3
เธอนั่งกอดเข่าเจ่าจุกอยู่หน้าบ้านไม้เก่าๆ ลมหนาวที่พัดมากระทบกายทำให้เธอสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ
จู่ๆ น้ำตาก็ไหลหยดลงมาเต็มสองข้างแก้ม น้อยใจกับชะตาชีวิตของตัวเองยิ่งนัก สิริวรรณนอนกอดตัวเองเหน็บหนาวอยู่หน้าบ้าน น้ำตารินไหลจนหลับไป เธอถูกปลุกให้ตื่นด้วยฝีมือของรัชนี อีกฝ่ายทำหน้างงใส่ที่เห็นเธอมานอนอยู่หน้าบ้าน
“เป็นบ้าอะไรมานอนอยู่หน้าบ้านพี่ส้ม” รัชนีกอดอกเหยียดสายตามองพี่สาวต่างมารดา ไม่ได้รักใคร่อีกฝ่ายเลย แต่เห็นอีกฝ่ายเป็นตัวเงินตัวทองให้สูบกินใช้จ่ายอย่างสบาย
“หรือว่าทำอะไรผิดโดนแม่ไล่ออกมา ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ”
“ฉันไล่มันออกไปเองมีอะไร ก็มันเสือกอ่อยผู้ชาย” แสงระวีเปิดประตูออกมาบอกอย่างเกลียดชัง
“อ่อยใครล่ะแม่”
“ก็ศํกดิ์สิทธิ์ไง แม่กลับมาเห็นพอดี”
“น้าศักดิ์นี่นะ!” รัชนีรู้ทันและไม่เชื่อ ศักดิ์สิทธิ์ต่างหากอยากปล้ำพี่สาวของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้พูดออกไป
“ก็เออนะสิวะ ฉันไล่มันออกจากบ้าน จะไสหัวไปไหนก็ไป ยังจะมานอนอยู่ที่นี่อีก”
“แม่จะบ้าเหรอ ทำแบบนั้นไม่ได้นะ” รัชนีตรงปรี่เข้าดึงมือมารดาไปคุยกันหลังบ้าน ในขณะที่ศักดิ์สิทธิ์เดินมาทรุดนั่งลงใกล้ๆ กับสิริวรรณ หญิงสาวถอยหนี มองอีกฝ่ายอย่างเกลียดชังและหวาดระแวง
“ยอมฉันสิ จะบอกให้พี่แสงอนุญาตให้เธอกลับเข้าบ้านได้”
“สารเลว! ไปให้พ้นๆ” สิริวรรณมองอีกฝ่ายอย่างรังเกียจ
“ตามใจ อยากนอนหนาวอยู่หน้าบ้านก็ตามใจ” ทางด้านรัชนี ดึงมือมารดาไปคุยกันหลังบ้าน จะปล่อยให้หลงผัวใหม่แบบนี้เดี๋ยวได้อดตาย เธอรู้ว่ามารดาติดการพนัน ผัวใหม่ก็แมงดาดีๆ นี่เอง คิดจะมาเกาะกิน ไม่ทำงานทำการอะไร หัวเรี่ยวหัวแรงของบ้านคือพี่สาวของเธอคนเดียว ไล่ออกไปก็ได้อดตายน่ะสิ เธอจะมีเงินไปเรียนไปอวดเพื่อนๆ หรือเที่ยวกิน ซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ได้ยังไงกัน
“แม่จะบ้าเหรอ ไล่พี่ส้มออกไปได้ยังไงกัน”
“ทำไมฉันจะไล่มันออกไปไม่ได้ มันร่านอยากมานอนอ่อยให้ท่าศักดิ์สิทธิ์เขา”
“แม่ไล่พี่ส้มออกไปใครจะหาเลี้ยง คิดสิแม่... คิด!”
“เออ... จริงด้วย”
“ผัวใหม่แม่ก็ใช่จะหาเลี้ยงแม่ได้นะ” รัชนีเบ้ปากมองบน
“แกอย่าไปว่าเขานะ เขากำลังตกงานอยู่ เดี๋ยวเขาหางานใหม่ได้ เขาก็มีเงินมาเลี้ยงฉันเองแหละ คนเราเป็นผัวเมียกันแล้วต้องช่วยเหลือกัน” รัชนีเชื่อเลยว่ามารดาตาบอดหลงผัวเด็กจนโงหัวไม่ขึ้น แต่ก็เอาเถอะ เธอไม่อยากยุ่ง เอาแค่อย่าไล่สิริวรรณออกจากบ้านเป็นพอ
“พี่ส้มน่ะตัวเงินตัวทองเลยนะแม่ แม่จะอะไรกับใครก็ช่าง ห้ามไล่พี่ส้มออกจากบ้าน”
“แล้วถ้ามันอ่อยศักดิ์สิทธิ์อีกล่ะ”
“ถ้าพี่ส้มคันก็ยกให้มันไปเลย” รัชนีพูดแบบไม่ยีหระต่ออะไร เธอเองก็ใช่จะบริสุทธิ์ผุดผ่อง
“แกพูดได้สิไม่ใช่ผัวแก”
“งั้นแม่จะเลือกอะไร ระหว่างมีผัวกับอดตาย เงินเล่นไพ่ก็จะไม่มีนะแม่ ถ้าไล่พี่ส้มไปน่ะ”
“เอาตามที่แกว่าก็ได้ แต่ฉันไม่ไปง้อมันหรอกนะ แกไปง้อมันกลับมาแล้วกัน”
“ง้ออะไรล่ะ แค่เดินไปบอก” รัชนีทำเสียงรำคาญมารดา ก่อนจะเดินออกไปหาพี่สาวด้านนอก
“พี่ส้ม ฉันคุยกับแม่ให้แล้วนะ พี่เข้าบ้านมาได้แล้ว แม่หายโกรธแล้ว”
“ขอบใจนะ”
“พี่ส้ม ขอเงินค่าพิมพ์งานส่งอาจารย์ด้วย” รัชนีแบมือขอเงินทันที แต่ยังไม่ทันที่สิริวรรณจะควักเงินออกมา แสงระวีตรงปรี่เข้ามาคว้าไปเสียก่อน
“เอามานี่เลย”
“อะไรกันแม่”
“แกเอาไปแค่นี้ก็พอแล้ว ค่ารายงานจะซักกี่บาทกันเชียว”
“แม่! อะไรกัน”
“ฉันจะออกไปข้างนอกหน่อย แกอย่ามาพูดมากโยกโย้” รัชนีมองเงินค่ารายงานร้อยเดียวที่มารดาให้มาแล้วหงุดหงิด
“พี่ส้มมีอีกไหม”
“ไม่มีแล้วจ้ะ พี่รับจ้างเข็นผักกับล้างจานได้มาแค่นี้แหละ”
“เฮ้อ... แม่นะแม่” รัชนีเพิ่งกลับมา แต่แสงระวีไม่เคยถามว่าไปไหนมา แค่บอกว่าเรียนให้จบปวส.ก็พอแล้ว เพราะรัชนีเรียนสายอาชีวะ
สิริวรรณมองน้องสาวที่แต่งตัวออกไปอีกครั้งอย่างอ่อนใจ ในบ้านไม่มีใครสักคน มารดาเลี้ยงดึงศักดิ์สิทธิ์ให้ตามออกไปด้วย
เธออยู่บ้านคนเดียวทำงานบ้านจนเสร็จ จึงเตรียมตัวออกไปทำงานที่ตลาดต่อ แต่พอทำท่าจะก้าวออกจากบ้าน มารดาเลี้ยงก็กลับเข้ามา วันนี้แปลก มารดาเลี้ยงกลับมาเร็วกว่าที่คิด