บุรุษแซ่หง1
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่มิรู้ได้
เหม่ยหลินสะลึมสะลืมค่อยๆ ได้สติฟื้นขึ้นมา หญิงสาวใช้เวลาอีกเป็นนานกว่าจะปรับสายตาของตนเองได้
แต่ถึงแม้ว่านางจะเรียกสติกลับมาได้ทุกอย่างแล้ว สายตาของนางก็ยังไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้ชัดเจนถนัดตานัก ทุกอย่างโดยรอบบริเวณช่างมืดมิดจนน่ากลัว นางเห็นเพียงคบเพลิงแค่ไม่กี่อันที่ปักเอาไว้ตรงส่วนของกำแพง ปลายคบเพลิงมีแสงไฟเพียงริบหรี่
อา...กำแพง
หญิงสาวจำได้ลางเลือนว่านางตกลงมาจากพื้นของวัดแห่งนี้ นางตกลงมาจากช่องที่เป็นพื้นห้องแล้วทำไมโดยรอบเรือนกายของนางถึงเป็นกำแพง
เหม่ยหลินรีบพยุงตนเองให้ลุกขึ้นนั่งเพื่อพิศมองไปยังทิศทางโดยรอบอีกครั้ง นางรีบปรับสายตาให้ดียิ่งขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสำรวจให้ถ้วนถี่
ท่าทางสงบเรียบนิ่งที่เคยเป็นมาเริ่มร้อนรนแบบที่ไม่เคยเป็น นางเป็นองค์หญิง เป็นสตรีในห้องหอ สถานที่แปลกประหลาดและเหตุการณ์ก่อนหน้าทำให้นางรู้สึกตระหนกไม่น้อย
นางเห็นสถานที่แห่งนี้เป็นห้องมืดดำแต่ทว่ากว้างขวาง ให้บรรยากาศอึมครึมน่ากลัวน่าหวาดหวั่น มีกลิ่นอายเย็นยะเยือกในแบบที่นางไม่เคยเจอ
เหม่ยหลินยิ่งพิศมองยิ่งสำรวจยิ่งรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เรือนร่างบางระหงเริ่มสั่นเทา ใบหน้าสวยหวานเริ่มฉายแววตระหนกตกใจ ดวงตาฉ่ำหวานเริ่มมีน้ำใสเอ่อคลออยู่เต็มขอบตาทั้งสอง
ถึงแม้ว่านางจะหวาดกลัวแต่ก็หาได้มีเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นหรือโวยวายอันใดออกมาไม่ นางทำได้เพียงแค่ข่มกลั้นมันเอาไว้ นางไม่เคยโอดครวญหรือแสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา ไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์เลวร้ายสักเพียงใด
นางทำได้แค่นี้
แค่ข่มกลั้นมันเอาไว้
นางไม่เคยทำสิ่งใดได้มากไปกว่านี้ นางทำได้แค่อดทน
นางต้องอดทนกับทุกสถานการณ์ที่ได้เจอมาตั้งแต่จำความได้
กิริยาที่แสดงออกมาว่ากำลังกลัวอย่างมากมาย พร้อมด้วยเนื้อตัวบอบบางสั่นเทาเกินข่มกลั้นของสตรีงดงามนางหนึ่ง กำลังอยู่ในสายตาของบุรุษผู้หนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ด้วยกันกับนาง
เขาตกลงมายังห้องแห่งนี้พร้อมกับนางเมื่อครู่ที่ผ่านมา หลังจากที่เขาคล้ายกับสลบไปเป็นนานด้วยสาเหตุใดก็ไม่ทราบได้ และเมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็พบกับนางที่พยายามจะช่วยเขาจากงูพิษ
ดูก็รู้ว่านางไม่มีความสามารถอันใด ดูก็รู้ว่านางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอไม่มีความสามารถแม้แต่จะช่วยเหลือตนเอง
และทั้งๆ ที่นางกลัว
นางหวาดผวาหวาดหวั่นออกปานนั้น
แต่นางกลับช่วยเขา
นางช่างโง่งม!
บุรุษลึกลับที่ตกลงมาพร้อมๆ กับเหม่ยหลินเพียงนั่งหรี่ตามองเหม่ยหลินด้วยสายตาคมดำไร้ก้นบึ้งคล้ายกับทะเลสาบลึกลับไม่มีแม้ระลอกคลื่น เขานั่งอยู่นิ่งๆ สายตาคมเฉี่ยวจ้องมองสตรีตรงหน้าด้วยท่าทางน่าสะพรึงจนเหม่ยหลินรู้สึกได้
หญิงสาวถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อระลึกได้แล้วว่านางมิได้ตกลงมายังห้องแห่งนี้เพียงผู้เดียว แต่นางตกลงมาพร้อมกับบุรุษน่ากลัวผู้หนึ่ง ผู้ซึ่งช่วยนางจากการถูกงูพิษตัวนั้นขบกัดจนเขาถูกเจ้างูพิษตัวนั้นขบกัดเสียเอง
เมื่อเหม่ยหลินระลึกได้อย่างนั้นแล้ว นางจึงรีบหันหน้ามามองบุรุษลึกลับผู้นี้แบบเต็มตา แสงสว่างของคบเพลิงภายในห้องแห่งนี้ช่วยสายตาของนางได้ไม่มากแต่ก็ไม่น้อย
บุรุษลึกลับผู้นี้มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ดวงตาโฉบเฉี่ยวคมเข้มดุดันคล้ายพญาราชสีห์กระนั้น อาภรณ์ที่เขาใส่ก็ช่างมืดดำทำให้เขาที่มีท่าทางน่าหวาดหวั่นอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความน่าหวาดหวั่นขวัญผวาให้ต้องสั่นสะพรึงขึ้นไปอีก
อันที่จริงมิใช่แค่เพียงอาภรณ์สีเข้มที่ทำให้เขาดูอึมครึมถึงเพียงนั้น แต่เป็นตัวของเขา สายตาของเขา สีหน้าของเขา และกลิ่นอายที่แผ่กำจายออกมาจากเรือนกายสูงใหญ่ของเขา ทั้งหมดล้วนทำให้เขาเป็นบุรุษที่น่ากลัวจนจับขั้วหัวใจ
นางไม่เคยพบเจอใครที่มีท่าทางน่ากลัวน่าเกรงขามน่าหวาดหวั่นสั่นสะพรึงได้ถึงเพียงนี้
เขาเป็นปีศาจหรือไร ไยถึงน่ากลัวยิ่งนัก
แต่...
แต่เขาช่วยนาง เขาถูกงูพิษกัดก็เพราะนาง
เหม่ยหลินนั่งประเมินบุรุษตรงหน้าด้วยท่าทางหวาดหวั่นสั่นเทาผสมปนเปกับสายตาขอบคุณระคนสงสัยทั้งยังเริ่มห่วงใยบุรุษตรงหน้าขึ้นมา
สายตาอย่างนั้นของเหม่ยหลินทำให้บุรุษตรงหน้าเริ่มหรี่ตามองและสงสัย
นางเป็นใคร ไยถึงได้มาอยู่ด้วยกันกับเขา
และเขาเป็นใคร ไยถึงมาอยู่ด้วยกันกับนาง
เมื่อชายหนุ่มคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าคมคายที่ฉายแววน่ากลัวอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความน่าหวาดผวาขึ้นมาอย่างมากมาย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะคิดการสิ่งใดได้มากไปกว่านั้น
“ท่าน...” เสียงแว่วหวานเริ่มเอ่ย “ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”
เหม่ยหลินเอ่ยถามอย่างห่วงใยทั้งๆ ที่นางกำลังหวาดกลัวมากนัก ทั้งยังพยายามมองตรงไปยังบาดแผลของเขาที่ถูกงูกัดเมื่อครู่