ตอนที่ 5
ใบหน้าบูดบึ้งของคามิเอลทำให้เอโดเกลอดที่จะถามด้วยความแปลกประหลาดใจไม่ได้ แต่คำตอบที่เขาต้องการกลับไม่ได้เล็ดลอดออกมาจากปากของพี่ชายเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะตอนนี้คามิเอลเดินกระแทกเท้าเข้าไปในตัวตึกใหญ่ของการ์รัสโซ่ พาราไดส์เสียแล้ว
“เป็นอะไรของเขาอีกล่ะ”
เอโดเกลยกมือขึ้นเกาศีรษะของตัวเองด้วยความงงงวย ก่อนจะหันไปถามมาตินคนสนิทของคามิเอลที่กำลังจะเดินตามโจชัวไปยังห้องพักแทน
“พี่คาร์ลเป็นอะไรไปหรือมาติน ทำไมหน้าบูดบึ้งราวกับโกรธใครมาสักล้านปีแบบนั้นล่ะ”
มาตินอึกอักเล็กน้อย เพราะไม่ปรารถนาที่จะเปิดเผยเรื่องราวของเจ้านายให้กับเอโดเกลฟัง แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกเพราะเอโดเกลขู่ขึ้น
“ถ้าไม่บอก ฉันจะส่งนายไปทำสวนนอกเมือง และแน่นอนว่าฉันจะส่งไปก่อนที่พี่คาร์ลจะรู้ด้วย” น้ำเสียงอำมหิตไม่ผิดจากบุคลิกของคุณชายที่ห้าแห่งการ์รัสโซ่ พาราไดส์ทำให้มาตินไร้ทางเลือก
“ผม... ผมบอกแล้วครับ”
“ดี... งั้นก็พูดมา พี่คาร์ลเป็นอะไรไป ทำไมหน้าบูดแบบนั้น”
มาตินไม่มีทางเลือกอื่นใดจึงต้องพูดความจริงออกมา “คือจริงๆ แล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าทำไมถึงนายอารมณ์เสียแบบนี้”
“เฮ้... นี่นายคิดจะเล่นลิ้นกับฉันหรือมาติน”
“เปล่า... เปล่าครับคุณเอดี้ เพียงแต่ผมไม่รู้จริงๆ ครับ ว่าทำไมนายถึงอารมณ์เสีย ก็ตอนออกมาจากบริษัทฯ ยังอารมณ์ดีอยู่เลย แต่พอมาจอดที่หน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่กลางเมืองแล้วพูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งไม่กี่คำ นายก็มีท่าทางเหมือนมัจจุราชแบบนี้แล้วล่ะครับ”
“คุยกับผู้หญิง? ใคร นายรู้หรือเปล่า”
“ผมไม่รู้หรอกครับ ไม่รู้จัก แต่ผมจำได้ว่าเป็นคนๆ เดียวกับผู้หญิงคนเมื่อเช้าที่นายต้องการให้ช่วยเลือกซื้อเนคไทให้นะครับ”
ยิ่งฟังเอโดเกลก็ยิ่งงงงวย “เนคไท? พี่คาร์ลเนี่ยนะไปซื้อเนคไทด้วยตัวเอง ฉันเห็นในห้องแต่งตัวของพี่คาร์ลมีมากมายจนแทบจะเอาไปถมมหาสมุทรแปซิฟิกเต็มอยู่แล้ว”
“ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ แต่นายให้ผมกับโจชัวพาไปซื้อที่ห้างสรรพสินค้า และเรียกพนักงาน... เธอชื่อ...” มาตินทำท่าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะอุทานออกมา
“ผมนึกออกแล้วครับ เธอชื่อวาดจันทร์”
“วาดจันทร์... ชื่อคุ้นๆ หู แต่นึกไม่ออกแหะ” เอโดเกลทำท่าครุ่นคิด แต่พอคิดไม่ออกเขาก็เลือกที่จะถามมาตินต่อไป
“งั้นก็แสดงว่าพี่คาร์ลอยากลากแม่พนักงานคนนั้นขึ้นเตียง”
มาตินทำท่าครุ่นคิดก่อนจะส่ายหน้า “ไม่น่าจะใช่น่ะครับ เพราะเมื่อกี้โจชัวบอกผมว่าผู้หญิงที่ชื่อวาดจันทร์มีแฟน... หรือบางทีอาจจะเป็นสามีอยู่แล้ว”
“จริงหรือ”
“จริงครับ โจชัวบอกว่าเห็นยืนจับมือกันอยู่ ถ้าท่าจะรักกันมากด้วย”
“แล้วผู้หญิงคนนั้นสวยหรือเปล่า”
“จะว่าสวยไหมก็สวยนะครับ หน้าตาเป็นธรรมชาติดี แต่ไม่ใช่สเป็กของนายแน่นอนครับ ไม่เปรี้ยว ไม่เฉี่ยว ออกจะเรียบร้อยแบบนี้ นายไม่มีทางชอบแน่นอน”
คำยืนยันของมาตินยิ่งทำให้เอโดเกลสับสนมากขึ้นไปอีก นี่มันอะไรกันนะ เกิดอะไรขึ้น แล้วคามิเอลพี่ชายของเขากำลังเป็นอะไรกันแน่ มันชักแปลกๆ ขึ้นทุกวันแล้วนะพี่ชายคนนี้ของเขาน่ะ
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว นายจะไปไหนก็ไปเถอะ”
“ครับคุณเอดี้...”
มาตินเดินจากไปแล้ว เอโดเกลจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในตัวตึกอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะออกไปหาความสำราญนอกบ้าน แต่เพราะเห็นท่าทางของคามิเอลไม่สู้ดี เขาจึงไม่อยากทิ้งไปคนเดียว
“พี่คาร์ล ไปหาเหล้าดื่มนอกบ้านกัน”
เมื่อเปิดประตูห้องนอนเข้ามา แล้วเจอพี่ชายกำลังนั่งเอกเขนกอยู่เตียง จึงเอ่ยชวนทันที แต่คามิเอลหาได้มีอารมณ์รื่มรมย์แบบนั้นไม่
“นายไปเถอะ พี่อยากอยู่คนเดียว”
“แปลกจัง ปกติพี่คาร์ลชอบสีสันตอนกลางคืนไม่ใช่หรือครับ”
เอโดเกลเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของพี่ชาย จ้องหน้าราวกับต้องการจะอ่านความรู้สึกนึกคิดของคู่สนทนาให้ออก แต่คนอย่างคามิเอลไม่มีทางยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่นอน
“วันนี่พี่เหนื่อย ทำงานมาทั้งวัน”
“งานไม่มีทางทำให้พี่ชายคนเก่งของผมเหนื่อยได้ขนาดนี้...” ผู้เป็นน้องชายมองอย่างคาดคั้น ก่อนจะพูดขึ้นอีก
“ผมว่าพี่ชายของผม กำลังสนใจเมียของชาวบ้านอยู่แน่ๆ ใช่ไหมครับ”
คิ้วเข้มของคามิเอลเลิกขึ้นสูง ด้วยประหลาดใจในคำถามของน้องชาย “นายกำลังหมายถึงอะไรน่ะเอดี้ พี่ไม่เข้าใจ”
เอโดเกลเดินไปหยุดใกล้ๆ ตรงหน้าของพี่ชายมากยิ่งขึ้น “พี่คาร์ลไปที่ห้างสรรพสินค้า D.K. ทำไมกันครับ ไปดักเจอผู้หญิงที่ชื่อวาดจันทร์ทำไม”
ดวงตาของคามิเอลวาวโรจน์ขึ้นทันที “มาตินหรือโจชัวล่ะที่บอกนายน่ะ”
“อย่าไปโทษสองคนนั้นเลยครับ ผมบังคับพวกนั้นเอง”
คามิเอลขบกรามแกร่งของตัวเองจนขึ้นสันก่อนจะพูดออกมา “พี่ไม่ได้มีอะไรพิเศษกับที่นั่น และวาดจันทร์ก็คือเพื่อนสนิทของปาณิศาภรรยาของพี่ลีโอ นายลืมไปแล้วหรือไง”
“เอ่อ ว่าแล้วชื่อคุ้นหู วาดจันทร์ เพื่อนของปาณนิศานั่นเอง”
“ใช่ แล้วที่ฉันไปที่นั่น ก็เพราะฉันต้องการซื้อเนคไทเส้นใหม่ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”
“ครับมันไม่แปลกหรอก หากผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คามิเอล การ์รัสโซ่ พี่คาร์ลอย่าลืมสิ ว่าเสื้อผ้าของพวกเราจะมีคนจัดการให้ทั้งหมด พวกเราไม่จำเป็นต้องออกไปเลือกซื้อด้วยตัวเอง”
คามิเอลรู้สึกจนมุมเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะทุกอย่างที่น้องชายพูดมันคือเรื่องจริงทั้งหมด ใช่... พวกเขารวย รวยล้นฟ้า และมีอำนาจล้นมือ การ์รัสโซ่ยิ่งใหญ่แบบสุดกู่ในตุรกีและในประเทศข้างเคียง พวกเขาต้องการอะไรแค่กระดิกนิ้วทุกอย่างก็ลอยมาอยู่แทบเท้าทั้งสิ้น แต่บางอย่างเขาก็ต้องตะเกียกตะกายออกไปควานหาเอง โดยเฉพาะการแก้แค้น
“แต่พี่ต้องการออกไปเลือกด้วยตัวเอง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของพี่ จริงไหมเอดี้”
ท่าทางหงุดหงิดของพี่ชายทำให้เอโดเกลไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงด้วยอีก “โอเค ไม่แปลกก็ไม่แปลกครับพี่ชายสุดที่รัก ว่าแต่พี่คาร์ลไม่ออกไปดื่มข้างนอกกับผมแน่นะครับ”
“ใช่ พี่ไม่มีอารมณ์ไป ให้ลียายกเหล้ามาให้พี่ในห้องก็พอ”
ท่าทางอารมณ์ดีของเอโดเกลเปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน แม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามซ่อนเอาไว้มากแค่ไหนก็ตาม
“ให้ยกเข้ามาในห้องนอนของพี่คาร์ลเลยหรือครับ”
“ใช่... มันไม่เห็นมีอะไรแปลกนี่” คราวนี้เป็นคามิเอลบ้างที่หรี่ตาแคบมองน้องชาย
“ทำไม หรือนายคิดว่ามันไม่เหมาะสม”
เอโดเกลหลบตาพี่ชายด้วยการหมุนตัวเดินออกไปเกาะขอบหน้าต่างห้อง จากนั้นจึงตอบออกมา
“ใช่ครับ ลียาเป็นสาว ในขณะที่พี่คาร์ลเป็นหนุ่มโสด”
คามิเอลแทบอยากจะหัวเราะในความคิดของน้องชาย เพราะแท้จริงแล้วเขาไม่เคยคิดอะไรในเชิงชู้สาวกับลียาเลย แม้ว่าหญิงสาวจะสวยงามปานนางฟ้าก็ตาม
“พี่ไม่ใช่คนกินไม่เลือกนะเอดี้”
เจ้าของชื่อหันกลับมาเผชิญหน้ากับพี่ชายของตัวเองอีกครั้ง “หรือพี่คาร์ลจะปฏิเสธว่าไม่ได้สนใจในตัวของลียา”
ความจริงคามิเอลอยากจะปฏิเสธ แต่พอเห็นท่าทางอวดดีของน้องชายแล้วก็อดอยากแกล้งไม่ได้ “ใช่ พี่เองก็สนใจในตัวของลียา ถ้าลียาชอบพี่ ทุกอย่างมันคงจะสมบูรณ์แบบ”
หัวใจของเอโดเกลกระตุกอย่างรุนแรง “แสดงว่าพี่คาร์ลคิดจะแต่งงานหรือครับ”
ไม่เคย เขาไม่เคยคิดจะแต่งงาน ความคิดนี้ไม่มีทางได้เข้ามาอยู่ในสมองของเขาเด็ดขาด แต่กระนั้นคามิเอลก็จำต้องพูดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้คิดออกไป
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม”
“แต่งงานกับลียา...?”
“มันก็ไม่เลวนี่ เพราะลียาก็สวยไม่แพ้บรรดาเมียๆ ของพี่น้องเราเลย นายว่าไหม”
เอโดเกลกำหมัดแน่น กรามแกร่งปูดเบ่งเป็นสันนูน ในขณะที่ดวงตาคมกริบสีนิลลุกเป็นไฟเรืองรอง “ผมไม่มีความเห็นครับ เชิญพี่คาร์ลตามสบาย”
แล้วพอจบถ้อยคำห้วนกระด้าง พ่อน้องชายจอมอวดดีก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องนอนของเขาทันที เสียงปิดประตูดังโครมครามบอกให้รู้ว่าคนปิดนั้นกำลังเดือดดาลมากแค่ไหน
“ไอ้คนปากแข็ง สักวันจะรู้สึก”