10
"นิสัยเป็นเด็กไม่เคยเปลี่ยนเลยนะไหนบอกอายุสิบเก้าแล้วไงทำไมถึงยังร้องไห้เป็นเด็ก"
"ก็คนมันเสียใจนี่ พี่ไม่รักสวยอ่ะ อือออ"
"ก็คนมันไม่ได้รักอ่ะจะให้ทำยังไงวะ"
"แล้วมันจะมีวันนั้นมั้ยอ่ะวันที่พี่จะรักสวยเหมือนที่สวยรักพี่อ่ะ"
"ไม่!!!" คำตอบของเขาทำฉันใจแป้วไปเลยแต่ฉันก็จะยังไม่หมดหวังหรอกตราบใดที่ใจฉันมันยังสู้ ฉันจะสู้จนกว่าฉันจะมั่นใจว่าจะไม่มีวันนั้นจริงๆ
หลายวันต่อมา
ฟ้าคราม....
นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วที่ผมไม่ได้เจอหน้ายัยตัวแสบเลยคือตั้งแต่วันที่ผมเดินออกมาจากห้องของเธอหลังจากที่ผมยืนยันคำพูดและความรู้สึกของตัวเองออกไปว่าผมไม่มีวันรักเธอได้เพราะถ้าผมคิดจะรักผมคงจะรักเธอไปนานแล้วล่ะเธอก็หายไปจากชีวิตผมเลยเหมือนไม่มีตัวตนจะเจอก็แต่พี่ชายฝาแฝดของเธอพี่ข้าวใหม่กับพี่ข้าวกล้องที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปีทั้งสองคนนี้ก็ยังทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดีของผมมาเสมอวันก่อนก็เพิ่งชวนผมออกไปดื่มเหล้าเมาหัวราน้ำกลับมาจนโดนปู่กับย่าบ่นชุดใหญ่ ผมไม่ได้รู้สึกปลดปล่อยผ่อนคลายแบบนี้มานานแล้ว ก็ตั้งแต่ที่ผมตัดสินใจไปเรียนต่อผมก็ไม่เคยแตะพวกเหล้าพวกเครื่องดื่มมึนเมาเลยเนื่องจากว่าแม่ขอไว้แม่บอกว่าที่นั่นไม่มีใครคอยปลุกให้ไปเรียนผมเหมือนอยู่ที่นี่ถ้าผมแฮงค์ลุกไม่ไหวแม่บอกว่าผมต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงานบ้านการทำอาหารหรือแม้แต่ซักผ้าผมก็ทำเองหมดทุกอย่างถึงแม้พ่อจะบอกว่าให้จ้างแม่บ้านมาทำให้ก็ได้ผมจะได้ไม่เหนื่อยแต่แม่ไม่ให้แม่บอกว่าผมโตแล้วต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเองให้ได้
"พี่ครามหยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!!!" ผมที่กำลังจะเปิดประตูรถก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงใสๆที่ไม่ได้ยินมานานหลายวัน
"อะไรคนยิ่งรีบๆอยู่" คือวันนี้ผมมีนัดกับเพื่อนสมัยเรียนว่าจะไปแข่งรถแก้เครียดสักหน่อย อย่าถามว่าเครียดเรื่องอะไร มันก็มีอยู่เรื่องเดียวนี่แล่ะที่ทำให้ผมเครียด
"พี่จะไปไหนอ่ะ"
"พี่จะไปไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรา" ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะโยนกระเป๋าเสื้อผ้าใส่เข้าไปในรถ
"เกี่ยวสิทำไมจะไม่เกี่ยวเพราะสวยเป็นว่าที่คู่หมั้นของพี่" ครับ ผมลืมบอกไปสินะว่าเมื่อวันก่อนลุงเตอร์มาหาพ่อกับแม่ผมที่บ้านมาคุยเรื่องที่อยากให้ผมกับข้าวสวยหมั้นกันจนกว่าข้าวสวยจะเรียนจบหลังจากนั้นลุงเตอร์จะจัดงานแต่งงานให้ แม่ของผมน่ะทั้งยินดีและเต็มใจเป็นอย่างมากไม่ขัดอะไรเลยส่วนพ่อน่ะเหรอแม่ว่าไงก็ว่าตามกันแล้วผมจะพูดอะไรได้
"แค่ว่าที่คู่หมั้นแต่ยังไม่ได้หมั้นเพราะฉะนั้นถือว่าเราสองคนยังไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน"
"หึ คอยดูเถอะสวยจะทำให้พี่หมั้นกับสวยให้ได้ไม่เชื่อก็คอยดู"
"ฝันอยู่เหรอครับ หึ รอชาติหน้าละกันนะ"
"ไม่ต้องชาติหน้าหรอกค่ะชาตินี้แล่ะ" ผมไม่สนใจยัยจอมแสบที่ยืนเท้าสะเอวจ้องหน้าผมเหมือนไม่พอใจ อาการท่าทางแบบนี้คงจะหายป่วยแล้วล่ะสินะถึงมายืนแว๊ดๆใส่ผมอยู่นี่ ผมเปิดประตูฝั่งคนขับกำลังจะก้าวขาขึ้นไปนั่งแต่....
"ไปด้วย" ยัยข้าวสวยถือวิสาสะเปิดประตูอีกฝั่งแล้วพาตัวขึ้นมานั่งบนรถพร้อมกับรัดเข็มขัดเรียบร้อยพร้อมไปมากโดยไม่สนใจว่าผมเต็มใจให้ไปด้วยหรือเปล่า
"เฮ้ยไม่เอาลงไป" ผมพยายามลากยัยตัวแสบลงจากรถแต่ยัยข้าวสวยไม่ยอมลงขืนตัวเกาะประตูรถไว้แน่น สุดท้ายผมก็ทำอะไรไม่ได้ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลยพาไปด้วยเพราะเพื่อนผมมันไลน์มาตามแล้ว
ระหว่างทางขับไปสนามแข่งผมไม่พูดไม่คุยกับคนข้างๆเลยเพราะไม่อยากจะพูดด้วย ยัยข้าวสวยก็ทำมึนเปิดเพลงฟังนั่งชิวๆไปผมลอบมองแบบหมั่นไส้หลายรอบเพราะทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้
"พี่จะพาสวยไปไหนเหรอคะ" ประโยคแรกที่เอ่ยออกมาหลังจากที่ผมขับรถออกมาไกลถึงนอกเมือง
"พูดผิดพูดใหม่ใครจะพาเราไปไหนไม่ทราบเราตามขึ้นมาเองอย่าลืม"
"ก็นั่นแล่ะค่ะพี่จะไปไหนเหรอ"
"ไปสนามแข่งรถ" ผมตอบแบบขอไปทีเพราะไม่อยากจะพูดด้วยสักเท่าไหร่
"ว๊าววน่าสนุกจังเลยอ่ะ สนามแข่งรถสวยเคยไปครั้งนึง"
"ไปกับใคร" ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมกันไปถามคนข้างๆ
"กับเพื่อนค่ะตอนนั้นสอบเสร็จพอดีเพื่อนสวยก็เลยชวนไปดูมันแข่งรถสนุกมากเลยอ่ะผู้ชายหล่อๆเพียบ"
"บ้าผู้ชาย"
"พี่คราม!!!"
"อะไร"
"สวยเปล่าบ้าผู้ชายนะก็ผู้ชายที่สนามแข่งหล่อจริงๆนี่นาแต่ก็นะไม่มีใครหล่อเท่าพี่ครามของสวยได้สักคนเพราะฉะนั้นอย่าหึงเลยนะ^^"
"ใครหึงมิทราบ"
"แหมมถึงพี่ไม่พูดสวยก็รู้ดูจากน้ำเสียงพี่สวยก็พอเดาได้น่า"
"มโนเก่งเหมือนพี่ชายเราบอกไม่มีผิด เหอะ"