Chapter 4 แผนรุกรานครั้งแรก (1)
ณ ดินแดนรกร้างของอาณาจักรกริฟส์ทางตอนเหนือ นอกจากจะเป็นที่ตั้งปราสาทของจอมมารตระกูลซิกเนอร์ สถานที่แห่งนี้ยังมีหิมะตกตลอดทั้งปี ภูเขาใหญ่น้อยถูกปกคลุมด้วยหิมะ ทุกพื้นที่เป็นสีขาวโพลน
ลึกเข้าไปในป่าที่ปกคุลมด้วยหิมะ พบอาคารขนาดใหญ่และหอคอยสูง นั่นคือสถานที่ส่วนตัวของ ‘แซนโซ เทียร์เคเดส’ มังกรเหมันต์ผู้มีอายุห้าร้อยปี
แต่สำหรับเรื่องราวในเรื่อง ‘จอมมารกับผู้กล้าฯ’ ในตอนพิเศษที่ไม่มีในเนื้อเรื่องหลักเจือปนอยู่นั้น มังกรผู้นี้คือฮาเร็มหมายเลข 2 ของรีชม่อน ทั้งที่แซนโซมีภรรยาสุดรักอยู่แล้ว แต่ก็ยังถูกความใคร่กระหายของจอมมารร้อนรักยั่วยวนครอบงำเอาได้ง่ายๆ
ถึงรู้อยู่แล้วว่านั่นไม่ใช่เนื้อเรื่องหลัก แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้น รีชม่อนจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์สุ่มเสี่ยงทุกอย่าง
ดังนั้น แทนที่รีชม่อนจะใช้ [เวทเคลื่อนย้าย] พาตัวเองไปยังปราสาทของแซนโซ เขาเลือกที่จะใช้ [เวทสื่อสาร] เรียกให้อีกฝ่ายมาพบที่หน้าปราสาทจอมมารแทน
“นายท่าน”
เมื่อแซนโซปรากฏตัวตรงหน้า หนุ่มมังกรก้มศีรษะให้กับรีชม่อนด้วยความเคารพในตัวผู้เป็นนาย
ถ้ามองข้ามตอนพิเศษที่แต่งขึ้นมาเพื่อเซอร์วิสคนอ่านแล้วละก็ ความเทิดทูลที่แซนโซมีให้กับรีชม่อนก็พอมีเหตุมีผลอยู่ อาจารย์ยูโกะก็เคยเฉลยในเนื้อเรื่องหลักแล้วว่า เพราะรีชม่อนได้ช่วยเหลือฟีลิคซ์ผู้เป็นภรรยาของแซนโซเอาไว้ด้วยความบังเอิญ แซนโซจึงได้เคารพดาร์คเอลฟ์ผู้ชั่วร้ายตนนี้
เอาเป็นว่า เขาที่นอนขบคิดแผนการรุกรานแดนมนุษย์ทั้งคืนจนใต้ตาดำคล้ำ ได้กล่าวเข้าเรื่องทันที
“พรุ่งนี้ข้าจะมอบหมายให้เจ้าเป็นแม่ทัพ นำทัพอยู่แถวหน้า แช่แข็งมนุษย์ผู้โง่เขลาและปกป้องข้า”
การที่เลือกแซนโซให้นำทัพก็มีเหตุผลอยู่บ้าง ด้วยพลังเวทแห่งมังกรที่มีอายุห้าร้อยปี แซนโซย่อมมีคุณสมบัตินำทัพมากกว่าฟลินต์ที่เป็นแวมไพร์ ไม่ถูกกับแสงแดด และเพิ่งมาอาศัยที่ปราสาทจอมมารไม่กี่สิบปี รวมถึงเดโม่ ผู้นำเผ่าโอเกอร์ที่แสนจะใจร้อน ไม่ค่อยใช้หัวคิด ปีศาจทั้งสองตนนั้นไม่เหมาะอยู่ทัพหน้า
อีกอย่างหนึ่ง ภารกิจรุกรานอาณาจักรกริฟส์ครั้งแรกนี้ เป็นทั้งการเดบิวต์และจุดจบความบริสุทธิ์ของจอมมารลำดับที่ 32 นามว่ารีชม่อน ซิกเนอร์ ต้องมั่นใจที่สุดว่ารุกรานแล้วจะชนะ หรือรีบๆจบงานในครั้งเดียว ดังนั้นแซนโซจึงเหมาะสมกับงานนี้
สรุปคือ รีชม่อนตั้งใจให้แซนโซออกหน้า เพื่อตัวเองจะได้รอดพ้นจากหายนะ
หึหึหึ
“นายท่านของข้า พรุ่งนี้ให้ข้าบุกอาณาจักรกริฟส์จริงๆ น่ะเหรอ”
เสียงของแซนโซแทรกเข้ามาในความคิด รีชม่อนที่กำลังลอบหัวเราะดึงสติกลับมาและหันไปตอบ
“ใช่”
แซนโซมีท่าทีลังเล “แต่ว่า อาณาจักรกริสต์มีผู้กล้าที่แข็งแกร่ง ข้าเกรงว่า...”
รีชม่อนแสดงสีหน้ารำคาญอย่างไม่รู้ตัว นี่คือนิสัยที่ไม่ดีของเรนกิ เมื่อก่อนยังพอควบคุมอาการได้ แต่เมื่อทำงานร่วมกับอาจาย์ยูโกะนานวันเข้า ความหงุดหงิดและอาการปวดหัวทำให้เขาควบคุมกิริยาไม่อยู่ คิดอะไรก็แสดงออกมาทางสีหน้าทั้งหมด
แต่ต่อให้โมโหกับนักเขียนขนาดไหน เรนกิก็ยังเป็นแค่บรรณาธิการ หน้าที่ของเขายังหาคนมาแทนที่ได้ ทว่านักเขียนมือทองอย่างอาจารย์ยูโกะกลับหาได้ยากในยุคที่มีการแข่งขันสูง ดังนั้นต่อให้หงุดหงิดสุดหัวใจ หากก็ต้องข่มกลั้นศักดิ์ศรี ก้มหัวขอโทษและง้อด้วยของหวานทั้งที่ตัวเขาไม่ได้ผิดเลยสักนิด
รีชม่อนสูดหายใจลึก ควบคุมความหงุดหงิดก่อนจะบอก
“ด้วยพลังของเจ้า น่าจะรับมือกับผู้กล้าได้ไม่ยากไม่ใช่เหรอ”
ถึงแม้ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้กล้าถือครองจะไม่ทำให้แซนโซตาย แต่ก็สามารถทำให้พลังเวทของปีศาจเสื่อมถอยหากโดนฟันเพียงแค่แผลเดียว
แต่ก็นั่นละ ด้วยพลังแห่งมังกร บวกกับเวทฟื้นฟูระดับสูงที่แซนโซมี บาดแผลจากดาบศักดิ์สิทธิ์ไม่ทำให้แซนโซตายได้หรอก แค่กลับมาอยู่ในร่างมนุษย์ไม่ได้ชั่วคราวเท่านั้นเอง
เพราะรู้ถึงเรื่องนี้ รีชม่อนถึงเลือกแซนโซให้ทำหน้าที่นำทัพ
“เอ่อ...ถึงอย่างนั้น ข้าก็ยังคิดว่าด้วยคุณสมบัติของตัวเองยังหากไกลจากผู้กล้ามากโข นายท่านไม่ลองคิดใคร่ครวญอีกที”
พอเป็นเรื่องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ดูเหมือนมังกรแซนโซจะใจเสาะขึ้นมาทันที
“แซนโซ ข้าเองก็คอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังเจ้า เจ้าจะลังเลอะไร”
“คือว่า นายท่าน....”
คราวนี้รีชม่อนไม่เปิดโอกาสให้แซนโซหาข้ออ้าง เขาเดาะลิ้น ทั้งแสดงหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
ก็รู้อยู่หรอกว่าแซนโซไม่อยากเสี่ยงอันตรายเนื่องจากมีครอบครัวแล้ว มังกรหนุ่มกลัวว่าจะทำให้ภรรยาภูตต้องกลายเป็นหม้าย แต่ขอย้ำอีกครั้ง แซนโซจะไม่ตายเพราะดาบของผู้กล้า เข้าใจ?
เทียบกันแล้ว การสูญเสียเอกราชประตูหลังของรีชม่อนน่ากังวลกว่าอีก ดังนั้น เขายอมถูกมองว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ส่งคนอื่นออกไปเสี่ยงแทน
อย่างที่บอก การใช้แซนโซนำทัพหน้าบุกอาณาจักรกริฟส์ไม่ได้ตรงกับเนื้อหาใดของเรื่องราว รีชม่อนแค่อย่างเดิมพันลองเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่อง เพื่อปกป้องตัวเองจากผู้กล้า แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็คำนวณอย่างดีแล้วว่าจะส่งใครไปรับมือแทน ในเวลานี้ปีศาจคนที่เหมาะสมที่สุดก็คือแซนโซ
เนื้อเรื่องจะเปลี่ยนแปลงไปก็ช่างมันสิ เขารอดพ้นจากผู้กล้าเสียอย่าง แล้วจะสนอะไร
เพราะเห็นนายท่านหงุดหงิดแล้ว และหลังจากใคร่ครวญถึงผลได้ผลเสีย ท้ายที่สุดแซนโซก็ยอมก้มหัวพร้อมตอบรับภารกิจอย่างเลือกไม่ได้
“ครับ นายท่าน”