข์ที่อาบใบหน้าบุพการี ที่แม้นว่า ทั้งสองจะไม่ใช่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด แต่เป็นผู้ให้ชีวิตใหม่ที่ชาตินี้เขาต้องตอบแทนบุญคุณ ยิ่งมองเห็นยิ่งรู้สึกคับแค้นใจ จนอยากจะกรีดเลือดฉีกเนื้อผู้หญิงคนนั้นเป็นชิ้นๆ
“ในเมื่อกฎหมายลงโทษคนทำผิดตัวจริงไม่ได้ ผมเองครับ ผมจะพิพากษาครอบครัวของผู้หญิงนั้นด้วยตัวผมเอง พวกมันจะต้องเจ็บปวดและทุกข์อย่างแสนสาหัสมากกว่าเรา ร้อยเท่าพันเท่า จากนั้นผมจะให้พวกมันมาขอขมาเราทุกคน”
ภาวินทร์ประกาศกร้าว นัยน์ตามีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า มองหน้าบิดามารดาบุญธรรม ก่อนจะเงยหน้ามองควันสีเทาที่ลอยออกจากปล่องเมรุ
“ปอไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น พี่จะทวงความยุติธรรมให้ปอเอง ไปสู่สุขคตินะน้องรัก”
ผู้พูดเป็นคนรักษาสัญญา ยึดมั่นในวาจาเป็นที่สุด ในเมื่อเขาเปล่งออกมาแล้ว เขาต้องทำให้ได้ จุดเริ่มต้นของการชำระความแค้นเริ่มต้นนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป