บท
ตั้งค่า

บุรุษแซ่หง2

“เจ้าเป็นใคร?” เส้นเสียงทุ้มใหญ่เอ่ยออกมาเพียงเบาๆ แต่ทว่ากลับทรงพลังน่ายำเกรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“เอ่อ...ข้า” เหม่ยหลินเริ่มไม่แน่ใจว่าควรเอ่ยคำแนะนำตัวหรือไม่ เขาเป็นบุรุษแปลกหน้า นางไม่ควรไว้ใจเขา

“เจ้ารู้จักกับข้าหรือไม่” เจ้าของสายตาคมดำมืดมิดยิ่งกว่ารัตติกาลเอ่ยออกมาอีกคราด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแหบห้วนทรงอำนาจเฉกเช่นเดิม

เหม่ยหลินเริ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ท่าทางของเขาช่างน่ากลัวยิ่งนัก ทั้งน้ำเสียงทั้งแววตา ดูทรงพลังมีอำนาจเสียยิ่งกว่าพระบิดาของนางที่เป็นถึงฮ่องเต้เสียอีก

“ท่ะ ท่าน เอ่อ...ข้า...มิอาจทราบได้” หญิงสาวเริ่มส่งเสียงตะกุกตะกักติดขัดขึ้นมา “ท่านเป็นใคร?” นางโพล่งถาม

ชายหนุ่มเริ่มหรี่ตามองเมื่อได้ยินประโยคคำถามนี้ขึ้นมา

เขาเป็นใครอย่างนั้นหรือ?

เขาเองก็ไม่แน่ใจ

เหตุใดถึงไปนอนอยู่ตรงนั้น

ทำไมกัน?

ใบหน้าได้รูปคมเข้มของบุรุษตรงหน้าเริ่มฉายแววไม่แน่ใจและสงสัยในอะไรบางอย่าง จนเหม่ยหลินรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างที่เขาแสดงออกมา เขาจำไม่ได้หรือ?

“หง...” เสียงหวานๆ ของเหม่ยหลินเอ่ยออกมาเพียงบางเบา เมื่อนางนึกถึงหยกสีเข้มหน้าตาแปลกประหลาดที่ห้อยอยู่ที่เอวของเขา สลักคำว่าหงอยู่บนนั้น

เจ้าของแผ่นหยกที่ห้อยเอวของเขายิ่งหรี่ตาคมเข้มลงพลางทำท่าครุ่นคิด

หง!?

เหม่ยหลินสังเกตเห็นลักษณะของแผ่นหยกได้ว่าน่าจะเป็นแผ่นหยกประจำตำแหน่งประจำตระกูลหรือบ่งบอกตัวตนว่าเขาเป็นใคร นางจึงเอ่ยเสียงเบาดังเดิม “ท่านแซ่หงหรือ”

บุรุษหนุ่มที่น่าจะมีแซ่ว่าหงตามคำสงสัยของสตรีตรงหน้าเพียงหรี่ตาคมดำลงอีกนิดพลางคิดตามในใจ

อาจจะเป็นไปได้

เขาจึงหลับตาลงพยายามใช้ความคิดอย่างเยือกเย็นแผ่กลิ่นอายเย็นยะเยือกออกมาตามวิสัยถึงแม้ว่าในยามนี้เขาจะยังไม่เข้าใจอันใดมากนักแต่ทว่าความเป็นตัวตนของเขายังคงอยู่

เขาแซ่หง แล้วนามของเขาคืออะไร

ชายหนุ่มใช้เวลาหลับตาทำสมาธิด้วยท่าทางเคร่งขรึมอยู่ครู่ใหญ่จนหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้วยกันถึงกับต้องจ้องมองอย่างให้กำลังใจโดยไม่รู้ตัว

ความกลัวยังคงมีอยู่มากมายแต่ทว่านางพอจะดูออก

เขาจำอะไรไม่ได้

เขากำลังป่วย

เขาช่างน่าเห็นใจ

เหม่ยหลินสังเกตเห็นคิ้วเข้มคล้ายกระบี่ของเขาเริ่มขมวดเข้าหากันน้อยๆ เหงื่อกาฬของเขาเริ่มผุดพรายอยู่ตามขมับตามไรผมดกดำ ริมฝีปากหยักได้รูปภายใต้จมูกคมสันของเขาเริ่มเม้มเข้าหากันจนกลายเป็นเส้นตรง

เขาคงกำลังใช้ความคิดอย่างสุดความสามารถ ดูก็รู้ว่าเขาจำสิ่งใดไม่ได้เลยจริงๆ

เหม่ยหลินนั่งสังเกตบุรุษแซ่หงอย่างพินิจและวิเคราะห์จนความหวาดกลัวเริ่มจางหายกลายเป็นความห่วงใยขึ้นมาแทนที่ และเมื่อสังเกตเห็นแล้วว่าเขาคิดการสิ่งใดไม่ออกเป็นแน่นางจึงค่อยๆ เอื้อมมือเรียวเล็กของตนไปแตะบนลำแขนของเขาเบาๆ

เมื่อลำแขนแข็งแกร่งถูกฝ่ามือเรียวเล็กนุ่มนิ่มแตะถูกแผ่วเบา บุรุษตรงหน้าจึงเริ่มลืมตาขึ้นมาแต่ทว่าสายตาคมเข้มยังคงฉายแววน่าหวาดหวั่น กลิ่นอายสังหารพลันแผ่กำจายออกมาโดยไม่รู้ตัว เพียงอึดใจเขาถึงกับสำลักโลหิตสีแดงฉานออกมาจากริมฝีปากได้รูปของเขา

เหม่ยหลินถึงกับชะงักตะลึงงันก่อนจะรีบถลาเข้าหาร่างสูงใหญ่ของเขาโดยไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน นางรีบลูบแผ่นหลังกว้างใหญ่ให้เขาอย่างห่วงใย เขาถูกงูพิษกัดเมื่อครู่ นี่อาจจะเป็นเพราะพิษของงูตัวนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

“ข้าไม่เป็นไร” เสียงแหบห้วนสั่นพร่ากล่าวออกมาพลางยกมือใหญ่หนาปาดเลือดออกจากริมฝีปากด้วยท่าทีสงบเรียบนิ่ง สายตาคมเฉี่ยวนิ่งลึกให้ความรู้สึกทั้งน่ากลัวและเยือกเย็น

“เมื่อครู่ท่านถูกงูพิษกัด” เหม่ยหลินยังคงจับประคองช่วงไหล่ใหญ่หนาของเขาอย่างหวั่นใจฉายชัด หากแต่ความห่วงใยกลับมีมากกว่า นางกำลังโอบประคองบุรุษร่างใหญ่อย่างลืมตัว

บุรุษลึกลับเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่น่ายำเกรงเพียงปรายสายตาคมเข้มดุดันมองตอบกลับในระยะประชิดกับใบหน้าสวยหวาน ใบหน้างดงามของนางอยู่ใกล้กับใบหน้าของเขาเพียงฝ่ามือกั้น

เขาเห็นนางทั้งกลัวทั้งตกใจ นางไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากทำตัวสั่นเทา แต่นางกล้าลุกขึ้นมาจับประคองเขา

ถึงแม้ว่าเขาจะยังจำสิ่งใดยังไม่ได้ แต่สัญชาตญาณภายในส่วนลึกของเขากลับบอกแก่เขาได้เป็นอย่างดี ว่าเขาเป็นบุคคลอันตรายที่สตรีไร้ค่าเช่นนางไม่ควรเข้าใกล้ หากเขาตวัดฝ่ามือเพียงนิด ไม่แน่ว่านางอาจจะไม่ทันได้กะพริบตา เรือนร่างงดงามของนางคงแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีเสียด้วยซ้ำ

เหม่ยหลินเหม่อมองสายตามืดดำของบุรุษตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจอันใด นางทำได้เพียงกะพริบตากลมใสไร้เดียงสาที่เอ่อคลอไปด้วยม่านน้ำตาแค่เท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel