ตอนที่2[เมามาย]
คู่หมายของแพรวา
ตอนที่2
[เมามาย]
หลังจากเข้าไปอาบน้ำให้เนื้อตัวสบายกับการทำงานมาทั้งวันแล้ว กฤตภัทรก็หยิบเสื้อยืดกางเกงยีนมาสวมใส่ไม่ว่าจะอยู่ในลุคไหนเขาก็ดูเท่ มีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามเสมอ บวกกับหน้าตาที่หล่อเหลา หมุนตัวอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่หนึ่งรอบเพื่อสำรวจความหล่อ ย้ำความมั่นใจ จึงก้าวออกจากห้องลงลิฟต์ไปกดรีโมทเปิดประตูรถแล้วก้าวขึ้นรถคู่ใจออกไปตามท้องถนนที่มีจราจรติดขัดจนเคยชิน ไม่นานก็มาถึงพับแห่งหนึ่งที่นัดหมายกับเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเพราะต่างคนต่างไปแสวงหาความรู้ใส่ตัว มาถึงเวลา 1 ทุ่มตรงสายตาสอดส่องมองหาโต๊ะที่นัดหมาย
"กฤตทางนี้" มองตามเสียงเรียกเห็นอัครเดชกวักมืออยู่ จึงส่งยิ้มให้
"รอนานไหมรถติดน่าดู"
"ไม่หรอกเพิ่งมาถึงเหมือนกัน" เพื่อนบอกกล่าว
"พวกมึงเป็นไง สบายดีกันไหม " กฤตภัทรนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับเพื่อนทั้งสอง ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม นอกจากสองคนนี้แล้วก็มีพลวัฒน์อีกคนที่เป็นเพื่อนร่วมแก็งค์
สามหนุ่มนั่งคุยกันมากกว่า เพราะพวกเขาไม่ค่อยถนัดกับแอลกอฮอล์มากนัก จึงเลือกที่จะจิบและคุยกันไปเรื่อย ๆ ตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน
"กฤตมึงยังไม่มีแฟนอีกเหรอวะ" เดชาถามเพื่อนยิ้ม ๆ
"ยังว่ะกูไม่รีบ"
"เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้นะโว้ย" อัครเดชเสริมทัพ
"ว่าแต่มึงเหอะ อัตมึงมียัง" กฤตภัทรหันมาเล่นงานเพื่อนบ้าง
"กูกำลังแอบมองอยู่วะ" อัครเดชบอกเพื่อนอย่างไม่อาย แล้วทั้งสามหนุ่มก็หันมาส่งเสียงหัวเราะให้กันแบบขำ ๆ
เดชานั้นแต่งงานแล้วภรรยากำลังท้องอ่อน ๆ ส่วนอัครเดชกำลังมองดูอยู่เพราะเขาแอบเฝ้ามอง น้องมินตราคนสวยที่เป็นเพื่อน ของแพรวา มาพักหนึ่งแล้ว แค่รอจังหวะจะเข้าหายังไม่สะดวก นั่งคุยกันไปเรื่อย ๆ กฤตภัทรจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ขณะเดินไปผ่านโต๊ะกลุ่มหนึ่งมีชาย 3 หญิง 3 แต่สายตาสดุดกับหญิงสาวผมยาวสลวยที่กำลังสะลึมสะลือเหมือนเมาหนักและมีผู้ชายข้าง ๆ กำลังจะอุ้มเธอ ช่างเถอะ! คงจะเป็นคู่รักกัน ว่าจะไม่สนใจแต่ผู้หญิงคนนั้นก็หันหน้ามาพอดี
' แพรวานี่ ! ' ทำไมถึงทำตัวเมามายขนาดนี้ ชั่งเถอะเธอคงจะมากับแฟนมั้งผู้ชายถึงกอดกันกลมขนาดนั้น แต่อีกใจให้นึกถึงคุณย่า เขาจึงก้าวเท้าไปหยุดยืนอยู่ใกล้ ๆ หญิงสาวแล้วดึงแขนให้ลุกขึ้น
"คร้าย…มาดึงแขนฉันทำมาย…" หญิงสาวพูดเสียงยานเพราะฤิทธิ์แอลกอฮอล์
"กลับบ้านเดี๋ยวนี้แพรวา"
"ไม่กลับ แพรไม่กลับ กำลังสนุกอยู่เลย" หญิงสาวพยายามเพ่งมองคนที่ถือวิสาสะมาดึงแขนเธอ
"นาย…นี่เองเหรอมีสิทธิ์อะไรมาบังคับฉัน"
"นาย…เป็นหลานคนโปรดของคุณย่าแล้วไม่ใช่จะมาบังคับฉันได้น่ะ"
"ไม่มีทาง…จำเอาไว้ซะด้วย" พูดย้ำลอยหน้าลอยตาจนอีกคนเริ่มหมั่นใส้ กับอาการมั่นอกมั่นใจของหญิงสาว
กฤตภัทรไม่สนใจคำพูดและท่าทางขัดขืนของสาวมั่นตรงหน้าสักนิด เขาจึงจับแขนแล้วลากพร้อมก้มลงช้อนอุ้มร่างที่ดีนดิ้นและรั้นไม่ยอมทำตาม มาถึงรถเปิดประตูหน้าแล้วโยนร่างเข้าหน้ารถพร้อมปิดประตูให้ แล้วเดินอ้อมมาฝั่งคนขับก้าวขึ้นรถแล้วขับ เคลื่อนออกไป ยังจุดมุ่งหมายปลายทางคือบ้าน อดิเทพ แต่ใจฉุกคิดถ้าคุณย่าเห็นสภาพหลานสาวคนสวยในตอนนี้ คงไม่ดีแน่ ๆ จึงตัดสินใจเลี้ยวรถกลับไปคอนโดฯ กะว่าปล่อยให้คนดื้อรั้นนอนพัก อาการดีขึ้นจึงค่อยไปส่งบ้าน แต่ร่างหน้ารถกลับดิ้นทุรนทุรายปากร้องบอก"ร้อน…ร้อน" ตลอดทางเขาจึงเหยียบคันเร่งให้เร็วกว่าเดิมในที่สุดก็มาถึงคอนโดฯหรู ดับเครื่องยนต์แล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้คนดื้อลง พอเห็นเขาอยู่ใกล้ ๆ แค่คืบคนดื้อกลับโอบกอดเอวหนาของเขาเอาไว้ เขาเอื้อมมือไปปิดประตูรถและกดรีโมทล็อก พาร่างดื้อเดินมาขึ้นลิฟต์ ตลอดทางกว่าจะถึงห้องเล่นเอาเขาเหงื่อซึม เพราะมือคนดื้ออยู่ไม่เป็นสุข เฝ้ากอดลูบไล้ ออดอ้อน ออเซาะเขาตลอดทาง
พอเปิดประตูห้องได้รีบพาร่างดื้อรั้นไปนอนที่เตียงใหญ่ เขาพยายามแกะมือเธอออก แต่คน
ดื้อกลับโน้มต้นคอหนาให้ลงมาใกล้ ๆ พร้อมเผยอปากสวยมาจูบปากหนาของเขาอย่างเมามันแบบเงอะงะไม่เป็นภาษา แต่ก็สามารถทำให้หัวใจของเขากระตุกหวั่นไหวไปกับคนดื้อได้เหมือนกัน
ชายหนุ่มพยายามตั้งสติผลักร่างดื้อให้ออกห่าง พอปากคนดื้อเป็นอิสระปากสวยก็บอก "ร้อน…ร้อน…" อีกครั้ง
ครั้นเห็นแบบนั้นเขาจึงจับแขนเรียวลากไปเข้าห้องน้ำเอื้อมมือไปหยิบสายยางฝักบัวเปิดน้ำ แล้วฉีดใส่คนดื้อตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้คนที่เปียกน้ำโวยวาย
"ไอ้บ้า! มาฉีดน้ำใส่ทำไมฉันหนาว"
"ไอ้บ้า…บอกให้หยุดเดี๋ยวนี้น่ะ" เขาไม่ฟังเสียงกลับฉีดน้ำใส่จนชุดเดรสสีครีมสั้นเลยเข่าเปียกชุ่มไปทั้งตัวจนมองเห็นบราตัวจิ๋วที่ห่อหุ้มอกตูมจนถนัดตา เขามองอย่างลืมตัวจนได้ยินเสียงใส ๆ ตะโกนด่าจึงได้สติ
"ไอ้บ้า…ฉันเปียกหมดแล้ว"
กฤตภัทรเอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำ แล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่มาเช็ดผมเช็ดตัวให้คนดื้อ เสร็จจึงก้มลงช้อนร่างเปียกอุ้มไปวางที่เก้าอี้ข้างเตียง แต่คนดื้อรั้นไม่ยอมลงจากอ้อมแขนแข็งแรง เธอกลับกอดเขาแน่นแล้วมาดูดปากเขาอีกครั้ง เขารู้สึกร้อนรุ่ม หัวใจสั่นไหว กับการสัมผัสของคนในอ้อมแขน จนรู้สึกอยากรุกกลับ คนดื้อส่งสายตาหยาดเยิ้ม เขาหมดความอดทน รีบประกบปากอิ่มด้วยแรงอารมณ์ที่ปราถนา แล้วอยู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น กริ๊ง…กริ๊ง…กริ๊ง…ทำให้เขาหลุดจากภวังค์ ผลักร่างดื้อออกห่าง
กริ๊ง…กริ๊ง…กริ๊ง…
เขารีบผลักร่างดื้อออกห่าง ลุกเดินไปหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะมาแนบหู
["ฮัลโล…สวัสดีครับ"]
["ตากฤต…นี่ย่าเองเราอยู่ไหน"] คนปลายสายถาม
["ผมอยู่ห้องครับคุณย่า"]
["ตากฤต…ย่าร้อนใจมากเลยลูก จนป่านนี้ยายแพรยังไม่กลับบ้าน ย่าเป็นห่วงมาก"]
เมื่อเขาได้ฟังประโยคของคุณย่าจบ เขาอึ้งจะบอกคุณย่าอย่างไรดี ถ้าท่านรู้ว่าหลานสาวคนสวยของคุณย่ากำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยง ดูดปากอยู่กับเขาในคอนโดฯสองต่อสอง คุณย่าต้องลมใส่แน่ ๆ
["คุณย่าไม่ต้องห่วงน้องนะครับ เพราะน้องเพิ่งโทรมาบอกผมว่าจะค้างบ้านเพื่อนครับ"]
["ถ้ากฤตพูดแบบนั้นย่าก็สบายใจขึ้นมาหน่อย"] หญิงสูงวัยกล่าวกับหลานชายเหมือนรู้สึกโล่งใจ
เขารู้สึกผิดที่จะต้องโกหกคุณย่า แต่ถ้าให้ท่านมาเห็นสภาพของแพรวาตอนนี้ เขาคิดว่าคุณย่าต้องลมใส่แน่นอน ดูจากอาการแล้วเขาคิดว่าไม่ได้เมาธรรมดาต้องมีใครหยอดยาให้เธอดื่มแน่ เขาพยายามให้เธอดื่มน้ำบ่อย ๆ ปล้ำถอดเสื้อผ้าออกแล้วเอาผ้าห่มผืนใหญ่มาห่มร่างให้ กว่าอาการคนดื้อจะสงบลงก็ปาไปเกือบสว่างแล้ว เล่นเอาเขาหมดแรงผสมง่วงหลับไปในที่สุด