03 คนสารเลว!
พิงค์ Talk
“อืออ….” ฉันเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นหันมองไปรอบๆตัว จนได้รู้ว่านี่ไม่ใช่ห้องของฉัน ทันใดนั้นภาพเมื่อคืนมันก็ลอยเข้ามาในหัวของฉัน “บ้าชิบ!!”
ฉันสบถอย่างหัวเสียก่อนจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นออกมาจากห้องนั้นด้วยวามทุลักทุเล มีแต่เรื่องบ้าบอจริงๆยัยพิงค์ โดนแฟนบอกเลิกไม่พอ ยังจะมาถูกใครก็ไม่รู้เปิดซิงอีก ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ สงสัยต้องไปอาบน้ำมนต์เก้าวัดเก้าวาซะแล้วมั้ง
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยถามดังขึ้น ขณะที่ฉันกำลังมองไปรอบๆเพื่อหาทางออก
“พาฉันมาที่นี่ทำไม?” ฉันหันกลับไปถามเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องหน้าเขาตาเขม็ง หล่อดีนะ มาดเข้ม สูง ยาว ใหญ่ แต่เสียดายทำให้ฉันไม่ถูกชะตาตั้งแต่วันแรกที่เจอ อย่าหวังว่าฉันจะคุยดีด้วยอีกเลย
“แล้วจะให้ฉันพาเธอไปที่ไหน ทิ้งไว้ข้างถนนเหรอ?”
“ปากหมา!”
“ขอบคุณที่ชม” เขายกยิ้มใส่ฉัน นี่กำลังด่าอยู่นะ หน้าหนาจนไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง
“ฉัน จะ กลับ บ้าน” ฉันเน้นทุกคำพูดใส่ผู้ชายตรงหน้า
“ก็กลับสิ ใครมัดเธอไว้ล่ะ เท่าที่ดูก็ไม่นะ หรือว่าเธออยากอยู่กับฉันล่ะ ติดใจ…เมื่อคืนเหรอ” เขาไล่สายตามองฉันอย่างหื่นกาม แถมยังแลบเลียมุมปากตัวเองอีก ทุเรศชะมัด
เพี๊ยะ!
“สารเลว ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลย” ฉันเดินออกมาด้วยความโมโห เขาคือผู้ชายคนแรกที่ทำให้ฉันไม่ถูกชะตาได้ตั้งแต่แรกเจอ แถมยังทำให้ฉันเกลียดได้ภายในข้ามคืนอีกต่างหาก
ใช่เขาคือคนแรก ที่ฉันทำแบบนี้ เพราะปกติฉันเป็นคนเฟรนลี่กับทุกคนอยู่แล้ว
ฉันเดินออกมาเรียกรถแท็กซี่กลับคอนโดเพราะไม่ค่อยอยากลับบ้านเท่าไร กลับไปก็เจอแต่อะไรไม่รู้ น่าเบื่อเหมือนกันนะชีวิตที่ถูกบังคับอยู่ตลอดแบบนี้ ฉันต้องเรียนวิชานี้สายนี้เพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับครอบครัว ต้องวางดีตัววางมาดผู้ดีเข้าไว้จะเป็นเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม
ซึ่งนั่นไม่ใช่ฉัน นี่แหละสาเหตุที่ฉันย้ายออกมาอยู่คอนโดคนเดียว มันน่าเบื่อไปหมด
ครืด ครืด ครืด
ฉันชำเลืองตามองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรง แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ปลายสายที่โทรมาเป็นเบอร์ของคุณแม่แต่ฉันเลือกที่จะไม่รับสาย เพราะฉันเบื่อ
หลายอาทิตย์มานี้ฉันไม่ได้กลับบ้านเลย วันหยุดฉันก็เที่ยวดื่มกับเพื่อนฝูงตามปกติของฉัน เพิ่งฉันจะเที่ยวเก่งเที่ยวบ่อยแต่การเรียนของฉันมันก็ไม่ได้ด้อยลงไปเลย
ฉันก็แค่อยากเที่ยวอยากปลดปล่อยตัวเองบ้าง
"อืมม....สบายจัง" ฉันนอนแช่น้ำอุ่นอยู่ในอ่างใหญ่
คิดถึงเรื่องเมื่อคืนทีไรก็โมโหผู้ชายคนนั้นไม่หาย คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหนกันถึงจะทำอะไรใครก็ได้แบบไม่รู้สึกผิดอย่างนี้ เขาคงจะเคยชินกับการใช้ร่างกายของผู้หญิงเป็นที่ปลดปล่อย แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้น ฉันไม่ได้ขายตัว และฉันก็ไม่ใช่ของที่ไว้ให้ผู้ชายได้ปลดปล่อยด้วย
"เกลียด! เกลียด! เกลียด! ฉันเกลียดผู้ชายอย่างคุณที่สุดเลย ขออย่าได้เจอกันอีกเลยทั้งชาตินี้และชาติไหนๆ กรี๊ดดดอร๊าย!!" ฉันกรีดร้องสุดเสียง แต่ก็ไม่มีใครได้ยินหรอกเพราะคอนโดหลังนี้ถูกทำขึ้นเป็นอย่างดีไม่มีเสียงเล็ดลอดออกไปแน่นอน
ผ่านไปสักพัก
ฉันลุกขึ้นจากอ่างน้ำใหญ่นุ่งผ้าขนหนูแล้วเดินออกไปด้านนอกแต่แล้วฉันก็ต้องผงะเมื่อมีผู้ชายคนนึงนั่งหันหลังอยู่บนโซฟาในห้องของฉัน
โจรเหรอ? หรือว่าโรคจิต ว่าแต่เขาเข้ามาได้ยังไง ฉันจำได้ว่าฉันล็อกประตูไปแล้วนี่นา และห้องนี้ก็มีแค่ฉันคนเดียวที่มีคีย์การ์ด
"เข้าไปนานเลย ฉันว่าจะเข้าไปตามละ แต่เธอเดินออกมาพอดี" เจ้าของร่างนั้นพูดเสียงเรียบ ว่าแต่น้ำเสียงของเขาดูคุ้นๆนะ
"คุณ!!"
"นึกว่าจะจำผัวคนแรกไม่ได้ซะแล้ว" ผู้ชายคนนั้นหันหน้ามามองฉัน
"คุณเข้ามาในห้องของฉันได้ยังไง ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ"
"....." เขานั่งเฉยไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของฉันเลย
"ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความให้ตำรวจมาจับคุณ!"
"เอาซี้แจ้งเลย" เขาพูดท้าทายด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง "คนทั้งตึกนี้จะได้รู้ว่าเธอมีผู้ชายมาหาถึงห้อง และคราวนี้มันก็จะเป็นข่าวใหญ่โตและในที่สุดมันก็จะไปถึงหูของพ่อแม่เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าหลังจากนั้นอะไรมันจะเกิดขึ้น"
"นี่คุณ!!"
"...."
"คุณต้องการอะไรจากฉันอีก ฉันบอกไปแล้วไงว่าเราไม่ต้องมาเจอกันอีก เรื่องเมื่อคืนก็ลืมๆมันไปซะ ฉันจะถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น"
"ฉันทำแบบนั้นไม่ได้สิ"
"แล้วคุณต้องการอะไรจากฉัน?"
"แต่งงานกับฉัน"
"ห๊ะ!?" ฉันร้องอุทานเสียงดัง เมื่อกี้ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม เขาบอกให้ฉันแต่งงานกับเขา "ฉันไม่แต่ง!"
ฉันปฏิเสธเสียงแข็ง เขาเป็นใครมาจากไหนฉันยังไม่รู้จักเลย จะให้แต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักได้ยังไง ฉันไม่เอาด้วยหรอก
"เธอไม่แต่งก็ไม่เป็นไร แต่อย่าลืมเธอเป็นของฉัน และฉันก็จะทำทุกวิถีทางจนกว่าเธอจะยอมแต่งงานกับฉัน ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรไม่ว่าจะต้องสูญเสียกี่ชีวิตฉันก็จะทำ"
"...." น้ำเสียงของเขามันดูเย็นยะเยือกแปลกๆ
เขาจ้องมองนัยน์ตาของฉันก่อนจะเดินหันหลังออกจากห้องไป ทิ้งเพียงความงุนงงเอาไว้ให้กับฉัน