บท
ตั้งค่า

1.ลูกสาวอีกคน

EP1.ลูกสาวอีกคน

รถตู้คันหรูแล่นเข้ามาจอดในคฤหาสน์ของตระกูลเมธีวุฒเป็นอย่างเคย มาเรียมก้าวลงจากรถด้วยสีหน้าอิ่มเอิบ วันนี้นางมีข่าวดีจะมาบอกแก่ว่าที่ลูกสะใภ้คนที่สอง หลังจากที่พยายามรบเร้าลูกชายคนกลางอย่างมาร์โคอยู่นาน ท้ายที่สุด….คุณหมอจอมเย็นชาก็จำต้องยอมให้จัดงานหมั้นขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

รอยยิ้มของหญิงสูงวัยฉายชัดอยู่บนใบหน้า เมื่อนึกย้อนไปถึงถ้อยคำของลูกชายที่พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้

‘แม่ครับ ผมไม่ได้ชอบเอมิกา ผมไม่อยากหมั้น’

‘มาร์คลูก….น้องไม่ได้แย่อะไรเลยนะ ถ้ามาร์คเปิดใจมาร์คจะต้องตกหลุมรักน้องแน่นอนเชื่อแม่สิ’

‘ผมไม่เคยรักใครแม่ก็รู้ ผมชอบอยู่คนเดียว’ นั่นแหละคือปัญหาของลูกชายคนนี้ เพราะมาร์โคไม่เคยมีแฟนให้นางเห็นสักคน จะเห็นก็แต่….มีซื้อกินอยู่บ้าง ที่นางรู้ก็เพราะแอบตามสืบเรื่องลูกชายอยู่บ่อยครั้ง

ในบรรดาลูกๆทั้งสี่คนนอกเหนือจากมารีน่า คนที่มาเรียมเป็นห่วงมากที่สุดก็คือมาร์โค เพราะแต่ไหนแต่ไรมาร์โคนั้นรักความสันโดษมากกว่าอะไรดี อย่าว่าแต่แฟนเลย เพื่อนยังไม่เคยเห็นสักคน เขาชอบอ่านหนังสือและอยู่กับตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ

ตอนแรกนางก็แอบสงสัยว่าลูกชายของนายอาจจะเป็นชายรักร่วมเพศหรือไม่ ก็เลยลองให้คนตามสืบดู แต่นักสืบก็รายงานมาว่ามาร์โคเคยใช้บริการในเรื่องอย่างว่าอยู่บ้าง ถึงจะไม่บ่อยเท่าน้องชายจอมแสบอย่างมาร์ติน แต่นั่นก็ทำให้ผู้เป็นแม่เบาใจขึ้นมาได้อยู่มาก

‘ไม่รู้ล่ะ ถ้ามาร์คไม่ยอมหมั้นกับน้อง มาร์คก็ไม่ต้องมาเรียกแม่ว่าแม่อีกต่อไป’ นางยื่นคำขาด ทำเอาคุณหมอที่มักจะมีสีหน้าเรียบเฉยอยู่ตลอดเวลา ตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดขึ้นมาทันที

‘ก็ได้ครับ ถ้าอยากให้ผมหมั้น ก็จัดแค่งานเล็กๆแล้วกัน ไม่ต้องบอกใครทั้งนั้น จัดขึ้นมาแบบเรียบง่าย ไม่ต้องมีพิธีรีตรองและชุดอะไรให้เยอะแยะวุ่นวาย ถ้าแม่ตกลงผมจะยอมหมั้น’ นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่มาร์โคยอมพูดประโยคยาวๆออกมา

นอกเหนือจากต้องคุยกับคนไข้แล้ว ในชีวิตประจำวันมาร์โคไม่ชอบพูดคุยกับใคร เขามักจะใช้สีหน้าเป็นการตอบกลับผู้สนทนาอยู่เสมอ ที่ชายหนุ่มต้องยอม เพราะเขาไม่อยากให้มารดาตามมางอแงในเรื่องนี้กับเขาอีก หากหมั้นไปแล้ว เด็กนั่นจะยอมทนคุยกับหุ่นยนต์อย่างเขาได้ตลอดรอดฝั่งก็ให้มันรู้ไป

“อ้าวเรียม มาถึงเร็วจัง”คุณหญิงอัญญา เมธีวุฒ เดินเข้ามาทักเพื่อนรักอย่างอารมณ์ดี

ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้สนิทสนมกันมานานมากๆ แต่เนื่องจากอัญญาได้สามีอยู่ที่เชียงใหม่ หลังแต่งงานนางจึงย้ายไปอยู่ที่นั่นนานหลายปี เพิ่งกลับมาซื้อบ้านอยู่ที่กรุงเทพได้แค่ไม่กี่เดือนนี้เอง

ส่วนเรื่องหมั้น จริงๆแล้ว มาเรียมเคยแอบคิดไว้อยู่บ้างว่าอยากให้มาร์โคได้เรียนรู้กับใครสักคน ซึ่งประจวบเหมาะกับหลานสาวตัวน้อยของนางย้ายมาเรียนที่นี่ แถมมาเรียมนั้นก็ดูออกว่าเอมิกา หรือ มีมี่ กำลังแอบชอบลูกชายของนางอยู่ ทุกครั้งที่เจอหน้าป้า เอมิกามักจะถามถึงมาร์โคอยู่บ่อยครั้ง

หญิงสูงวัยที่เห็นดังนั้นจึงไม่ช้า รีบทาบทามหลานสาวที่ตัวเองรักและเอ็นดูราวกับลูกสาวอีกคนให้มาเป็นคู่หมั้นของมาร์โคทันที

“วันนี้รถไม่ติดน่ะสิ ก็เลยรีบมาได้ แล้วนี่หนูมีมี่ล่ะ ยังไม่ตื่นหรอกเหรอ”

“โอ้ย รายนั้นน่ะรีบตื่นแต่เช้าแล้ว พอเห็นว่าเธอบอกว่ามีข่าวดีจะมาบอกก็รีบอาบน้ำแต่งตัวรอเลยล่ะ” อัญญาเล่าเรื่องของลูกสาวเพียงคนเดียวให้เพื่อนรักฟัง เพราะเธอเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าเอมิกาชอบมาร์โคมากแค่ไหน

“คุณป้าขาา” สิ้นเสียงบอกเล่าของมารดา เจ้าของเสียงใสก็ดังขึ้นมาจนทุกคนต้องหันไปมอง

“หนูมีมี่ของป้า วันนี้แต่งตัวน่ารักจังเลยลูก” มาเรียมหันไปชมหลานสาวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่ทั้งสองจะสวมกอดกันดังเช่นทุกครั้งที่เจอกัน

“ขอบคุณค่ะคุณป้า วันนี้คุณป้าก็ส๊วยสวยค่ะ” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของสาวน้อยวัย 21 ปี ทำให้หญิงสูงวัยทั้งสองคนยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู

“อุ๊ย จริงเหรอจ๊ะ เรานี่ก็ปากหวานนะชอบชมคนแก่ ฮ่าๆ”

“พอเลยๆ สองคนนี้ชอบยอกันเองอยู่เรื่อย ไปนั่งคุยกันในห้องรับแขกดีกว่า” อัญญาส่ายหัวน้อยๆให้ทั้งสองคนที่มักจะคุยกันเข้าขาเป็นประจำ

หลังจากแม่บ้านเอาน้ำมาเสิร์ฟให้แขกเสร็จสิ้น มาเรียมก็ไม่รีรอที่จะแจ้งข่าวดีให้หลานสาวได้รับรู้ นางมั่นใจว่าเอมิกาจะต้องดีใจอย่างแน่นอนที่ตามาร์คตอบตกลง

“พี่มาร์คเขาตกลงจะหมั้นกับหนูแล้วนะลูก”

