บท
ตั้งค่า

4

ณ บ้านนิธิไพศาล เสียงลูกชายกับลูกสาวเถียงบิดาเสียงดังด้วยความไม่พอใจ เมื่อบิดาจะให้ไปทำงาน โดยเฉพาะต้องไปทำงานกับคู่หมั้นข้างบ้าน

“คุณพ่อ!!!” วาโยตกใจไม่น้อยที่บิดาเอ่ยเรื่องที่เธอต้องไปช่วยราเมธคู่หมั้นของเธอทำงาน เพื่อดูแลกิจการของครอบครัว

“หนูไม่ชอบทำงาน คุณพ่อก็รู้นี่คะ วายพึ่งกลับมาขอพักผ่อนอีกสักหน่อยไม่ได้หรือไง” หญิงสาวเอ่ยอย่างขัดใจที่จะต้องไปทำงานกับคนหน้าเคร่งขรึมอย่างราเมธ ตั้งแต่กลับมาเขาเองก็ไม่เคยไปมาหาสู่หรือสนใจไยดีอะไรเธอเลยสักครั้ง แล้วเรื่องอะไร เธอจะต้องไปสนใจเขาด้วย เขาเฉยเมยกับเธอก่อน ทั้งๆ ที่มีผู้ชายอยากสานสัมพันธ์กับเธอมากมาย

“คนเราเกิดมาก็ต้องทำงานนะลูก เรียนจบกลับมาตั้งนานแล้วจะพักผ่อนอะไรนักหนา” คุณวีรยุทธ์ค่อยๆ พูดอย่างใจเย็นและสั่งสอนลูกชายและลูกสาวทั้งสองคนไปพร้อมๆ กัน

“เรารวยอยู่แล้ว ทำไมจะต้องทำด้วยล่ะคะ อีกอย่างถ้าจะทำงานจริงๆ ทำไมต้องไปทำงานกับบริษัทของคนอื่นด้วย วายทำที่บริษัทของเราก็ได้” หญิงสาวกล่าวกับบิดาอย่างขุ่นเคืองและขัดใจ

“ที่พ่อรวยได้ก็เพราะทำงาน แล้วหนูจะปล่อยให้กิจการที่พ่อสร้างมาไม่มีคนดูแลได้อย่างไรกัน อย่างไรเสียหนูก็ต้องไปศึกษาดูงานกับพี่เขา ราเมธไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน เขาเป็นคู่หมั้นของหนู อีกอย่างบริษัทของเรากับเขาก็เป็นหุ้นส่วนกัน ไม่ใช่บริษัทของคนอื่นอย่างที่ลูกพูดสักหน่อย ต่อไปหนูจะต้องช่วยเขาดูแลกิจการของเราสองครอบครัวให้เป็นปึกแผ่น” คุณวีรยุทธ์พูดเหตุผลให้ลูกสาวคนเดียวฟังอย่างตั้งใจ

“แล้วทีพี่วาล่ะคะ คุณพ่อไม่เห็นว่าอะไรเลย กลับมาก่อนหนูเป็นปีๆ ไม่เห็นทำงานทำการอะไร” หญิงสาวโยนไปให้พี่ชายที่นั่งฟังการสนทนาอยู่ใกล้ๆ

“อะไรกันน้องวาย เราคุยกับคุณพ่อแล้วมายุ่งอะไรกับพี่” วายุโวยวาย เมื่อน้องสาวโยนเรื่องงานที่เขาพยายาม

บ่ายเบี่ยงบิดามาตลอดมาที่เขาด้วย

“เหมือนกัน...” คุณวีรยุทธ์พูดประโยคสั้นๆ แต่หนักแน่น เหลียวไปมองลูกชายตัวดีที่กำลังโวยวายอยู่อีกด้าน คุณวีรยุทธ์ปวดหัวจริงๆ ไม่ทราบว่าตัวเองเลี้ยงลูกแบบไหนตั้งแต่ภรรยาเสียไป ลูกของเขาเลยไม่เอาอ่าวเลยสักคนเดียว ผิดกับราเมธและรามาวดีที่ขยันทำงาน จนธุรกิจเจริญรุ่งเรืองเป็นปึกแผ่น เขาจะต้องจัดการแต่งงานระหว่าง 2 ครอบครัวให้เร็วที่สุด นี่ถ้าเขาไม่อยู่ เด็กๆก็คงไม่ทำตามสัญญาแน่นอน เขาอุตส่าห์ขอร้องราเมธเอาไว้แล้ว ยังไงก็จะต้องจัดการส่งลูกชายกับลูกสาวตัวดีสองคนนี้ไปทำงานให้ได้

“อะไรนะครับ” วายุเสียงดังทันที

“เราได้ยินไม่ผิดหรอก” บิดากล่าวอย่างใจเย็น

“แกก็ต้องไปทำงานที่บริษัท เดี๋ยวพ่อจะให้หนูรินคู่หมั้นเราไปช่วยอีกแรง พ่อคุยกับราเมธแล้วว่าจะให้หนูรินไปเป็นเลขาแก”

“ยายชืดนั่นเหรอครับ” วายุพูดฉุนๆ เขานึกถึงรามาวดีที่วันๆ เอาแต่ทำงานงกๆ เหมือนพี่ชายของเธอก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา เพราะเธอคงจะน่าเบื่อสิ้นดี ตั้งแต่เขากลับมาจากเมืองนอก เขาก็ลืมเลือนเธอไปเสียสนิทว่าเธอเป็นคู่หมั้นของเขา และเขาก็ไม่เคยไปหาเธอหรือคิดจะสนใจเธอเลยแม้จะอยู่บ้านใกล้กัน

“นี่แกไปว่าหนูรินอย่างนั้นได้ยังไง เค้าออกจะหน้าตาสะสวยน่ารัก ขยัน เรียบร้อย และจากที่พ่อดูๆ มาก็เป็นแม่

ศรีเรือน นี่ถ้าแกได้มาเป็นศรีภรรยา แกนั่นแหละจะโชคดี ผู้หญิงดีๆ อย่างนี้หาได้ที่ไหนอีก ไม่เหมือนแม่ผู้หญิงของแกแต่ละคน พ่อบอกตามตรงเทียบหนูรินไม่ได้สักคน” คุณวีรยุทธ์พูดอย่างถูกใจว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้เสียเหลือเกิน จนทำให้วายุนึกหมั่นไส้ไปถึงคนที่บิดากำลังชื่นชมว่าจะมีดีสักแค่ไหนถึงทำให้พ่อของเขาปลื้มได้ถึงเพียงนี้

สองพี่น้องทำท่าจะพูดต่อแต่โดนบิดาเบรกเอาไว้เสียก่อน วายุกับวาโยนั้นถึงจะโดนตามใจจากบิดาก็จริง แต่บิดาเป็นคนเฉียบขาด พูดคำไหนต้องเป็นคำนั้น ทั้งสองรู้ดีว่าคราวนี้เอาจริง จึงไม่กล้าขัดใจท่านอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel