สวาทรักคืนแรม บทที่3.หากผมช่วยได้ผมก็อยากช่วย 1/2
“ไม่นั่งหรือไงล่ะหะ”
เสียงเธอตวาด พร้อมกับควานหากระติก มีชั้นวางแก้วอยู่ไม่ไกลมือ
“ในนี้จะดีเหรอเจ้”
“ดีสิ เมาแล้วก็นอนเลย” แกตอบผม ก่อนจะยื่นแก้วที่ผสมเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วให้
“เจ้อยู่คนเดียวเหรอครับ”
แกมองหน้าผมแล้วตอบ “เห็นคนอื่นไหมล่ะ”
ผมหัวเราะ ฉวยแก้วเหล้ามาดื่มแก้เก้อ
“ผมเคยได้ยินคนอื่อนเล่าให้ฟังครับ ได้ข่าวเจ้มีแฟนแล้วนี่”
“ข่าวเก่าแล้วล่ะ ตอนนี้เลิกกันแล้ว”
ผมไม่เข้าใจนัก ผู้หญิงตรงหน้าทั้งขาว ทั้งอึ๋ม ไม่รู้เพราะอะไรแฟนแกถึงได้เลิก ถ้าเป็นผมน่ะเหรอ ไม่มีทางปล่อยเจ้หมวยหลุดมือแน่ๆ
“อ้าว...”
“ไม่ต้องอ้าวหรอก ไอ้หมอนั่นมันว่าเจ้ ห่วย”
ผมไม่เข้าใจอีกแล้ว ‘ห่วย’ คำนิยามคำนี้หมายถึงอะไร
“อย่าไปพูดถึงเลย ชั่งเถอะ แค่อดีต” เจ้โบกมือ ฉวยแก้วมาดื่มอัก ๆเหมือนต้องการกลบเกลือนบางอย่าง
“เจ้ยังสาว ยังมีคนสนใจอีกเยอะ ขนาดพ่อผมยังอบเจ้เลย”
ผมปลอบใจ เจ้หมวยมองหน้าผม พอแกถามผม ผมถึงกับอึ้งไปเลย
“เบสล่ะ ชอบเจ้มั้งไหม?”
ผมยกมือเกาท้ายทอย ไม่ได้หลบตาแกนะ ผมกำลังคิดว่าผมควรตอบแบบไหนดี
“ถ้าผมเป็นอีกคน ที่อยู่ในกลุ่มคนที่ชอบเจ้ล่ะ”
เจ้หมวยเงยหน้าขึ้นพร้อมกับหัวเราะร่วน
“ไม่ต้องมาพูดปลอบ ให้เจ้รู้สึกดีหรอกเบส ไม่มีใครรักเจ้จริง ทุกคนแค่หวังฟัน”
ผมไม่รู้ว่าช่วงเวลาสามสี่ปีมานี่เจ้หมวยผู้แสนดีของผมไปเจอกับอะไรมาบ้าง ผมไม่ได้ยินข่าวของแกเลย
ผมอยากรู้แล้วสิ ผู้ชายคนนั้นฝากรอยแผลอะไรไว้ในใจเจ้ของผม
“ผมไม่ได้โหกนะเจ้ ผมชอบเจ้ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วล่ะครับ”
“ไม่จริงหรอก”
“ผมจะโหกเจ้ทำไม ผมตามเจ้ เพราะผมชอบเจ้นะ”
“หึ” เจ้หมวยกระแทกเสียงใส่ผม ฉวยขวดเหล้ามารินใส่แก้วโดยไม่ได้พูดอะไรอีก ผมตรึกตรองในใจชั่วครู่ ผมกับเจ้อยู่ในที่ลับตา การคุยด้วยปาก บางทีก็สื่อไม่หมด ความจริงผมน่าจะคิดได้นานแล้วนะ ผมควรบอกเจ้ ด้วยภาษากาย...
ผมรั้งข้อมือเจ้หมวย เธอเงยหน้ามองผม ดวงตากลมโตนั่นเป็นประกายล้อเล่นกับแสงไฟ
“คิดจะทำอะไร”
“ผมอยากช่วยเจ้ เจ้ควรปล่อยอดีต แล้วมีชีวิตกับปัจจุบันมากกว่า”
ผู้ชายคนนั้นป้ายรอยราคีที่ลบไม่ออกไว้ในใจของเจ้หมวย ผมเลยอาสาจะช่วยลบออกให้ วันพรุ่งนี้เจ้ของผมจะได้กลับมาเป็นคนเดิม ยิ้มได้เหมือนเดิม
“ไม่มีทาง...” เจ้หมวยขืนตัวไว้...”
“เจ้ยังไม่ลองเลย ลองก่อนเถอะ”
“เจ้กลัวเบสผิดหวัง” ความนัยในคำพูดของเจ้หมวย ทำให้ผมอยากรู้แล้วล่ะ ไอ้หมอนั่นของเจ้ สบประมาทอะไรเจ้ของผมไว้บ้าง
“ผมไม่มีทางผิดหวังหรอก” ผมพูดเสียงหนัก ก้มหน้าลงใกล้
เจ้หมวยเงยหน้าขึ้น เธอกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ผมไม่สนใจแล้ว ผมก้มหน้าบดจูบเรียวปากอิ่ม แทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวรัดเรียวลิ้นเล็กๆ ของเจ้หมวย พร้อมกับดูดแรงๆ เจ้หมวยตัวสั่นเทา เธอหลุบเปลือกตาลง เปิดทางให้ผมเดินหน้าต่อ ด้วยไม่ทักท้วง
มือผมคลึงเนินนมอวบใหญ่ เสียงเจ้หมวยครางฮือ
ผมสอดมือรั้งเสื้อยืดออกไปทางศีรษะ ซบหน้ากับเต้าอวบ ดูดหัวนมแข็งตึงจนเจ้หมวยดิ้นพล่าน
“อูยยยย เบส เจ้เสียว”
เสียงแหลมครางลั่น ลำตัวบิดเป็นเกลียว ผมร่นเอวกางเกงเจ้ลงต่ะ ลูบคลำเนินโหนกด้วยมือที่สั่นเทา
กางเกงชั้นในของเจ้เปียกแฉะ ร่องเสียวฉ่ำเยิ้ม ผมไม่คิดว่าเจ้หมวยจะมีอารมร์มากเท่านี้ ผมอยากสัมผัสแกทั้งตัว แต่ตอนนี้ ผมก็ไม่ไหวเช่นกัน เวลายังมีอีกมาก ผมคงใช้เวลานานสักหน่อยในการซอกซอนเจ้ทุกซอกทุกมุม
แต่ตอนนี้...ขอก่อนเถอะ
ผมไม่อยากขายขี้หน้าคนที่ตัวเองชอบตั้งแต่ครั้งแรก
ผมประคองท่อนลำแข็งตัวเขี่ยไปเขี่ยมาที่กลางร่องเสียว
“ซี๊ดดดดด อูยยยย โอววววว”
เสียงเจ้ของผมครางโอดโอย หน้าขาอวบแบะอ้ามากขึ้น
ผมกดบั้นเอวเสือกท่อนลำมันปลาบผลุบหายไปกลางแอ่งสวรรค์ เจ้หมวยกัดฟันกรอด กระดกเอวร่อนสะโพกสวนใส่
“กระแทกแรงๆ เลยนะเบส เจ้เสียวมากๆ เลย”
เสียงแกร้องสั่งผม เหมือนสมัยตอนที่ผมเป็นเด็ก
ผมเองเสียวมากๆ รูเสียวของเจ้รัดดุ้นผมแน่น จนแทบทนความเสียวไม่ไหว “เจ้ยังฟิตอยู่เลย ผมแทบน้ำแตก แค่ได้จิ้มเจ้เองนะครับ”