บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 แม่ครับโจ๊กอร่อยมากเลยครับ เสี่ยวเป่าชอบมากเลย

ณ หมู่บ้านชนบทที่ห่างไกลในปี 1978….

.".ฮือ!!..ฮือ!!..ฮือ!!..แม่ครับ....แม่...แม่ตื่น".

“แม่ครับ แม่ตื่นนะ ตื่นนะ หิวแล้ว พวกหนูหิวแล้ว”

เสียงร้องไห้หลายเสียงประสานกัน....พร้อมกับดวงตาที่ลืมขึ้นของหยางชิงโม่......

หยางชิงโม่รู้สึกมึนงง ศีรษะของเธอยังหนักอึ้ง ราวกับถูกก้อนหินทับอยู่ เธอค่อยๆ หันศีรษะมองตามเสียงที่ร้องไห้อยู่เสียงเหล่านั้นเป็นเสียงของเด็กๆ แน่นอน และดูเหมือนว่าคงร้องไห้มานาน เพราะเสียงร้องไห้ของพวกเขาต่างก็แหบแห้ง เมื่อหันมาก็เห็นเด็กน้อยทั้งสามนั่งร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้มอยู่ เสื้อผ้าเปียกปอน มองดูน่าสงสาร เด็กๆ นั่งเรียงกันอยู่ข้างๆ เตียงของเธอ ใบหน้าของพวกเขาเหมือนกันราวกับแกะสลัก ดวงตากลมโตสีดำขลับ จมูกโด่ง ปากเล็ก ผิวสีแทนเล็กน้อย เมื่อพวกเขาเห็นเธอลืมตาขึ้นมาเสียงร้องไห้นั้นก็หยุดลง และบนดวงหน้าที่ถึงจะผอมแต่ทว่าพวกเขาก็น่ารักนัก และตอนนี้บนใบหน้าพวกเขาก็มีแต้มด้วยรอยยิ้มจางๆ ที่เปื้อนคราบน้ำตา แม่ของพวกเขาตื่นแล้ว คุณแม่ตื่นแล้ว!!!!

หยางชิงโม่พยายามฝืนความอ่อนเพลีย ลุกขึ้นนั่ง มองดูลูกๆ ของเธอ เด็กน้อยทั้งสามผอมแห้งจนเห็นกระดูก เสื้อผ้าเก่าๆ ของพวกเขามีรอยปะบ้างแห่ง แม้จะดูเก่าและโทรม แต่ก็สะอาดสะอ้าน บ่งบอกถึงความเอาใจใส่ของแม่ที่มีต่อลูก

“แม่ครับ...แม่ตื่นเถอะ...พวกผมหิวมากเลย.”

เสียงเล็กๆ ของเด็กๆ ดังก้องจากหูและเสียงนั้นมันเข้าสู่ในหัวใจของหยางชิงโม่ เธอมองดูพวกเขาน้ำตาคลอเบ้า จากนั้นก็เรียกเด็กๆ เข้ามาและเธอโอบกอดลูกๆ ไว้แน่น เด็กๆ ที่เธอเคยเห็นเพียงในความฝัน ตอนนี้พวกเขาอยู่ต่อหน้าเธอแล้ว เธอทะลุมิติมาหาพวกเขาได้แล้วจริงๆ เมื่อเด็กๆ เห็นแม่กางแขนออกพวกเขาต่างก็พุ่งเข้ามาในอ้อมแขนผอมๆ ของคุณแม่ทันทีพวกเขาต่างก็กอดคุณแม่เอาไว้แน่น หยางชิงโม่รู้สึกถึงความอบอุ่นจากร่างกายเล็กๆ หัวใจของเธอเจ็บปวด รู้สึกผิดที่ปล่อยให้ลูกๆ อดอยาก ….นี้มันคือความรู้สึกของใครกัน …ทำไมเธอถึงรู้สึกเสียใจที่เด็กๆ เหล่านี้อดยาก…หรือว่ามันจะเป็นความรู้สึกของเจ้าของร่างเดิมกันนะ…

“แม่ขอโทษนะลูก แม่ป่วย แม่เลยลุกขึ้นมาทำอาหารให้พวกลูกไม่ได้”

หยางชิงโม่ปลอบลูกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จากนั้นเธอก็ลูบผม ลูบหน้าลูกชายทั้งสามคนของเธอ..ใช่แล้วตอนนี้ความรู้สึกที่เธอมีเมื่อมองดูพวกเขานั้นก็คือ พวกเขาคือลูกของเธอ เธอรู้สึกรักและผูกพันกับพวกเขาทันทีที่ได้สัมผัสและกอดพวกเขา …

“ไม่เป็นไรครับแม่ พวกเราเข้าใจ พวกเราแค่หิว”

เด็กคนโตพูดขึ้น เขาผอมแห้งเช่นเดียวกับเด็กอีกสองคน

“แม่...แม่มีอะไรให้พวกเรากินไหมครับ? พวกผมหิวมากเลยครับแม่ ”

เด็กคนกลางถาม เขาคงจะหิวมากแล้วจริงๆ เพราะเธอได้ยินเสียงท้องของเขาร้องดังขึ้นมา และทำยังทำสีหน้าเขินอายเล็กน้อยด้วย หยางชิงโม่ยิ้มแล้วลูบศีรษะเขาพลางพยักหน้าเบาๆ จากนั้นเธอก็ค่อยๆ ลุกขึ้นและคงจะเป็นเพราะความคุ้นชินจากเจ้าของร่างเดิมทำให้เดินรู้ว่าห้องครัวอยู่ที่ไหนนั้นเอง เธอจึงค่อยๆ เดินไปที่ห้องครัวทันที ห้องครัวเล็กคับแคบหยางชิงโม่มองไปรอบๆ ห้อง มองหาอาหารที่จะให้ลูกๆ ทาน แต่มีเพียงหม้อข้าวเปล่าๆ ใบหนึ่ง เด็กๆ เดินตามเธอมา และมีเจ้าเด็กน้อยคนหนึ่งเดินมากอดขาแม่ของเขาแน่นพลางแหงนหน้าขึ้นมองเธอ เขารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แม้จะอดอยาก แต่พวกเขาก็มีความสุขเพราะได้อยู่กับแม่

จากนั้นเธอก็มองไปที่เด็กๆ ทั้งสามคน เจ้าคนที่อยู่ตรงประตูจากความทรงจำของเธอ

นี้คือลูกชายคนโตของเธอ เจ้าใหญ่ ต้าหลง

ถัดมาที่กำลังเดินมาจับมือของเธออีกคนคือเจ้ารอง เอ๋อหมิง

และคนที่กอดขาเธออยู่คือเจ้าเล็ก เสี่ยวเป่า

ใบหน้าเล็กๆ เท่าฝ่ามือของทั้ง 3 คนนั้นมีความคล้ายคลึงกับเธอมากทีเดียวทำให้เด็กทั้ง3คนหน้าออกหวานนิดหน่อยถ้าไม่นับว่าผอมแห้งจนเห็นโครงหน้าที่มีแต่กระดูกแบบนี้ เด็กพวกนี้หน้าน่ารักจริงๆ หยางชิงโม่คิด ดีเลยเธอจะขุนให้อวบอ้วนเป็นซาลาเปาน้อยให้ได้เลย แต่ตอนนี้เรื่องหน้าตาลูกเอาไว้ก่อนเถอะตอนนี้ลูกๆ เธอหิวมากแน่ๆ หยางชิงโม่หันไปมองเจ้าใหญ่และเอ่ยขึ้นมาว่า

“เจ้าใหญ่ พาน้องไปล้างหน้าเถอะ เดียวแม่จะทำโจ๊กให้ทาน”

“ครับแม่... ไปเถอะเจ้าเล็ก เจ้ารอง” เจ้าใหญ่เรียกน้องๆ ให้เดินออกไปล้างหน้าที่ด้านนอกบ้านทันที เพราะบ้านแบบโบราณลานซักล้างจะอยู่นอกบ้าน

หลังจากเด็ก ๆ เดินจูงมือกันออกไป เมื่อเด็กๆ เดินออกไปหยางชิงโม่หลับตานึกถึงแหวนมิติของเธอที่เก็บของเอาไว้มากมาย ทันใดนั้นนิ้วกลางข้างขวาของเธอก็ปรากฏรูปรอยแหวนหยกสีเขียววงนั้นขึ้นมา มันเป็นเพียงรอยสักเล็กๆ รูปแหวนหยกเท่านั้น มันไม่ได้ตามมาแบบเป็นแหวนหยกจริงๆ หยางชิงโม่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตอนนี้แหวนตามมาจริงๆ ด้วยแล้วของข้างในละ??? เธอหลับตาและนึกถึงมิติที่มีโกดังสินค้าที่อัดแน่นของเธอ ฉับพลันเธอก็เห็นของที่เธอเก็บเข้ามิติมาทั้งหมด เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบเต็มพื้นที่ขนาดใหญ่นั้นเลยทีเดียว หยางชิงโม่ยิ้มอย่างดีใจ และคิดว่าไม่อดตายแล้ว จากนั้นก็นึกถึงโจ๊กหมูสับและนำออกมา 4 ถุงรวมทั้งน้ำเต้าหู้ที่เธอสั่งให้ลุงคนขายแยกมาให้เป็นชุดๆ ออกมา

หยางชิงโม่เมื่อได้โจ๊กมาวางตรงหน้าแล้ว เธอก็หันไปมาหาหมอ เพื่อจะเทโจ๊กทั้งหมดลงในหม้อเก่า ๆ ใบหนึ่งและวางลงบนเตา ทำเหมือนว่าเธอต้มมันด้วยตัวเอง และนำไฟแช็คออกมาติดเตาอย่างรวดเร็ว กลิ่นของโจ๊กลอยออกมาถึงข้างนอก เด็กๆ ทั้ง 3เมื่อล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย พวกเขาต่างกก็รออยู่ด้านนอกห้องครัวและพวกเขาต่างพากันยื่นศีรษะมองเข้าไปในครัวเรียงลำดับบนสุดคือเจ้าใหญ่ ล่างลงมาคือเจ้ารอง และ เจ้าเสี่ยวเป่าที่อยู่ด้านล่างสุดซึ่งตอนนี้มุมปากมีน้ำลายเริ่มไหลแล้ว

พวกเขามองแม่ที่กำลังต้มโจ๊กอยู่ และตอนนี้มันก็เริ่มส่งกลิ่นหอมออกมานอกห้องครัวแล้ว เมื่อโจ๊กร้อนได้ที่เธอตอกไข่ใส่ของไปด้วยเมื่อไข่เริ่มสุกเล็กน้อยเธอรีบยกลงทันที หยางชิงโม่นำชามออกมา 4 ใบ และตักโจ๊กข้าวขาวที่มีไข่ลวกวางด้านบนลงไป จากนั้นก็รีบเรียกลูกๆ มานั่งที่โต๊ะตัวเล็กด้านในครัวทันที เมื่อพวกเขานั่งเรียบร้อยเธอก็วางชามโจ๊กตรงหน้าพวกเขา และวางแก้วน้ำเต้าหู้ข้างๆ แบบเนียนๆ ให้ลูกดื่มด้วยเลย

เจ้าเล็กนั้นหิวมานานแล้ว เขารีบยกช้อนและตักโจ๊กข้าวขาวที่แสนจะหอมอร่อยนั้นเข้าปากทันที แม้ว่ามันจะร้อนมาก เขาก็ไม่ยอมคายออกมา เมื่อความร้อนคลายลงเขาสามารถกลืนโจ๊กคำนั้นได้ ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นทันที พลางร้องขึ้นมาว่า…

“แม่ครับ!! แม่… โจ๊กข้าวขาวอร่อยจังเลย ไข่หอมมาก ข้าวก็ห้อมหอม ..เสี่ยวเป่าชอบมากเลย ชอบจังเลย”

เจ้าเล็ก เสี่ยวเป่าเริ่มแจกน้ำตาลหวานให้แม่ก่อนใคร จากนั้นก็ตักโจ๊กขึ้นมาอีกคำและส่งเข้าปากต่อทันที พลางทำเสียงฮึมฮำ และนั่งตีขาบนเก้าอี้ไปมาอย่างมีความสุข…และเขายังเงยหน้าส่งยิ้มให้แม่บ้างบางครั้งด้วย

“จริงครับแม่ บ้านเราไม่ได้กินโจ๊กข้าวขาวแบบนี้นานแล้วแถมในชามยังมีไข่ด้วยนะ เออร์หมิงก็ชอบมากครับ” เจ้ารองเอ่ยตามน้องทันที เขาก็ทำท่าเดียวกันกับน้องชายนั้นคือ เอียงศีรษะซ้ายขวาและตีขาไปมาใต้โต๊ะ

“อร่อยมาก หอมมากครับแม่ แม่เก่งที่สุดเลย” ต้าหลงตามน้องก่อนจะกล่าวขึ้นอีกว่า

“แม่กินด้วยกันสิครับ แม่กินเลย แม่ไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะครับ” เขาว่าพลางเลื่อนชามโจ๊กมาตรงหน้าแม่เขาเหมือนกัน เด็กๆ พากันพยักหน้าให้เธอรีบกิน หยางชิงโม่มองลูกทุกคนก่อนจะพยักหน้า

“กิน กิน กิน” เสี่ยวเป่าพยายามจะตักโจ๊กให้ชามของตัวเองให้แม่ของเขากิน

“อืม แม่จะกินพร้อมกันกับลูกๆ จ๊ะ”

หยางชิงโม่เอ่ยพลางตักโจ๊กและทานไปกับลูกๆ ทั้ง 3 คนของเธอ พลางถอนหายใจ ดีที่มาทันเวลา ไม่เช่นนั้นเด็กๆ ของเธอน่าจะหิวโหยกว่านี้แน่ และตอนนี้เมื่อเธอมองไปที่พวกเขาความรู้สึกรักและรู้สึกผูกพันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ตอนนี้เธอดีใจที่ได้ขนอาหารมามากมาย ต่อไปเด็กๆ จะต้องมีชีวิตที่ดีเธอจะเลี้ยงดูพวกเขาให้ดีที่สุดให้ได้ หยางชิงโม่คิด จากนั้นสายตาเธอก็มองไปรอบๆ ห้องครัวเก่าและบ้านโทรมๆ หลังนี้พลางถอนหายใจ และคิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวจะจัดการเอง จากนั้นสายตาของเธอก็มองเลยออกไปที่นอกหน้าต่าง

ฉับพลันสายตาของเธอก็ปะทะกับเข้าบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ค่อยจะเข้าพวกกับสภาพแวดล้อมเท่าไหร่นัก บางสิ่งบางอย่างที่เป็นสีดำก้อนกลมๆ นั่งอยู่บนกำแพงรั่วบ้านของเธอและมันยังมองเข้ามาข้างในบ้านของเธอและ..สบตากับเธอพอดีอีกด้วย!!!!

เฮ้ย!!!!!!

****อะไรอะ อ้วนๆ ดำๆ ไม่เข้าพวก****

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel