ตอนที่ 7 ท่านหมอ “หลี่เหยา”
“โอ๊ย!!”
“แย่แล้ว ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ คือว่า…"
“ช่างเถอะ ข้าผิดเองที่ไปถามเช่นนั้น ลืมไปเถอะข้าจะไม่กวนเจ้าแล้ว”
นางตกใจจนเผลอกดแผลของเขาแรงเกินไปจนทำให้ท่านอ๋องร้องออกมา ฟางหลีม่านรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากยิ่งนักที่จะมีสมาธิเมื่ออยู่ตรงหน้าบุรุษเช่นท่านอ๋อง แม้แต่เสียงนุ่ม ๆ ทุ้มต่ำและแหบเล็กน้อยก็ทำให้หัวใจนางกระเจิดกระเจิงไปไกลเหลือเกิน กว่าจะทำแผลจนเสร็จก็ใช้เวลานานเพราะร่างที่ใหญ่กว่านางทำให้ต้องใช้เวลาพันแผลอยู่พักใหญ่
“สะ เสร็จแล้ว พ่ะย่ะค่ะ”
“ขอบใจ แล้วเจ้า…”
“กระหม่อมจะรีบไปแจ้งท่านรองแม่ทัพว่าพระองค์ฟื้นแล้ว จะได้ยกยาที่เหลือมาให้เสวยพ่ะย่ะค่ะ”
นางรีบคำนับให้เขาลวก ๆ และเดินออกไป ห่าวหรานรู้สึกแปลกใจกับท่าทีเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะตกใจแต่ก็นึกขำเพราะไม่เคยเห็นผู้ใดที่กลัวเขามากขนาดนั้นมาก่อน แม้ว่าจะพอรู้ว่าคนอื่น ๆ ร่ำลือว่าเขาเป็นอ๋องจอมโหด อ๋องกระหายเลือดก็ตาม
“ข้าไม่ใช่ผีเสียหน่อย”
“ท่านอ๋อง!!”
อี้หลงและต้าเป่ารีบวิ่งเข้ามาเมื่อหลี่เหยาเดินออกไปแจ้งทั้งสองว่าท่านอ๋องฟื้นแล้ว ทั้งคู่จึงรีบวิ่งเข้ามาดูอาการทันที
“พวกเจ้าตื่นเต้นอะไรกันข้าตกใจหมดเลย”
“พระองค์ทรงเป็นเช่นไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ ท่านหมอเก่งมากจริง ๆ พี่อี้หลงท่านดูสิ”
“อี้หลง หมอที่สกุลตงส่งมาคราวนี้…”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทราบจากท่านตาว่ามีหมอฝีมือดีคนหนึ่งเดินทางมาด้วย เขาตัวเล็กเพราะอายุน้อยแต่วิชาแพทย์เก่งกว่าหมอที่ร่ำเรียนในสำนักสกุลตงดังนั้นจึงให้เขามารักษาพระองค์ ดูเหมือนท่านตาจะกล่าวไว้ไม่ผิดเลย”
“อืม เขาเก่งจริง ๆ นั่นแหละ”
“ยอดไปเลยท่านอ๋องปลอดภัย ขอบคุณสวรรค์”
“แล้ว…คนอื่น ๆ ล่ะเป็นอย่างไรบ้าง”
“ตอนนี้ทุกคนเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ครั้งนี้เราประมาทพวกมันไปหน่อย ไม่คิดว่าจะเจอพวกมันลอบกัด”
“กระหม่อมผิดพลาดเองพ่ะย่ะค่ะที่ตรวจสอบไม่ถี่ถ้วน”
“ต้าเป่าเจ้าอย่าโทษตัวเองเลย ครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดใครหรอก พวกมันวางแผนมาแต่แรกแล้ว แต่พวกมันแพ้ครั้งนี้คงจะเสียขวัญไปอีกนาน”
“เห็นว่าเป็นกลุ่มกบฏที่คิดจะแบ่งแยกดินแดนจากซีเป่ยจึงได้มารุกรานชายแดนลู่โจวพ่ะย่ะค่ะ”
“เป็นเพียงชนกลุ่มน้อยเท่านั้น ให้คนของเราตามสืบมาให้ละเอียด ครั้งนี้อย่าให้พลาดอีก”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“อี้หลง หลี่เหยาล่ะ ไปที่ใดแล้ว”
“หลี่เหยา? ผู้ใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“หมอของเจ้าอย่างไร เจ้าไม่รู้จักเขาหรอกหรือเขาชื่อหลี่เหยา”
“กระหม่อมไม่ทราบนามของเขาพ่ะย่ะค่ะเพราะพอมาถึงก็พาเขามาที่นี่เพื่อรักษาพระองค์เลย หลี่เหยางั้นหรือ”
“เขาไปไหนแล้ว”
“เห็นว่าจะไปเอายามาต้มเพิ่มพ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นให้กระหม่อมไปตามดีหรือไม่”
“ช่างเถอะรักษาทหารที่เหลือให้ดี ส่วนอาการของข้าก็ให้…. หลี่เหยาดูแลคนเดียวก็พอพวกเจ้าออกไปพักเถอะ”
“ท่านอ๋อง แต่ว่าอาการของพระองค์…”
“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าดูสิ”
“นั่นสิ วิธีการทำแผลนี่ดูชำนาญมากกว่าหมอที่นี่จริง ๆ เช่นนั้นกระหม่อมจะรีบไปดูเสียหน่อยว่าเขาไปเอายาได้ครบหรือไม่”
“อืม รีบไปเถอะ”
อี้หลงและต้าเป่าเดินออกมาแล้ว พวกเขาพบหลี่เหยาที่เดินกลับมาอีกครั้ง
“เหตุใดพวกท่านจึงออกมาแล้วล่ะ แล้วท่านอ๋อง…”
“อ้อท่านหมอ…หลี่เหยา ท่านอ๋องให้เจ้าเป็นคนดูแลทั้งเรื่องยาและคอยเปลี่ยนผ้าพันแผลให้พระองค์ ส่วนพวกข้าคงต้องไปช่วยท่านหมอดูแลคนเจ็บที่กระโจมโน้น หากเจ้าอยากได้สิ่งใดเพิ่มก็แจ้งทหารหน้ากระโจม พวกเขาจะให้คนไปเอาให้ จากนี้หากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องออกมาเผื่อว่าท่านอ๋องจะเรียกใช้เจ้า”
“ตะ แต่ว่าข้า…”
“เอาน่าหลี่เหยา ดูเหมือนเจ้าน่าจะเป็นน้องข้าสินะหลี่เหยา ไม่ต้องห่วงท่านอ๋องไม่ได้ดุขนาดนั้นเจ้าก็แค่ทำตามหน้าที่ก็พอ”
“ขะ ข้า!! ข้าคนเดียวงั้นหรือขอรับ”
“เจ้าตกใจอันใด ข้ากับต้าเป่าก็อยู่แค่ไม่ได้อยู่ตลอดเท่านั้นแต่ก็ไป ๆ มา ๆ น่าไม่ต้องห่วง รีบเข้าไปต้มยาเถอะ”
ไม่ทันจะพูดอะไรต่อทั้งสองคนก็เดินออกไปแล้ว หลีม่านในนามหลี่เหยาก็หันไปมาเพราะทำตัวไม่ถูก นางไม่คิดเลยว่าการได้มาที่นี่ในตอนแรกคิดเพียงว่าอยากแอบมาดูพี่ใหญ่และท่านอ๋องว่าเป็นอย่างไรบ้างแต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะลงเอยเป็นแบบนี้ไปเสียได้
“เจ้าไปเอายามาหรือ”
เสียงที่ทักทายนางครั้งแรกกลับทำให้นางสะดุ้งจนตัวโก่ง ท่านอ๋องเริ่มรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็มิได้ใส่พระทัยเพราะตอนนี้เขาเองก็มิได้มีแรงมากพอจะจับผิดผู้ใด หากหลี่เหยาคิดร้ายคงไม่รักษาเขาจนอาการดีขึ้นเช่นนี้
“พ่ะย่ะค่ะ ยะ ยานี้ต้องกินสองตำรับจึงจะได้ผล กระหม่อมจึงได้รีบไปนำมาเพิ่ม”
“อืม”
ผ่านเวลาไปนับสิบวันที่หลีม่านอาศัยอยู่ที่ค่ายทหารแห่งนี้ในนาม “หลี่เหยา” และดูแลท่านอ๋อง ในตอนนี้นางเริ่มลดความตื่นเต้นลงได้แล้วเมื่อท่านอ๋องมิได้ทรงตรัสอะไรและพูดน้อยกว่าวันแรกที่พบนาง อีกอย่างนางก็ไม่ได้เข้า ๆ ออก ๆ ที่ห้องของเขาบ่อย ๆ และย้ายมาพักที่กระโจมหมอหลวงแล้ว
“หลี่เหยานี่ยาที่เจ้าต้องการ”
“ขอบคุณพี่ต้าเป่า นี่ยาทาแผลที่ท่านขอวันก่อน”
“โอ้โหยอดไปเลยเจ้าทำให้ข้าได้รวดเร็วขนาดนี้เชียว”
“มีของอยู่น่ะก็เลยทำได้ นี่พี่ต้าเป่าแล้ววันนี้พี่อี้หลงไม่มาหรือ”
“เจ้าน่ะเอาแต่ถามหาพี่อี้หลงบ่อย ๆ ทำไมเจ้าชื่นชมอะไรเขาหรือแต่ก็อย่างว่าแหละนะ หากข้าเป็นสตรีก็คงชื่นชอบเขาไม่น้อยแต่ข้าคิดว่าท่านอ๋องรูปงามที่สุดแล้วเจ้าว่าหรือไม่เล่า”
“ขะ ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรกันข้ามิใช่สตรีนี่”
“นั่นสินะ แม้ว่าเจ้าจะตัวเล็กแต่ก็ไม่ใช่สตรีจริง ๆ ว่าแต่เจ้าเอาแต่สวมผ้านั่นเอาไว้หายใจสะดวกหรือหลี่เหยา”
“ข้าสะดวกเช่นนี้ เพราะเวลาผสมยามันฉุนน่ะก็เลยสวมไว้”
“อ้อ นั่นสินะข้าก็เห็นท่านหมอสวมเอาไว้อยู่หลายคนเวลาที่พวกเขารักษาคนว่าแต่เจ้าถามหาพี่อี้หลงทำไมกัน”
“ขะ ข้าก็แค่ ทำยาเอาไว้ให้เขาด้วยเช่นกันจึงได้ถามดู”
“เช่นนั้นหรอกหรือ เช่นนั้นข้าจะบอกเขาให้นะ ตอนนี้เขากับท่านอ๋องออกไปดูนอกค่ายน่ะ”
“อย่างนั้นเองหรอกหรือ”
นับตั้งแต่วันที่ท่านอ๋องถามนางเรื่องกลิ่นกายของสตรี หลีม่านก็ไม่พกถุงหอมอีกเลยและพยายามให้ตัวของนางมีกลิ่นของยาให้มากที่สุดจึงได้อยู่แต่หน้าหม้อต้มยา ซึ่งท่านอ๋องเองก็เลิกถามแล้วเช่นกัน
“นี่ เจ้าน่ะไปทำแผลให้ท่านอ๋องทุกวัน เจ้าบอกข้าทีว่าบาดแผลของท่านอ๋องดีขึ้นแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่”
“ใช่ ท่านอ๋องฟื้นตัวไวมาก พระองค์ทรงแข็งแรงมากจริง ๆ”
นางพูดพลางกับคิดไปถึงครั้งสุดท้ายที่ไปพันแผลให้เขา
“บาดแผลของพระองค์สมานกันดีแล้ว อีกสองสามวันกระหม่อมจะตัดไหมที่เย็บออกพ่ะย่ะค่ะ”
“อืม ขอบใจเจ้ามากหลายวันมานี้ลำบากเจ้าแล้วหลี่เหยา”
“มิได้พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นดื่มยาเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
“อ้อ ขอบใจ”
มือของท่านอ๋องเอื้อมมาหยิบถ้วยยาและเผลอแตะนางเขา หลี่เหยาตกใจจนรีบดึงมือออกจนยาเกือบจะหกแต่ท่านอ๋องดึงเอาไว้ได้
“ไม่เป็นไร ยังไม่หกเจ้าเป็นอะไรหรือไม่”
“ไม่เป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ”
“เหตุใดเจ้าต้องตกใจราวกับลูกแมวทุกครั้งที่ถูกตัวของข้า เจ้าทำอย่างกับสตรีที่ยังไม่ออกเรือนอย่างนั้นทั้ง ๆ ที่เจ้าเป็นผู้ชาย”