เอมิกาค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาเมื่อได้รับฟังข่าวดีที่สุดในปีนี้ของเธอ มันคือความฝันของเอมิกาที่เธอไม่กล้าฝันจริงๆ เธอตกหลุมรักมาร์โคมาหลายปีแล้ว นับว่าเป็นโชคดีที่เธอตัดสินใจย้ายมหาลัยแล้วขอสอบเทียบโอนมาที่กรุงเทพ ก่อนหน้านี้เธอเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ แต่เนื่องจากพ่อกับแม่ตัดสินใจลงมาทำธุรกิจที่นี่ร่างบางจึงขอย้ายตามกลับมาด้วย

พอกลับมาถึง มาเรียมก็มายื่นข้อเสนอนี้ให้เธอ ซึ่งแน่นอนว่าเอมิกาตื่นเต้นมากที่จะได้หมั้นกับคนที่ตัวเองแอบชอบ หลายเดือนก่อนหน้าเธอมีโอกาสได้เจอมาร์โคอยู่หลายครั้ง ถึงแม้เขาจะดูเย็นชาไปบ้าง ตามประสา แต่เธอก็ไม่ได้คิดมากอะไร เอมิกาหวังเพียงว่า….สักวันหนึ่งเธอจะสามารถพังทลายกำแพงของคุณหมอสุดหล่อคนนั้นลงไปได้

“จริงเหรอคะคุณป้า มี่ดีใจมากเลยค่ะ”

“ป้าเองก็ดีใจ แต่ว่า….หนูมีมี่ไม่ติดใช่ไหมลูก ถ้าจะหมั้นกันแบบเรียบง่าย คือพี่เขากำชับมาน่ะจ้ะว่าไม่อยากให้มีพิธีรีตองอะไรเยอะ แค่สวมแหวนหมั้นก็พอแล้ว”

“ไม่ค่ะ มีมี่ไม่ติดเลย แค่พี่มาร์คยอมหมั้นมี่ก็ดีใจมากแล้วค่ะคุณป้า” หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างสุขใจ ทำให้หญิงสูงวัยทั้งสองอดที่จะเอ็นดูไม่ได้

“แล้วเธอล่ะ โอเคไหมอัญ” มาเรียมหันไปถามเพื่อนรัก

“อืม ฉันโอเคหมดแหละขอแค่ให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของฉันมีความสุข”

“ถ้างั้น…ได้แต่งเมื่อไหร่ป้าจะจัดให้ยิ่งใหญ่อลังการไปเลยดีไหมลูก” มาเรียมไม่ได้พูดเล่น นางจริงจังมากในเรื่องนี้

เพราะอยากได้สาวน้อยตรงหน้ามาเป็นลูกสะใภ้มาก มาเรียมจึงจะทำทุกวิถีทางให้ลูกชายตัวดีได้แต่งงานกับเด็กสาวน่ารักผู้นี้ให้ได้

“คุณป้าน่ะ ให้มี่ทำลายความเย็นชาของพี่มาร์คให้ได้ก่อน แล้วค่อยว่ากันนะคะ ไม่แน่….มี่อาจจะเป็นคนขอพี่มาร์คแต่งงานเองก็ได้ คิคิ”

“มี่ลูก….” มารดาส่ายหัวอมยิ้มให้กับความคิดของลูกสาว เป็นสาวเป็นนางแท้ๆ ถึงขั้นอยากจะไปขอผู้ชายแต่งงานเสียแล้ว

“ฮ่าๆๆ ป้าน่ะชอบหนูมีมี่ที่สุด ป้าเอาใจช่วยนะลูก ป้าอยากได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้จริงๆนะ”

ทั้งสามต่างพากันคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งช่วงหลังๆมานี้มาเรียมก็แวะมาที่นี่บ่อยมาก เนื่องจากนางเหงา แต่อีกไม่กี่วันข้างหน้ามีมี่ก็จะเปิดภาคเรียนแล้ว หญิงสูงวัยคงได้เจอกับว่าที่ลูกสะใภ้น้อยลง

