สวาทรักคืนแรม บทที่1.เมื่อสัญชาตญาณของผมถูกปลุกให้ตื่น 2/2
ผมคิดว่านั่นจะเป็นความระยำครั้งสุดท้ายของตัวเอง
ผมไม่ได้กลัวบาปหรอกนะครับ เพราะผมคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากความร่วมมือของผมกับพี่สะใภ้ อย่างย้อยความผิดนี่ก็แบ่งกันคนละครึ่ง
ผมคงเป็นเป็นผู้ชายเลวในสายตาของพวกคุณสินะ
เรื่องไม่ได้จบแค่นี้หรอก...
ผมระวังตัว พยายามอยู่ห่างจากพี่สะใภ้ ผมไม่อยากให้เหตุการณ์เหมือนที่เล่าข้างต้นเกิดขึ้นอีก ถึงผมจะเป็นคนเลว สำนึกฝ่ายดีผมก็ยังพอมีอยู่
อย่างว่าแหละ พี่ชายผมกับพี่สะใภ้คนนี้ ไม่มีทางไปรอด หากพี่สะใภ้ผม ยังเอวไว้ ทุกครั้งที่เข้าใกล้ผู้ชาย
ผมกลับไปเรียน เมื่อกลับบ้าน พี่ชายผม ก็เลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว พี่ผมจับได้ ว่าพี่สะใภ้ผม แอบเล่นเสียวกับผู้ชายเกือบทั้งหมู่บ้าน
“แม่มเอ่ย กูก็นึกว่ามันทำงานบ้านเหนื่อยเลยไม่อยากกวน ที่ไหนได้ ออกไปแรดๆ เอากะคนอื่นจนเพลีย เลยไม่มีแรงให้กูเด้า” บาส พี่ชายผมบ่น
ผมนั่งอมยิ้ม ไม่พูดแทรกให้พี่ชายอารมณ์เสีย
“มึงละไอ้เบส เสร็จอีนอมมันด้วยไหม?”
พี่ชายผมหันมาถาม ผมสะดุ้งแต่ก็รีบปฏิเสธ ไม่ได้กลัวพี่ชายโกรธหรอกนะครับ ผมกลัวมันอาย
“ดีแล้วแหละ ต่อไปนี้ กูจะหาเมียอีกที คงต้องดูนานๆ”
บาสมันบ่นต่อ ท่าทางมันไม่เข็ดเรื่องผู้หยฺงหรอก ตัวพี่ชายผมก็เจ้าชู้ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร คงได้สายเลือดแบบนี้มาจากพ่อของเรานั่นเอง
พ่อผมอายุเกือบหกสิบปี เป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเองอย่างดี หากให้เดาอายุจากหนังหน้า แกมักจะยิ้มหน้าบานทุกครั้ง ไม่มีใครทายถูก หากไม่ได้สนิทชิดเชื้อ
พ่อผมเหมือนหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบกลางๆ ทั้งที่ความจริงแล้วอีกไม่อีกวันแกจะแตะเลขหก
แม่ผมไม่ต้องถามถึงนะครับ รายนั้นปล่อยตัวตามกลไกโรค แกไม่สนใจพ่อผมหรอก อยากจะไปเถลไถลที่ไหน ก็เชิญตามสบาย แกมีสมาคมคนว่างงานเป็นเพื่อนแล้ว
“ไงสองหนุ่ม ไม่ไปไหนกันเหรอ?”
พ่อผมโผล่หน้ามาทัก เธอแต่งตัวเหมือนจะออกจากบ้าน
“พ่อไปไหนอะ”
พี่ชายผมถาม “ไปร้านอีหมวย ไปด้วยกันไหมล่ะ” วันนี้แกคงไม่มีคู่ควง เลยอาศัยลูกชายไปเป็นเพื่อน ร้านพี่หมวย คือร้านอาหารกึ่งๆ ผับเหมือนในกรุงเทพฯ นั่นแหละ มีหนุ่มเล็ก หนุ่มใหญ่ใช้บริการเนืองแน่น เพราะเจ้าของร้านใจใหญ่ ดูแลลูกค้าทั่วถึง ที่สำคัญเด็กเสิร์ฟในร้านแก...ใช้ได้ทุกคน
“ผมไปด้วย เบสไปปะ สาวเสิร์ฟร้านพี่หมวยเด็ดอย่างนี้เลย” พี่ชายผมยกหัวแม่มือขึ้นชู พร้อมกับกระโจนเข้าห้องไปเปลี่นเสื้อผ้า
ผมทรงตัวขึ้นยืน ไม่ต้องหล่อไปกว่านี้ สาวๆ ก็ตามกรี๊ดผมจนเสียงแห้งแล้ว ดั้งนั้นผมเลยไม่จำเป็นต้องแต่งหล่อไปแข่งกับใคร เพราะหากเทียบกันแล้ว...ผมน่าจะเป็นตัวดึงดูดอย่างดี อย่างว่าแหละ ราสีคนหนุ่ม ย่อมดีกว่าคนมีอายุแน่นอน
ราตรีนี้อีกยาวไกล เชื่อเถอะ คืนแรม ไร้แสงจันทร์อย่างนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะ เรื่องเสียวๆ
เจ้เจ้าของร้านคือพี่สาวท่าทางใจดีที่ผมรู้จักตั้งแต่ตัวเองยังเป็นแค่เด็กชาย เป็นพี่สาวที่ดีมากสำหรับผมคนหนึ่ง เจ้หมวยเป็นคนที่ช่วยสอนผมทุกอย่าง สมัยเด็กๆ ผมตามเจ้หมวยต้อยๆ มาห่างกันก็ตอนที่ผมเข้าเรียนในชั้นวิทยาลัย’ สนิทไม่สนิทคิดเอาเอง มุกสิ่งบนร่างกายผมเจ้แกเห็นมาหมดแล้ว จะแตกต่างก็เรื่องขนาดนั่นแหละ เพราะช่วงหลังๆ ผมโตขึ้นเยอะ
“ไงเบส ไม่เห็นหน้าหลายปีเลยนะ”
เมื่อพ่อ ผม พี่ชายเดินเข้าไปในร้านเจ้หมวย เจ้ก็ยิ้มร่าทักทายด้วยความสนิท
พ่อเลิกคิ้วขึ้นสูง...พ่อผมไม่รู้มาก่อนว่าผมกับเจ้หมวยสนิทกัน
“หาที่นั่งดีกว่าพ่อ อยากรู้อะไรถามผม ไอ้เบสกับเจ้น่ะ เขารู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ แล้ว”
พี่ชายผมรั้งพ่อไปอีกทาง เปิดโอกาสให้ผมกับเจ้หมวยได้ทักทายกัน
ผมไม่อยากคิดอกุศลหรอกนะ แต่เจ้ของผมแต่งตัวน่าคิดเกินเลยจริงๆ
คอเสื้อร่นลงต่อจนมองเห็นร่องอกอวบ กางเกงขาสั้นฟิตเปรี๊ยะจนมองเห็นรูปรอย...
ผมถึงกับถอนใจ เพื่อลดความตื่นเต้น หากเจ้หมวยรู้ความคิดผม คงไม่แคล้วถูกตบกะบาล