ส่วนฤกษ์หมั้น มาเรียมก็จัดการดูตารางงานของลูกชายเรียบร้อยแล้ว และนางก็อยากให้งานหมั้นของเอมิกากับมาร์โคเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด นั่นก็คือวันมะรืน ของทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับงาน หญิงสูงวัยอาสาจัดเตรียมไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอเพียงแค่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวมางานและสวมแหวนให้กัน การหมั้นหมายที่ถูกจัดขึ้นก็จะเป็นอันเสร็จสมบูรณ์

@Must Hospital

มาร์โคกำลังตั้งใจอ่านเอกสารตรวจเช็คงบประมาณภายในปีนี้ของโรงพยาบาล เพราะเขาไม่ใช่แค่หมอธรรมดาที่ตรวจคนไข้เสร็จแล้วจะกลับบ้านได้ ปกติเขามีงานอื่นนอกเหนือจากการตรวจคนไข้ นั่นก็คือการเช็คทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลแห่งนี้ เขาคือ ผอ. คนปัจจุบันของ Must Hospital

หลายๆคนที่อยู่รอบตัวของชายหนุ่มมักรู้ดีว่ามาร์โคนั้นชอบทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ เขาไม่ได้กลับบ้านทุกวันแบบคนอื่น ชายหนุ่มมักทำงานล่วงเวลาจนติดเป็นนิสัย เขาจึงเลือกที่จะพักที่โรงพยาบาลแทนที่จะกลับบ้าน ชั้นบนสุดของตึกนี้จะมีห้องพักขนาดกลางอยู่หนี่งห้องและนั่น คือรังของมาร์โค เขาใช้ชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ตลอด 24 ชั่วโมง

ก๊อก ก๊อก

“ผอ คะ หมอสาธิตมาขอเข้าพบค่ะ” รดาพยาบาลสาวที่ประจำตำแหน่งอยู่หน้าห้องทำงานของเขาเอ่ยขึ้น ซึ่งมาร์โคไม่ได้ตอบกลับ เขาพยักหน้าในขณะที่สายตาภายใต้กรอบแว่นกำลังจ้องมองเอกสารในมืออยู่

“สวัสดีครับคุณหมอ”

“ครับ”

“คือผมอยากจะมาขอแลกเวรกับหมอได้ไหมครับ วันมะรืน ตอนกลางคืนผมติดธุระ ไว้ตอนเช้าผมจะมาเข้าเวรแทนหมอได้ไหมครับ” หมอสาธิตเอ่ยขอร้องออกมา ภายในใจก็รู้สึกตุ้มๆต่อมๆทุกครั้งที่ได้เผชิญหน้ากับท่าน ผอ สุดเฉยชาคนนี้

“ครับ” เขาตอบเพียงเท่านั้นจริงๆ ภายนอกดูเหมือนมาร์โคนั้นดูน่าเกรงขาม แต่จริงๆแล้วเขาใจดี มีไม่กี่คนหรอกที่จะกล้ามาขอแลกเวรกับเขาเช่นนี้

“ขอบคุณมากครับคุณหมอ ผมจะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด งั้นผมขอตัวนะครับ” เพราะเกรงใจคนมีงานเต็มโต๊ะ สาธิตจึงไม่อยากรบกวนเวลานาน

มาร์โคเองก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร สีหน้าเรียบนิ่งยังคงตั้งใจอ่านเอกสารงบประมาณนั้นอยู่เงียบๆ ถึงแม้ในใจจะรู้ดีว่าหากตัวเองยอมเปลี่ยนเวรกับสาธิต เขาจะต้องวุ่นวายอยู่ในวอรด์ทั้งวันจนไม่มีเวลาพัก แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก เขาทำงานตลอดเวลาจนร่างกายรู้สึกชินชาไปเสียแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel